วันนี้ (8 มิถุนายน) วัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เปิดเผยว่า ด้วยปรากฏข่าวตามสื่อต่างๆ และแถลงการณ์ของผู้เกี่ยวข้อง กล่าวอ้างว่าเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2563 วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักกิจกรรมการเมืองชาวไทยที่อาศัยอยู่ในกัมพูชา ได้ถูกกลุ่มบุคคลนำตัวขึ้นรถหายไปในขณะที่กำลังซื้อสินค้าที่หน้าอาคารที่พักในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา และปัจจุบันยังไม่ทราบแน่ชัดว่าข้อเท็จจริงเป็นประการใด แต่เป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน และมีองค์กรต่างๆ ออกมารณรงค์เรียกร้องความยุติธรรม และเรียกร้องให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ดำเนินการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในกรณีดังกล่าว
วัสกล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากกรณีวันเฉลิมแล้วยังมีกรณีกล่าวอ้างว่านักเคลื่อนไหวทางการเมืองชาวไทยที่ไปอาศัยอยู่ในต่างประเทศถูกบังคับให้สูญหายอีกหลายกรณี ได้แก่
- กรณี สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ กับพวกอีกสองคนคือ ชัชชาญ บุปผาวัลย์ และไกรเดช ลือเลิศ ได้หายตัวไปจากบ้านพักขณะที่อาศัยอยู่ในประเทศลาว
- กรณี สยาม ธีรวุฒิ กับพวกอีกสองคนคือ ชูชีพ ชีวะสุทธิ์ และกฤษณะ ทัพไทย ถูกจับกุมที่ประเทศเวียดนาม และส่งตัวกลับมายังประเทศไทยแล้ว ไม่ทราบว่าอยู่ที่ใด แต่กองบังคับการปราบปรามได้ยืนยันว่ายังไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่หน่วยงานใดทำการจับกุมตัวสยามมาส่งมอบแก่พนักงานสอบสวน นอกจากนี้กระทรวงการต่างประเทศได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของเวียดนาม และได้รับแจ้งเป็นการภายในว่าไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางเข้ามายังเวียดนามของสยามและพวกอีกสองคนแต่อย่างใด ในเรื่องนี้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้มีข้อเสนอแนะไปยังองค์กรที่เกี่ยวข้องแล้ว
วัสย้ำว่ากรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสิทธิและเสรีภาพของคนไทยในต่างประเทศ แต่เหตุการณ์ตามข้อกล่าวอ้างเกิดขึ้นนอกราชอาณาจักรไทย จึงไม่อยู่ในหน้าที่และอำนาจที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจะดำเนินการตรวจสอบได้ แต่สมควรดำเนินการโดยหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่และอำนาจโดยตรง ดังนั้นจึงได้ขอความร่วมมือให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาให้หน่วยงานในสังกัดดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริง ข้อมูล หรือพยานหลักฐาน เพื่อทำความจริงให้ปรากฏและเผยแพร่ให้สาธารณชนทราบโดยทั่วกัน ในการนี้กระทรวงการต่างประเทศอาจประสานกับครอบครัวของวันเฉลิมให้ส่งข้อมูลหรือพยานหลักฐานทั้งปวงที่แสดงว่ามีการถูกบังคับให้สูญหายไปยังกระทรวงการต่างประเทศโดยตรงเพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไป
“ที่ผ่านมาคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลในการตรากฎหมายป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ภายใต้เจตนารมณ์ที่สอดคล้องกับอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี (CAT) ที่ประเทศไทยเป็นภาคี และอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ (ICPPED) ซึ่งประเทศไทยได้ให้ความเห็นชอบในหลักการแล้ว พร้อมทั้งขอให้คณะรัฐมนตรีเร่งเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสูญ (ICPPED) ด้วย ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างหลักประกันที่ชัดเจนในการคุ้มครองสิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและพันธกรณีระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน” วัสกล่าว