นิกร จำนง ได้ให้ความเห็นต่อกรณีที่ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงว่าพรรคชาติไทยพัฒนาได้มีการกู้เงินมาเป็นรายได้ของพรรคว่า ไม่เป็นความจริง เพราะพรรคชาติไทยพัฒนานั้น ตั้งแต่ตั้งพรรคมาก็ไม่เคยกู้เงินผู้ใดมาเป็นรายได้ของพรรคเลย
เอกสารที่ปิยบุตรได้นำมาแถลงนั้นเป็นงบดุลเก่า ซึ่งระบุเกี่ยวกับเจ้าหนี้-เงินยืมทดรองจากสาขาพรรค ช่วงที่กองทุนเพื่อพัฒนาพรรคการเมืองยกเลิกการสนับสนุนสาขาพรรค แต่กฎหมายกำหนดให้สาขาพรรคนั้นต้องมีการแสดงค่าใช้จ่ายต่อไป กรรมการสาขาพรรคจึงต้องเป็นผู้ทดรองจ่ายเงินดังกล่าวไป ถือเป็นเจ้าหนี้ทางรูปบัญชีสะสมมาหลายปี ซึ่งทางพรรคได้มีการสำแดงในรูปบัญชีส่งให้ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองรับทราบอยู่ตลอดมา มิได้เป็นเงินรายได้จากการกู้ยืมแต่อย่างใด
นิกรกล่าวอีกว่า ตนเองได้ทำหน้าที่บริหารพรรคมากว่า 20 ปี ในฐานะผู้อำนวยการพรรค ตั้งแต่สมัยเป็นพรรคชาติไทยมาจนถึงชาติไทยพัฒนา ผ่านการการปฏิบัติตามกฎหมายพรรคการเมืองมาหลายฉบับ แต่ก็ไม่เคยเห็นการกู้ยืมเงินของพรรคชาติไทย และพรรคชาติไทยพัฒนามาก่อน
เนื่องจากทางพรรคเห็นว่า การกู้ยืมเงินมาใช้ในกิจการพรรคนั้น โดยหลักการและเจตนารมณ์ของการตั้งพรรคการเมืองนั้นไม่น่าจะกระทำได้
ดังนั้นแม้ว่าผู้บริหารของพรรคในอดีตจะมีฐานะการเงินดีพอที่จะให้กู้เงินเพื่อมาใช้ในการบริหารพรรค และใช้จ่ายในการเลือกตั้งอย่างเพียงพอก็ตาม แต่ทั้งพรรคชาติไทยและพรรคชาติไทยพัฒนาก็มิได้เคยดำเนินการดังกล่าวแต่อย่างใดเลย
พรรคหารายได้โดยการขอรับบริจาคเงินเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารพรรคตามที่กฎหมายพรรคการเมืองกำหนด และจัดระดมทุนในช่วงที่มีการเลือกตั้งตามกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายก็ตามที ด้วยเห็นว่าสอดคล้องทั้งหลักการของพรรคการเมือง ซึ่งเป็นสถาบันการเมืองของประชาชน และเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย
นิกรกล่าวว่าตนไม่ขอให้ความเห็นต่อกรณีที่ปิยบุตรได้กล่าวถึงพรรคเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่เป็นจริงนี้ เพราะไม่อยากให้เป็นความขัดแย้งระหว่างพรรคการเมืองในช่วงที่ประชาชนต้องการความสามัคคีปรองดองของพรรคการเมืองภายหลังการเลือกตั้ง จึงขอสงวนความเห็นที่มีต่อการกระทำดังกล่าวไว้
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์