×

พรรคประชาชนเปิดวิสัยทัศน์ ‘มีเรา ไม่มีเทา’ ตั้งเป้าเพิ่ม สส. 100 เขต

โดย THE STANDARD TEAM
25.10.2025
  • LOADING...
พรรค ประชาชน เปิด วิสัยทัศน์ ‘มีเรา ไม่มีเทา’ ตั้งเป้า เพิ่ม สส. 100 เขต 1

วันนี้ (25 ตุลาคม) ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน นำเสนอหัวข้อ ‘มุ่งหน้าสู่การเลือกตั้ง 2569’ เพื่อเล่าถึงความพร้อมของพรรค งานนโยบาย ผู้สมัคร และคณะทำงานทั่วประเทศ เพื่อเข้าสู่การเลือกตั้งช่วงต้นปี 2569 ในการประชุมวิสามัญพรรคประชาชน

 

ณัฐพงษ์กล่าวย้อนถึงอดีตพรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกตั้งขึ้นมาในปี 2561 และสามารถได้ผู้แทนราษฎรมาถึง 81 คนในการเลือกตั้ง 2562 เหนือความคาดหมายของหลายคน เพราะสามารถตอบโจทย์ได้ว่าประเทศไทยจำเป็นต้องมีพรรคเพื่อยุติวงจรอุบาทว์รัฐประหาร ด้วยแนวนโยบายประชาธิปไตย ปฏิรูปกองทัพ ทลายทุนผูกขาด

 

ส่วนพรรคก้าวไกลก็สามารถตอบโจทย์สำหรับทุกปัญหา การมี 300 นโยบาย ครอบคลุมรอบด้านทุกระดับและกลุ่มของสังคม พร้อมจุดยืนของพรรค ‘มีลุงไม่มีเรา มีเราไม่มีลุง’ จนพรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้งได้มาเป็นอันดับ 1

 

และสำหรับพรรคประชาชนที่กำลังเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้ง 2569 โจทย์หลักของเราคือ พรรคสามารถนำเสนอวิธีการและแผนการปฏิบัติให้สังคมไทยได้อย่างชัดเจน เป็นรูปธรรม เมื่อเป็นรัฐบาลแล้วก็สามารถลงมือทำงานได้ทันที โดยในวันนี้ได้แบ่งเป็นหัวข้อชุดนโยบายและแผนงานได้เป็น

 

1. มีเราไม่มีเทา: รวมนโยบายและแผนงานเกี่ยวกับการปราบปรามอาชญากรรม สแกมเมอร์ ทุนเทา การคอร์รัปชัน และการสร้างรัฐโปร่งใส

 

2. มีเรามีคุณภาพชีวิตดี: รวมนโยบายและแผนงานเกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพชีวิต การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การนำเสนอนโยบายความมั่นคงในโลกยุคปัจจุบัน

 

3. มีเรามีเศรษฐกิจใหม่: รวมนโยบายและแผนงานเกี่ยวกับการพัฒนาเครื่องจักรใหม่ทางเศรษฐกิจ การลงทุน

 

4. มีเรามีประชาธิปไตย: รวมนโยบายและแผนงานเกี่ยวกับการพัฒนาระบบการเมือง รัฐธรรมนูญ การปฏิรูปกองทัพ การพัฒนาพิทักษ์สิทธิเสรีภาพ การกระจายอำนาจ และการพัฒนากระบวนการยุติธรรม

 

5. มีเราประเทศไทยมีอนาคต: รวมนโยบายและแผนงานเกี่ยวกับการปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน รวมทั้งการอัปสกิล ยกระดับความรู้ ทักษะความสามารถของประชาชนให้เท่าทันโลกปัจจุบันและอนาคต

 

ณัฐพงษ์กล่าวต่อว่า ขอย้ำอีกครั้งว่าปัญหาของประเทศที่หมักหมมมานานพวกนี้ใครๆ ก็รู้ว่ามีอยู่ วันนี้หมดเวลาแล้วที่จะปล่อยปัญหาพวกนี้ต่อไป ถึงเวลาของพรรคประชาชนที่สามารถเอาจริงด้วย 3 องค์ประกอบหลัก คือ 1.นโยบายที่ลงลึกไปถึงแผนการปฏิบัติ 2.ทีมที่มีความสามารถ เชื่อมือได้ และ 3.เจตจำนงทางการเมือง เรื่องนี้พวกเราเดินมาเกือบ 8 ปี ไม่ต้องพูดอะไรกันมากแล้ว ประชาชนรู้ดีว่าพวกเราเป็นฝ่ายค้านก็ทำงานเต็มที่ เมื่อเป็นรัฐบาลก็สามารถมั่นใจได้ว่าเราเอาจริงแน่นอน

 

โชว์วิสัยทัศน์ ‘มีเรา ไม่มีเทา’ ตั้งเป้าเพิ่ม สส. อีก 100 เขต

 

ณัฐพงษ์กล่าวต่อว่า ยุคนี้จะเป็นยุคที่เราต้องแสดงให้ประชาชนเห็นว่าเราพร้อมที่จะบริหารประเทศ และจะทำสิ่งต่างๆ เหล่านั้นให้ประสบความสำเร็จได้อย่างไร ซึ่งเรามีชุดนโยบายที่ดีที่สุดและทีมบริหารที่ดีที่สุดเพื่อเอาชนะการเลือกตั้งในครั้งหน้า

 

นอกจากเปิดตัวผู้สมัคร สส. เขต และเปิดหน้าผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ รวมถึงเปิดแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และชุดนโยบาย อีกสิ่งหนึ่งที่เราจะเปิด คือ การเปิดโฉมหน้าของชุดบริหารว่าที่รัฐมนตรีในแต่ละกระทรวง และกลยุทธ์ที่จะเอาชนะการเลือกตั้ง เพื่อเป็นการรักษาเขตพื้นที่เดิมและเพิ่มเติมอีก 100 เขต

 

“สำหรับวิสัยทัศน์ของรัฐบาลชุดใหม่ ในนามของพรรคประชาชน มีเรา ไม่มีเทา มีเรา มีเศรษฐกิจใหม่ มีเรา ประเทศไทยมีอนาคต มีเรา มีประชาธิปไตย และมีเรา มีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งจะผลักดันเรื่องเหล่านี้ต่อไป” ณัฐพงษ์กล่าว

 

ส่วนโรดแมปการยุบสภาต้องเปลี่ยนแปลง มีการเตรียมพร้อมรับมือหรือไม่ ณัฐพงษ์กล่าวว่า มีการประเมินสถานการณ์และเตรียมรับมือไว้อยู่แล้ว เชื่อว่ารัฐบาลสามารถบริหารจัดการได้ อาทิ กรณีการเสด็จสวรรคตที่ประชาชนทุกคนรู้สึกเศร้าโศกเสียใจ ทางรัฐบาลสามารถแยกการบริหารจัดการได้อยู่แล้ว จะมีการไว้ทุกข์และจัดงานพระราชพิธีต่างๆ ให้เป็นไปโดยความมีระเบียบเรียบร้อย รวมถึงเรื่องกระบวนการเดินหน้าเลือกตั้งและกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

 

‘เท้ง’ บอก ‘อนุทิน’ แก้ปัญหาสแกมเมอร์ เบาไป-ช้าไป

 

ณัฐพงษ์ยังกล่าวถึงข้อเสนอการผลักดันกรณีการปราบปรามสแกมเมอร์ในเวทีการประชุมอาเซียนซัมมิต ว่า ไม่จำเป็นที่ต้องใช้เวทีอาเซียนซัมมิตอย่างเดียว เพราะนายกฯ สามารถแสดงบทบาทออกไปในเวทีโลกได้ ในการให้ประเทศไทยเป็นตัวกลางการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ และอาจจะตั้งศูนย์ขึ้นมาเพื่อประสานกับหลายภาคส่วนในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน รวมทั้งการช่วยเหลือเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์

 

ส่วนการทำงานของรัฐบาลถือว่าคิดว่าเบาและช้าไป ไม่ได้จริงจังมากเพียงพอ ส่วนตัวเชื่อว่าประชาชนต้องการรัฐบาลที่บริหารประเทศทุกอย่างตรงไปตรงมาในเรื่องของข้อกล่าวหา เช่น เรื่องของรองนายกฯ ที่อาจจะมีส่วนพัวพันกับเครือข่ายเส้นเงินต่างๆ เกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์ อยากให้นายกฯ ได้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ไม่จำเป็นต้องรอให้ลาออกเอง เพราะอำนาจของนายกฯ สามารถทำได้

 

รวมถึงเรื่องอื่นๆ เช่น กระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่อยากให้รัฐบาลรักษาสัญญาตาม MOA เดินหน้ากระบวนการในการจัดทำรัฐธรรมนูญและเดินหน้าสู่การยุบสภา เพื่อทำให้มีการเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว ในกรอบระยะเวลาที่กำหนด พร้อมย้ำว่า จะใช้ทุกกลไกรัฐสภา และเวทีสมัชชาสหภาพรัฐสภา (IPU) เพื่อกดดันการแก้ปัญหาสแกมเมอร์ที่โยงไปถึงคนในรัฐบาล

 

“สิ่งหนึ่งที่ผมอาจพูดเป็นเงื่อนไขได้ชัดในวันนี้ คือเมื่อไรที่กระบวนการเดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ถูกล้มลง ตอนนั้นไม่มีเหตุผลใดๆ ที่เราจะยั้งในเรื่องของการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ 151 รัฐบาลอีกต่อไป ขณะที่ปัญหาอื่นๆ เราก็ไม่ได้เห็นว่าไม่ได้มีความสำคัญน้อยกว่าการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ทุกปัญหามีความสำคัญเท่ากัน เพียงแต่ข้อตกลงตาม MOA ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ไม่ว่าเราจะเลือกตั้งไปอีกสักกี่ครั้ง หากเราไม่เปลี่ยนกติกาสูงสุดของประเทศให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้นประเทศไทย ก็จะเดินหน้าไปไกลกว่านี้ไม่ได้”

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising