×

สิทธิพลแฉ ไทยกลายเป็นดินแดนศูนย์เหรียญ ฟรีวีซ่าจีนไร้การควบคุม แย่งงานคนไทย-ทำลายธุรกิจชุมชน

โดย THE STANDARD TEAM
25.03.2025
  • LOADING...
สิทธิพล

วันนี้ (25 มีนาคม) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ 26 (สมัยสามัญประจำปี ครั้งที่ 2) วาระพิจารณาญัตติอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลวันที่ 2 สิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายกรณีรัฐบาลปล่อยให้ผู้ประกอบการต่างชาติทำลายเศรษฐกิจไทยว่า วันนี้ไม่อาจไว้วางใจให้นายกรัฐมนตรีบริหารราชการแผ่นดินต่อไปได้ เพราะนายกฯ กำลังทำลายเศรษฐกิจไทย

 

จนทำให้ประเทศไทยกลายเป็นดินแดนศูนย์เหรียญ คนงานศูนย์เหรียญ ธุรกิจศูนย์เหรียญ ชุมชนศูนย์เหรียญ ทำลายงานของคนไทย ทำลายอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ทำลายธุรกิจชุมชนที่เป็นเส้นเลือดหลักของเศรษฐกิจไทย หากปล่อยให้บริหารประเทศแบบนี้ต่อไป เศรษฐกิจไทยจะล่มสลาย ไม่อาจแก้ไขให้กลับคืนดังเดิม

 

ประเด็นแรกคือ การแย่งงานคนไทย วันนี้มีแรงงานต่างชาติจำนวนมาก ไม่นับแรงงานเพื่อนบ้านที่เข้ามาทำงานในไทยผ่านการทำ MOU เช่น แรงงานจีนในพื้นที่ EEC ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา ที่ตั้งโรงงานจำนวนมาก ซึ่งคนแถวนั้นยืนยันว่าเห็นแต่คนงานจีน แบบนี้ประเทศไทยได้อะไรบ้าง ข่าวแบบนี้มีทั่วบ้านทั่วเมืองไม่เว้นแต่ละวัน แต่นายกฯ กลับเอาหูไปนาเอาตาไปไร่

เมื่อถามไปที่กระทรวงแรงงานเกี่ยวกับข้อมูลคนงานจีนใน 3 จังหวัดนี้ ได้คำตอบว่า 9,000 คน ตนเอาตัวเลขไปคุยกับหอการค้าจังหวัด คุยกับประชาชนในพื้นที่ ทุกคนส่ายหัวเลย อะไรจะน้อยขนาดนั้น เมื่อถามว่าได้ไปตรวจหรือไม่ว่ามีแรงงานจีนผิดกฎหมายเท่าไร ปีที่แล้ว 5 มิถุนายน 2567 – 22 มกราคม 2568 หรือครึ่งปีหลัง เจอแรงงานจีนผิดกฎหมายในพื้นที่ 3 จังหวัดนี้แค่ 2 คน ที่ฉะเชิงเทรา 2 คน ที่ระยอง 0 คน ที่ชลบุรี 0 คน ซึ่งน้อยอย่างไม่น่าเชื่อ 

 

ถ้าแรงงานเหล่านี้เป็นแรงงานต่างชาติทักษะสูง มาเป็นผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชำนาญการ ตนก็คงเห็นด้วยเพราะรัฐบาลโดย EEC ก็เปิดช่องให้จ้างได้ จะได้มาสอนคนไทยให้เก่งขึ้น ไม่ใช่มาแย่งงาน ซึ่ง EEC ก็ระบุคุณสมบัติไว้รัดกุม เช่น ถ้าเป็นผู้เชี่ยวชาญ ต้องจบปริญญาโท มีประสบการณ์ไม่น้อยกว่า 3 ปี ถ้าเป็นผู้ชำนาญการ ต้องมีประสบการณ์เกี่ยวกับอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษหรือกิจการที่เกี่ยวข้อง 

 

แต่เมื่อไปดูของจริงไม่ใช่แบบนั้น ตนลงพื้นที่เก็บข้อมูลที่จังหวัดระยองและจังหวัดชลบุรี จำนวน 4 โครงการ มีคนจีนรวมทั้งสิ้น 15,000-16,000 คน คำถามคือคนจีนเหล่านี้อยู่ได้อย่างไร ทำไมตัวเลขจึงต่างจากตัวเลขคนงานจีนที่กระทรวงแรงงานเก็บได้ ที่สำคัญคนเหล่านี้เข้ามาแย่งทำอาชีพที่สงวนสำหรับคนไทยตามกฎหมายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวทั้งสิ้น ไม่ว่าจะกรรมกร ก่อสร้าง ขับรถ หรือเร่ขายสินค้า

 

ต้นตอสำคัญของเรื่องนี้ที่ประชาชนตั้งคำถามคือ มาตรการ Visa Free ของนายกรัฐมนตรี จะบอกว่าไม่รู้ไม่ได้ สำนักข่าวไปสัมภาษณ์คนไทยในบริษัทคนจีนที่คนงานในบริษัทมีพฤติกรรม ‘เวียนเทียนวีซ่า’ เข้าออกประเทศ อยู่ครบกำหนด 60 วัน 90 วัน ก็เวียนออกแล้วกลับมาใหม่ ขบวนการนี้มีค่าใช้จ่ายหัวละ 3,000 บาท เราเรียกขบวนการนี้ว่า Visa Run คือเข้าออกเวียนเทียนวีซ่า ข้อมูลที่หน่วยงานรัฐให้ในกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ ประเมินว่ามีคนจีนที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ 20,000-30,000 คน นายกฯ ปล่อยปละละเลยให้เกิดเรื่องอย่างนี้ได้อย่างไร

 

ต้องบอกว่าความจริงแล้วนโยบาย Visa Free ไม่ได้แย่ การหานักท่องเที่ยวเข้าประเทศไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาคือออกนโยบายมาแล้ว ไม่กำกับดูแลให้เคร่งครัด คนที่ท่านให้เข้ามา ได้ไปดูหรือไม่ว่าเขานำ Visa Free ไปทำอะไร วันนี้เขาเอาไปทำงาน แย่งงานคนไทย และเป็นแรงงานผิดกฎหมาย 

 

นอกจากนี้ ธุรกิจต่างชาติกำลังรุกคืบมาทำลายธุรกิจไทย กินรวบตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ตัวอย่างในวงการอสังหาริมทรัพย์ คนในวงการบอกว่ากำลังเจอ ‘อสังหา ศูนย์เหรียญ’ คือการที่ผู้ประกอบการต่างชาติ เข้ามาทำธุรกิจสร้างบ้าน แต่ขนวัสดุทุกอย่างเข้ามาเองทั้งหมด ยังไม่นับคนงานที่ใช้คนงานสัญชาติประเทศตัวเอง ต้องตั้งคำถามว่าบ้านหนึ่งหลัง ประโยชน์ตกอยู่กับเศรษฐกิจไทยกี่บาท ปัจจุบันผู้ประกอบการบอกว่ายิ่งแย่ เพราะผู้ประกอบการต่างชาติใช้ระบบน็อกดาวน์ ความจำเป็นในการใช้วัสดุในประเทศยิ่งน้อยลง ท่านจะบอกไม่รู้ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้ เพราะข่าวออกกันโครมๆ 


“ถ้าในร้าน ในโรงงาน ใช้แต่คนงานต่างชาติ สุดท้ายมีอะไรตกถึงเราบ้าง เศรษฐกิจไทยได้ประโยชน์อะไร ตอบได้ว่าเป็น 0 ตรงกันข้ามกับพวกเขาที่หากำไรแบบผิดๆ ในประเทศเราทุกวัน”

 

สิทธิพลยังยกตัวเลขการเพิ่มขึ้นของร้านอาหารจีนปี 2567 ร้านอาหารจดทะเบียนตั้งใหม่ 8,119 ราย เป็นทุนจดทะเบียนของนักลงทุนจีนมากกว่าครึ่ง ยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่น่าแปลกใจที่ผู้ประกอบการไทยจะค้าขายลำบาก บางครั้งไม่ใช่เพราะไม่เก่ง ไม่ใช่แค่เศรษฐกิจไม่ดี แต่เพราะคู่แข่งที่กำลังเผชิญนั้นมีจำนวนมากและกินรวบเหลือเกิน 

 

มาถึงสิ่งที่ร้ายที่สุด คือนายกฯ กำลังปล่อยให้เขาครอบครองที่ดินได้ ถ้าพูดในเชิงเศรษฐกิจ เรากำลังสูญเสียทรัพยากรที่มีจำกัด เสียแล้วเสียเลย ยากที่จะแก้ไขกลับคืนได้ในอนาคต เราเห็นข่าวทุนจีนกว้านซื้อที่ดิน ครอบครองที่ดินเต็มไปหมด นายกฯ จะบอกว่าไม่รู้ไม่ได้ เราพบว่าทุนเทาเหล่านี้มีการครอบครองที่ดินหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นตั้งบริษัทนอมินีมาซื้อที่ดิน หรือเปลี่ยนประธานมูลนิธิ จากคนไทยเป็นคนจีน มูลนิธิเหล่านี้มีสินทรัพย์ อาคารบ้านเรือน รวมถึงที่ดินได้ ความพิเศษของเรื่องนี้คือ ได้ที่ดินโดยไม่ต้องจ่ายค่าโอนค่าภาษีอะไรเลย ในขณะที่คนไทยจำนวนมากยังไม่มีที่อยู่ที่ทำกิน มีปัญหาเอกสารสิทธิ์ ประชาชนโดนรัฐฟ้องร้องไล่ที่ รัฐบาลปล่อยปละละเลยให้เกิดเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร

 

อีกตัวอย่างในพื้นที่ EEC จังหวัดระยอง วันนี้ธุรกิจชุมชน ร้านค้าของคนไทยรายเล็กรายน้อยแทบอยู่ไม่ได้ คนจีนเมื่อเข้ามาจำนวนมากก็เปิดกิจการ ขายอาหารสด ขายของชำ คาราโอเกะ สถานบันเทิง ร้านของคนไทยถูกล้อมไว้หมดแล้ว ที่เราเคยภูมิใจว่าไปชวนเขามาลงทุน มาสร้างโรงงาน 

 

วันนี้นอกจากที่มาจะไม่จ้างงานคนไทย จ้างแต่คนจีน ซึ่งส่วนใหญ่ผิดกฎหมาย ยังขนมาทั้งห่วงโซ่อุปทาน ไม่ใช้วัสดุวัตถุดิบในประเทศ แข่งกับธุรกิจไทยในทุกอุตสาหกรรม ขยายซึมลึกไปในระดับธุรกิจชุมชน และถ้าเจาะลึกของที่ขายในร้าน จะพบว่าเป็นของนำเข้าแบบผิดกฎหมาย ไม่มีทั้ง อย. ไม่มีทั้ง มอก.  

 

วันนี้ร้านค้ารายเล็กรายน้อยอยู่ไม่ไหวแล้ว ภายใต้การบริหารประเทศของนายกฯ แพทองธาร ประเทศไม่ได้อะไรเลย ดูมีอย่างเดียวที่เราได้ คือบรรดาไทยเทาทั้งหลายที่หากินกับขบวนการเหล่านี้ ทั้งขบวนการหากินกับคนจีนให้สามารถใช้ Free Visa ทำงานในประเทศไทยได้ อำนวยความสะดวกให้เกิดสถานการณ์ Visa Run หรือกระทั่งการตรวจแล้วไม่พบคนงานจีนที่ผิดกฎหมาย

 

ถ้าไร้การกำกับดูแลที่ดี นักลงทุนจีนดีๆ ก้าวหน้า ไฮเทคก็มี แต่ก็จะไม่อยากมาไทย เหลือแต่นักลงทุนที่ยอมจ่ายเงินเพื่อทำผิดมาตรฐาน ไม่สนใจเรื่องสิ่งแวดล้อม ไม่ใส่ใจเรื่องขยะ ไม่สนใจคุณภาพชีวิตแรงงาน ขบวนการทุนต่างชาติสีเทาเหล่านี้ ตนยืนยันว่าไม่สามารถอยู่ได้ ถ้าไม่มีไทยเทา ไม่ว่าจะทุนเทาหรือราชการเทา ให้ความช่วยเหลือ

 

สิทธิพลกล่าวว่า นายกฯ ปล่อยปละละเลยอย่างร้ายแรง ทำร้ายเศรษฐกิจไทยแบบไม่มีวันหวนกลับ เปลี่ยนประเทศไทยเป็น ‘ดินแดนศูนย์เหรียญ’ ทำลายทั้งงาน ทำลายทั้งธุรกิจ ทำลายทั้งชุมชน นายกฯ อ้างว่าไม่รู้ไม่ทราบไม่ได้ เพราะสถานการณ์ลุกลามบานปลาย คนในพื้นที่รู้ดี ข่าวออกทุกวัน ตนจึงไม่อาจไว้วางใจให้ แพทองธาร ชินวัตร บริหารราชการแผ่นดินได้อีกต่อไป

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising