วันนี้ (9 มกราคม) ศูนย์สำรวจความคิดเห็น ‘นิด้าโพล’ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง ‘การเมือง เศรษฐกิจ และโควิด ในปี 2565’ ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-6 มกราคม 2565 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,325 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมือง เศรษฐกิจ และโควิด ในปี 2565 การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของนิด้าโพล สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97
จากการสำรวจเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อสถานการณ์ทางการเมืองไทยโดยทั่วไปในปี 2565 เมื่อเทียบกับปี 2564 พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 46.34 ระบุว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะวุ่นวายเหมือนเดิม รองลงมาร้อยละ 34.72 ระบุว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะวุ่นวายมากขึ้น, ร้อยละ 10.04 ระบุว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะวุ่นวายน้อยลง, ร้อยละ 3.77 ระบุว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะไม่วุ่นวายเลย และร้อยละ 5.13 ระบุว่าเฉยๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในปี 2565 พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 45.36 ระบุว่านายกรัฐมนตรี พล.อ. ประยุทธ์ จะอยู่ยาวตลอดทั้งปี รองลงมา ร้อยละ 11.47 ระบุว่าจะมีการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่, ร้อยละ 7.85 ระบุว่ารัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จะมีการปรับคณะรัฐมนตรี, ร้อยละ 7.32 ระบุว่านายกรัฐมนตรี พล.อ. ประยุทธ์ จะลาออก, ร้อยละ 6.64 ระบุว่า พล.อ. ประยุทธ์ จะต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากอยู่ในตำแหน่งครบ 8 ปี
ร้อยละ 3.47 ระบุว่าจะเกิดความแตกแยกในพรรคร่วมรัฐบาล และทำให้รัฐบาลล่ม, ร้อยละ 3.17 ระบุว่า พล.อ. ประยุทธ์จะโดนชุมนุมขับไล่ ทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี, ร้อยละ 1.28 ระบุว่ารัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จะโดนรัฐประหาร, ร้อยละ 0.98 ระบุว่า พล.อ. ประยุทธ์จะโดนคดีความทางการเมืองจนต้องหลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และร้อยละ 16.45 ระบุว่าเฉยๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
สำหรับความคิดเห็นของประชาชนต่อม็อบ ‘กลุ่มสามนิ้ว’ ในปี 2565 พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 46.64 ระบุว่าม็อบจะไปเรื่อยๆ เหมือนเดิม รองลงมา ร้อยละ 14.34 ระบุว่าม็อบจะมีความรุนแรงมากขึ้น, ร้อยละ 12.00 ระบุว่าม็อบจะอ่อนแรงลง, ร้อยละ 5.43 ระบุว่าม็อบจะสามารถยกระดับได้, ร้อยละ 3.92 ระบุว่าม็อบจะยุติลง, ร้อยละ 3.55 ระบุว่าแกนนำม็อบจะโดนคดีความมากขึ้น
ร้อยละ 1.58 ระบุว่าม็อบจะสามารถขับไล่รัฐบาลได้ และม็อบจะโดนสลายการชุมนุมอย่างหนัก ในสัดส่วนที่เท่ากัน, ร้อยละ 1.13 ระบุว่าม็อบจะสามารถบรรลุข้อเรียกร้องตามที่ต้องการ, ร้อยละ 0.91 ระบุว่าม็อบจะสามารถเจรจายุติความขัดแย้งกับรัฐบาลได้ และร้อยละ 14.57 ระบุว่าเฉยๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ส่วนความคิดเห็นของประชาชนต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจไทยในปี 2565 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2564 พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 45.73 ระบุว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจจะแย่ลง รองลงมาร้อยละ 34.04 ระบุว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจจะเหมือนเดิม และร้อยละ 20.23 ระบุว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจจะดีขึ้น
ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดในปี 2565 ในประเทศไทย เมื่อเปรียบเทียบกับ ปี 2564 พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 42.04 ระบุว่าการแพร่ระบาดของโควิดจะรุนแรงขึ้น รองลงมาร้อยละ 24.98 ระบุว่าการแพร่ระบาดของโควิดจะเหมือนเดิม, ร้อยละ 18.72 ระบุว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดจะลดน้อยลง และร้อยละ 14.26 ระบุว่าการแพร่ระบาดของโควิดจะไม่น่ากลัวอีกต่อไป