เสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ระบุว่า เกาหลีเหนือทำการทดสอบยิงขีปนาวุธไม่ทราบชนิดไปยังชายฝั่งตะวันออกในเช้าวันนี้ (1 ตุลาคม) ซึ่งถือเป็นรอบที่ 4 ของสัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ความตึงเครียดเหนือคาบสมุทรเกาหลีรุนแรงขึ้นกว่าเดิม โดยการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือมีขึ้นหลังจากที่กองทัพเรือเกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ได้จัดการซ้อมรบต่อต้านเรือดำน้ำร่วมกันเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีเมื่อวานนี้ (30 กันยายน)
ด้านหน่วยยามฝั่งของญี่ปุ่นรายงานว่า เกาหลีเหนือทดสอบยิงวัตถุซึ่งคาดว่าเป็นขีปนาวุธทิ้งตัวอย่างน้อย 2 ลูก ขณะที่สำนักข่าว NHK อ้างแหล่งข่าวของรัฐบาลว่า ขีปนาวุธลูกที่ 2 ได้ตกลงนอกเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น
นักวิเคราะห์มองว่า การที่เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธถี่ขึ้นนั้น อาจเพราะกำลังพยายามสร้างอาวุธสำหรับปฏิบัติการ รวมถึงพยายามที่จะฉวยโอกาส ‘ทำให้การทดสอบเป็นเรื่องปกติ’ ในช่วงเวลาที่ทั่วโลกกำลังทุ่มความสนใจไปยังวิกฤตการณ์ในยูเครนและปัญหาอื่นๆ
เลฟ-เอริก อีสลีย์ ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยอีฮวาของเกาหลีใต้ กล่าวว่า “แม้เกาหลีเหนือจะเป็นรัฐโดดเดี่ยว แต่ก็พัฒนาอาวุธให้มีความทันสมัยได้อย่างรวดเร็ว แถมยังพยายามใช้ประโยชน์ในช่วงเวลาที่โลกกำลังให้ความสนใจกับการแข่งขันระหว่างสหรัฐฯ และจีน และการที่รัสเซียประกาศผนวกดินแดนของยูเครนเข้ากับแผ่นดินแม่”
แฟ้มภาพ: Chung Sung-Jun / Getty Images
อ้างอิง: