นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. เปิดเผยว่า คณะกรรมการตรวจร่างทำร่างพระราชบัญญัติประกอบและธรรมนูญว่าด้วยที่มาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และร่างพระราชบัญญัติประกอบและธรรมนูญว่าด้วยที่มาสมาชิกวุฒิสภา ที่สมบูรณ์เสร็จแล้วตั้งแต่วันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา และได้ส่งให้กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยจะนับ 15 วัน นับแต่วันที่ทั้ง 2 หน่วยงานรับร่าง ส่วนที่ว่าหาก 2 หน่วยงานมีข้อโต้แย้ง อาจทำให้การเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไปนั้น ตนเชื่อว่าไม่กระทบ เพราะเป็นกรอบเวลาปกติ ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงานจะต้องส่งคำโต้แย้งมาภายใน 10 วัน หากโต้แย้งมาก็ตั้งกรรมการร่วม 3 ฝ่าย ก็จะพิจารณาใน 15 วัน หากไม่โต้แย้งก็เป็นเรื่องที่ดี
พร้อมทั้งเชื่อว่า เฉพาะการตั้งกรรมการร่วม 3 ฝ่ายจะไม่ทำให้การเลือกตั้งเลยเวลาเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2562 เพราะถือเป็นขั้นตอนปกติ แต่หากจะกระทบก็เมื่อตั้งกรรมการร่วม แล้วส่งเรื่องกลับเข้ามาสภาเพื่อให้ สนช. พิจารณา ซึ่งหากมีการคว่ำร่างเกิดขึ้นก็จะเป็นปัญหา และหากมีการส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาก็จะกระทบต่อวันเลือกตั้งเช่นกัน ซึ่งตนสมมุติให้ฟัง เดี๋ยวหาว่าชี้นำ ให้ส่งศาลหรือให้คว่ำร่างกฎหมายลูก เพราะตนบอกมาตลอดว่าไม่คิดจะคว่ำกฎหมายลูก
อย่างไรก็ตาม หากเกิดอุบัติเหตุมีการคว่ำร่างขึ้นมา สนช. จะรับผิดชอบอย่างไร นายพรเพชรกล่าวว่า คว่ำหมายความว่าไม่เห็นด้วย แต่ร่างกฎหมายผ่านวาระ 3 ไปแล้ว ถ้า กรธ. ไม่ได้โต้แย้ง หรือโต้แย้งนิดหน่อยจะไปคว่ำเขาได้อย่างไร แต่ถ้ามีเปลี่ยนแปลงมาจากร่างที่ผ่าน สนช. ไปแล้ว ก็เป็นประเด็นปัญหา
“ผมยังไม่ทราบปัญหา แต่ขอยกตัวอย่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ซึ่ง กรธ. ไม่ได้โต้แย้ง แต่มีความเห็นในลักษณะให้ สนช. ควรส่งศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเราจำเป็นต้องส่งศาล และได้ส่งไปแล้ว ศาลรับเรื่องไว้แล้ว โดยจะมีการพิจารณาในวันที่ 5 กุมภาพันธ์นี้ โดยนายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน สนช. จะเข้าไปชี้แจงต่อศาล คาดว่าอีกสัปดาห์ศาลคงจะวินิจฉัย ดังนั้น หากประเด็นพิจารณาเป็นประเด็นปกติ ก็คงใช้เวลาเล็กน้อย”
