ยุทธนา ทัพเจริญ โฆษกคณะกรรมการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) แถลงผลประชุมว่า วิป สนช. ได้บรรจุร่างพระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ เข้าสู่วาระการประชุม สนช. ในวันที่ 28 กันยายนนี้ โดยร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีจำนวน 71 มาตรา และมีจำนวน 8 หมวดกับบทเฉพาะกาล
สำหรับสาระสำคัญ เป็นการกำหนดขอบเขตพื้นที่พัฒนาพิเศษภาคตะวันออกในจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง และพื้นที่อื่นใดที่อยู่ในภาคตะวันออกที่กำหนดเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาเป็นเขตไปพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกและให้เพิ่มรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในคณะกรรมการฯ อีกตำแหน่งหนึ่ง โดยมีสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกรับผิดชอบงานธุรการและงานวิชาการและเป็นจุดบริการรวมศูนย์ หรือ One-Stop Service
และเสนอพื้นที่ส่วนใดส่วนหนึ่งภายในเขตพัฒนาภาคตะวันออกเป็น ‘เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ’ ให้คณะกรรมการฯ เห็นชอบ
ร่างกฎหมายนี้ยังกำหนดสิทธิประโยชน์ของผู้ประกอบกิจการและผู้อยู่อาศัยภายในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ ดังนี้
สิทธิในการถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์อื่นของคนต่างด้าว ซึ่งประกอบกิจการและอยู่อาศัยในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษจะได้รับสิทธิฯ สามารถทำสัญญาเช่าได้ถึง 50 ปี และต่อสัญญาเช่าได้อีกไม่เกิน 49 ปี โดยไม่ต้องรับอนุญาตตามประมวลกฎหมายที่ดินหรือภายใต้การจำกัดสิทธิของคนต่างด้าวตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด
นอกจากนี้ยังกำหนดให้จัดตั้งกองทุนพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เพื่อพัฒนาพื้นที่ชุมชนและประชาชน หรือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกด้วย