เพราะคนเราสามารถสวมหมวกได้มากกว่าหนึ่งใบ โดยที่หมวกเหล่านั้นอาจไม่ได้มีสีสันหรือรูปแบบที่เหมือนกันเลยก็ได้
นิโคลีน โซเรนเซน เองก็เช่นกัน หมวกใบหนึ่งของเธอคือนักฟุตบอลอาชีพหญิง ผู้เล่นในตำแหน่งปีกของทีม ‘ทอฟฟี่สีน้ำเงิน’ เอฟเวอร์ตัน และทีมชาติเดนมาร์ก ผู้มีความฝันที่อยากจะนำต้นสังกัดไปวาดลวดลายในเวทีระดับยุโรปให้ได้
แต่หมวกอีกใบของเธอคือนักศึกษาด้านวิศวกรรมนวัตกรรม (Innovation Engineering) ของมหาวิทยาลัยเทคนิคแห่งเดนมาร์ก และความฝันอีกหนึ่งสิ่งของเธอคือการอยากเห็นผู้หญิงหันมาสนใจเรื่องของวิทยาศาสตร์กันอย่างจริงจังมากขึ้นในอนาคต
ไม่แปลกที่ผู้คนทั่วไปอาจจะประหลาดใจนิดหน่อยหากรู้ว่าเด็กสาวหน้าใสคนนี้เป็นนักฟุตบอลอาชีพ แต่จะประหลาดใจมากหน่อยกับบทบาทด้านการศึกษาของเธอ ซึ่งเธอใช้เวลามากกว่า 25 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในการศึกษาผ่านระบบทางไกลหลังจากจบหน้าที่ของการเป็นนักฟุตบอลในแต่ละวันเพื่อเรียนรู้ในสิ่งที่เธอรัก
คำถามที่โซเรนเซนเจอเสมอคือ “วิศวกรรมนวัตกรรมนี้มันเกี่ยวกับอะไร?”
“วิศวกรรมนวัตกรรมเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก” แววตาของนักเตะสาววัย 23 ปีเปล่งประกายขึ้นมาทันทีในการให้สัมภาษณ์ “มันเกี่ยวกับการปรับแต่งผลิตภัณฑ์ใหม่และแตกต่าง และเป็นการร่วมมือกันระหว่างบริษัทที่แตกต่างกัน”
พูดให้เข้าใจง่ายกว่านั้น วิศวกรรมนวัตกรรมตามความเห็นของโซเรนเซนคือการท้าทายขนบเดิมของวิทยาศาสตร์ ด้วยการพยายามหาหนทางใหม่ในการทำสิ่งต่างๆ ด้วยการนำเทคนิคนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์เพื่อแก้ไขปัญหาและเพื่อสนองความต้องการของโลก
รถไฟความเร็วสูงที่ใช้พลังแม่เหล็กไฟฟ้าในการยกรถให้ลอยขึ้นจากราง คือตัวอย่างง่ายๆ ที่เธอยกขึ้นมา
View this post on Instagram
ปีกสาววัย 23 ปีกับหนังสือเรียนเล่มหนาของเธอ!
สำหรับโซเรนเซน การได้ศึกษาด้านนี้นั้นเป็นการเติมเต็มชีวิตของเธอไปด้วย เพราะแม้จะเป็นนักฟุตบอลอาชีพที่มีอนาคตอีกยาวไกล แต่เธอรู้ดีว่าชีวิตการเล่นของเธอนั้นเหลืออีกแค่เพียงสิบปีเศษ ดังนั้นการมีอีกสิ่งหนึ่งไว้ให้ชีวิตได้ยึดเหนี่ยวเป็นสิ่งที่ดี
“มันสำคัญกับฉันมาก เพราะมันทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันเป็นได้มากกว่าแค่นักฟุตบอล ฉันยังมีสิ่งอื่นในชีวิตอยู่”
ที่สำคัญการเรียนสิ่งยากๆ เหล่านี้ก็มีส่วนช่วยพัฒนาการเล่นของเธอด้วย! “มันก็มีความเชื่อมโยงกันบ้างระหว่างสิ่งที่ฉันเรียนกับวิธีที่ฉันเตะฟุตบอล บางทีฉันก็คิด ฉันจะหาวิธีเล่นให้มันดีขึ้นได้อย่างไร? ฉันจะปรับการเล่นอย่างไร? ดังนั้นชุดความคิดที่มาจากการศึกษาของฉัน วิธีที่ฉันถูกสอนให้มองสิ่งต่างๆ และวิธีการแก้ปัญหาก็มีส่วนช่วยในการเล่นอย่างมาก”
ตรงนี้เองที่สาวน้อยมหัศจรรย์ของเราเชื่อและอยากเห็นผู้หญิงให้ความสนใจในวิทยาศาสตร์มากขึ้น เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่จะไม่รู้ว่ามีการเปิดสอนเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์มากมาย รวมถึงมีตำแหน่งงานด้วย และปัญหาใหญ่ที่สุดคือหลายคนไม่คิดด้วยซ้ำว่าตัวเองจะทำได้
สิ่งที่จะช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้คือการที่คนที่ทำงานในวงการวิทยาศาสตร์จะต้องออกมาสื่อสารกับคนในสังคมให้ได้รู้ว่าแต่ละงานนั้นเป็นไปได้อย่างไร และมันมีขั้นตอนกระบวนการต่างๆ อย่างไร
“เวลาที่ฉันคุยกับคนอื่นเกี่ยวกับการศึกษาของฉัน ทุกคนก็จะดูตื่นเต้นมากและสนใจขึ้นมา แต่พวกเขาไม่รู้จักสิ่งเหล่านี้มาก่อนเลย มันก็น่าจะทำให้ทุกคนได้รู้บ้างว่าบางทีการเป็นวิศวกรมันก็เท่ได้นะ”
แต่การเป็นนักฟุตบอลสาวก็เท่ได้เหมือนกัน และสำหรับโซเรนเซน การได้ย้ายมาเล่นใน Women’s Super League ในอังกฤษเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาก็ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเธอ โดยเฉพาะหลังจากที่เจอกับช่วงเวลาเลวร้ายกับการเล่นที่สโมสรลินโคปิง ทางตอนใต้ของสวีเดนที่อะไรก็แย่ไปหมด ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัย ระบบสาธารณูปโภค ไปจนถึงการสื่อสารกับคนอื่น
“ฉันชอบเมืองลิเวอร์พูลมากเลย ที่นี่มีส่วนที่ติดริมน้ำเยอะมาก มันทำให้ฉันคิดถึงโคเปนเฮเกน ฉันใช้เวลาเดินสำรวจรอบเมืองได้หลายชั่วโมง เมืองนี้เจ๋งมาก”
แต่ในการเล่นกับเอฟเวอร์ตันก็ไม่ได้ราบรื่นเสมอไป แม้เธอจะสามารถพูดได้ถึง 4 ภาษา เดนมาร์ก, สวีเดน, อังกฤษ และนอร์เวย์ก็ตาม เพราะผู้จัดการทีมของเธอเป็นคนสกอตแลนด์! เรียกได้ว่าสำเนียงคนไฮแลนด์นั้นปราบเซียนเสมอ แต่เธอก็ชินกับสำเนียงนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
“วิลลี เคิร์ก (ผู้จัดการทีมหญิงเอฟเวอร์ตัน) เก่งมากๆ เวลาที่เขาแนะนำอะไรมา สิ่งที่เขาพูดกับฉันเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากๆ ฉันรู้สึกว่าตัวเองพัฒนาขึ้นมาในช่วงปีที่ผ่านมา”
เพราะเขา…และเพราะเขาอีกคนคือแฟนหนุ่มของเธอที่ย้ายประเทศมาอยู่ด้วยกันในช่วงโรคระบาด ทำให้ชีวิตของโซเรนเซนไม่แย่เกินไปเพราะไม่ได้เจอครอบครัวมาร่วมปีแล้วนับตั้งแต่เดินทางมาจากเดนมาร์ก
ตอนนี้สถานการณ์ทุกอย่างกำลังคลี่คลายไปในทางที่ดี สิ่งที่ปีกจอมพลิ้วฉลาดพอจะเล่นตรงไหนก็ได้ในแนวรุกต้องการมากที่สุดนอกจากการได้พบกับพ่อและแม่อีกครั้ง คือการได้ลงสนามโชว์สเตปสวยๆ ต่อหน้าแฟนบอลอีกครั้ง
“สิ่งที่ฉันคิดถึงมากที่สุดคือการได้เล่นฟุตบอลต่อหน้าแฟนๆ ฉันรอวันที่พวกเขาจะได้กลับเข้ามาสนามอีกครั้งเพื่อที่จะได้พบกันแทบไม่ไหว”
เผื่อว่าแมตช์จบ จะได้ชวนคุยกันต่อเรื่องความฝันอีกอย่างของเธอ? 🙂
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
