นีลเส็น ประเทศไทย เปิดเผยมูลค่าเม็ดเงินโฆษณาในช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม ปี 2020 พบว่าหดตัวลง 10% เหลือ 43,502 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีมูลค่ามากถึง 48,585 ล้านบาท แน่นอนว่าการลดลงของงบโฆษณาในครั้งนี้เป็นผลพวงของวิกฤตโควิด-19 ที่เข้ามาสร้างผลกระทบให้กับภาคธุรกิจอย่างไม่ทันตั้งตัว ตลอดจนเศรษฐกิจของประเทศที่ยังมีความผันผวนอยู่สูง
ช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ สื่อทีวียังคงเป็นสื่อที่มีสัดส่วนของการใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดอยู่ที่ 56% หรือ 24,758 ล้านบาท ทว่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนได้ลดลง 12% สื่ออื่นๆ เองก็ลดลงกันถ้วนหน้า ทั้งสื่อนอกบ้านและสื่อเคลื่อนที่ 4,815 ล้านบาท ลดลง 10%, สื่อในโรงภาพยนตร์ 1,422 ล้านบาท ลดลง 54%, สื่อสิ่งพิมพ์ 1,483 ล้านบาท ลดลง 39%, สื่อวิทยุ 1,499 ล้านบาท ลดลง 15% และสื่ออินสโตร์ 281 ล้านบาท ลดลง 33% มีเพียงสื่อเดียวที่เติบโตคือสื่ออินเทอร์เน็ต 9,244 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23%
ขณะที่ภาพรวมเม็ดเงินโฆษณาในเดือนพฤษภาคมยังคงได้รับผลกระทบหนักจากสถานการณ์โควิด-19 โดยลดลง 29% เหลือ 7,241 ล้านบาท เมื่อช่วงเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งทำได้ 10,164 ล้านบาท ทุกสื่อได้รับผลกระทบเหมือนกันหมดคือลดลง 25-56%
แต่กลุ่มที่หนักที่สุดคือสื่อในโรงภาพยนตร์ เนื่องจากยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้จากมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้มูลค่า 674 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อนเหลือ 0 บาท และมีเพียงสื่อเดียวที่เติบโตคือสื่ออินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้น 23% จาก 1,503 ล้านบาท เป็น 1,849 ล้านบาท
ข้อมูลจากนีลเส็นระบุอีกว่า ในปี 2020 นี้ภาพรวมอุตสาหกรรมหลักใช้เม็ดเงินโฆษณาลดลงจากปีที่แล้ว โดย 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage) มูลค่า 6,104 ล้านบาท ลดลง 19% รองลงมาคือกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลและเครื่องสำอาง (Personal Care & Cosmetic) มูลค่า 5,603 ล้านบาท ลดลง 10% ลำดับที่ 3 คือกลุ่ม Media & Marketing มูลค่า 5,175 ล้านบาท ลดลง 2% และลำดับที่ 4 คือกลุ่มยานยนต์ (Automotive) มูลค่า 2,707 ล้านบาท ลดลง 27%
ขณะที่กลุ่มยา (Pharmaceuticals) มูลค่า 2,368 ล้านบาท และกลุ่มสินค้าครัวเรือนในบ้าน (Household Products) มูลค่า 1,503 ล้านบาท ใช้เม็ดเงินโฆษณาเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว คือเพิ่มขึ้น 29% และ 4% ตามลำดับ
ส่วนบริษัทที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดของเดือนมกราคม-พฤษภาคม ปี 2020 สามลำดับแรก ได้แก่ ยูนิลีเวอร์ มูลค่า 1,628 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยแคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาคือใหม่ ลักส์ ชำระล้างแบคทีเรียและผิวเนียนนุ่ม ทางสื่อทีวีมูลค่า 18 ล้านบาท รองลงมาคือ ซันซิล ไบโอติน คอมเพล็กซ์ 5 เท่า ทางสื่อทีวีมูลค่า 17 ล้านบาท
บริษัท ทีวีไดเร็ค มูลค่า 1,019 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยแคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาคือ SKG ลำโพงกระเป๋าลาก ทางสื่อทีวีมูลค่า 47 ล้านบาท รองลงมาคือเครื่องบดสับปั่น ซื้อ 1 แถม 1 ทางสื่อทีวีมูลค่า 34 ล้านบาท
บริษัท Lifestar มูลค่า 985 ล้านบาท ซึ่งลดลง 12% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยแคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาคือ คอร์ดี้ ทิเบตแอนด์ภูฏาน ซื้อ 1 แถม 1 ทางสื่อทีวีมูลค่า 29 ล้านบาท รองลงมาคือ เอส.โอ.เอ็ม. ไอ-แคร์ ดูแลสุขภาพดวงตา ทางสื่อทีวีมูลค่า 13 ล้านบาท
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์