ราคาหุ้นกลุ่ม Non–Bank ยังปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากวานนี้ (15 มิถุนายน) หลังจากนายกรัฐมนตรีขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทบทวนเพดานอัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อประเภทต่างๆ
โดยหุ้น KTC อยู่ที่ 66 บาท ลดลง 5.71%
หุ้น AEONTS อยู่ที่ 196 บาท ลดลง 2.97%
หุ้น MTC อยู่ที่ 60 บาท ลดลง 2.44%
หุ้น TIDLOR อยู่ที่ 43 บาท ลดลง 1.71%
หุ้น SAWAD อยู่ที่ 72.75 บาท ลดลง 1.02%
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส ได้ประเมินกลุ่มเช่าซื้อว่า ก่อนหน้านี้ทาง ธปท. ได้ปรับลดเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบุคคลไปแล้วตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2563 ทั้งดอกเบี้ยสินเชื่อบุคคลเหลือ 25% (เดิม 28%) สินเชื่อจำนำทะเบียนปรับลดลงเหลือ 24% (เดิม 28%) และดอกเบี้ยบัตรเครดิตลงเหลือ 16% (เดิม 18%)
ทั้งนี้ แม้ว่าปัจจุบันผู้ให้บริการสินเชื่อบุคคลส่วนใหญ่จะคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าเพดานอยู่แล้ว แต่ฝ่ายวิจัยประเมินว่าหาก ธปท. มีการปรับลดเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบุคคลในอนาคตจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการกลุ่มเช่าซื้อบ้าง เนื่องจากประเมินว่าผู้ให้บริการสินเชื่อมีแนวโน้มจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่คิดกับลูกค้าลงบ้างด้วยเช่นกัน
ฝ่ายวิจัยได้ทำ Sensitivity Analysis ว่า ทุกๆ การปรับลดยีลด์ลง 1% จะส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิของ TIDLOR ลง 18.3% MTC ลง 12.8% AEONTS ลง 9.2% และ SAWAD ลง 7.0%
ทั้งนี้ หากไปดูกำไรสุทธิปี 2563 ของผู้ให้บริการสินเชื่อ (MTC, SAWAD และ TIDLOR) พบว่า มีการเติบโตต่อเนื่องจากสินเชื่อสุทธิที่เติบโตต่อเนื่อง หักล้างผลกระทบจากการปรับลดเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบุคคลตั้งแต่สิงหาคม 2563 ไปได้ มีเพียง AEONTS ที่กำไรสุทธิปี 2563 อ่อนตัวลง 7.2% YoY จากผลกระทบของการระบาดของโควิด-19
บล.เคทีบีเอสที มีมุมมองเชิงลบต่อกรณีดังกล่าวเช่นกัน เนื่องจากจะมีการเข้ามาควบคุมกำกับดูแลสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ซึ่งประเมินผลกระทบจำกัด เพราะในช่วงปีที่ผ่านมา สคบ. ได้มีการเข้ามาควบคุมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น Market Conduct รวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อจำนำทะเบียน กระทบต่อ AEONTS, KTC, MTC, SAWAD และ TIDLOR
ทั้งนี้ คาดว่าอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวลงจะอยู่ที่ประมาณ 2-4% โดยอิงจากการทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตลง 2 รอบ รอบละ 2% ส่วนดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถมีโอกาสปรับตัวลงมาใกล้เคียงกับที่ออมสิน (GSB) ปล่อยที่ 18-20% โดยคาดว่าจะลดลงอยู่ที่ 20% (ปรับลดลง 4%) เนื่องจากต้นทุนทางการเงินที่สูงกว่า GSB และสินเชื่อส่วนบุคคลมีโอกาสปรับตัวลงประมาณ 2-4%
โดยประเมินบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากมากไปน้อย ดังนี้
- MTC (มีสินเชื่อจำนำทะเบียนที่เราคาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยสูงสุด 4% อยู่ที่ 98%)
- TIDLOR (สินเชื่อจำนำทะเบียน 84%)
- SAWAD (สินเชื่อจำนำทะเบียน, สินเชื่อส่วนบุคคล และนาโนไฟแนนซ์ที่ 58%)
- AEONTS (มีสินเชื่อส่วนบุคคลที่คาดว่าปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2-4% อยู่ที่ 52% และสินเชื่อบัตรเครดิตที่ 41%)
- KTC (มีสินเชื่อบัตรเครดิตที่คาดว่าปรับลดอัตราดอกเบี้ยน้อยสุดที่ 66% และสินเชื่อส่วนบุคคล 34%)
สำหรับกลุ่ม Finance ยังคงน้ำหนักการลงทุนเท่ากับตลาด
พิสูจน์อักษร: นัฐฐา สอนกลิ่น