×

เอ็นโกโล ก็องเต ‘นักเตะมหัศจรรย์ธรรมดา’ สุดยอดกองกลางแห่งยุคและคนดีที่หนึ่งของหัวใจ

06.05.2021
  • LOADING...
เอ็นโกโล ก็องเต ‘นักเตะมหัศจรรย์ธรรมดา’ สุดยอดกองกลางแห่งยุคและคนดีที่หนึ่งของหัวใจ

HIGHLIGHTS

5 mins. read
  • ที่บ้านก็องเตมีพี่น้องชายหญิงรวมกันทั้งหมด 4 คน และเขาเป็นคนโต ดังนั้นเมื่อพ่อจากไปอย่างกะทันหันความรับผิดชอบจึงตกอยู่ที่สองบ่าของเขาตั้งแต่เด็กที่จะต้องช่วยแม่ในการดูแลครอบครัว และโดยเฉพาะอย่างยิ่งน้องๆ
  • ช่วงฟุตบอลโลก 1998 เขาหารายได้จุนเจือครอบครัวด้วยการเก็บขยะตามสนามฟุตบอลขาย และมันก็ทำให้เขาได้เห็นหนทางที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น นั่นคือการเล่นฟุตบอล
  • ครั้งหนึ่งเขาได้พบกับแฟนอาร์เซนอลที่มัสยิด แฟนบอลคนดังกล่าวจำเขาได้และยังอารมณ์เสียอยู่ที่กันเนอร์สของเขาแพ้ต่อเชลซีก็เลยเดินไปบ่นเรื่องนี้ สิ่งที่ก็องเตทำคือ ‘ขอโทษ’ พร้อมกับรอยยิ้ม แถมยังตอบรับคำชวนมากินอาหารค่ำด้วย

 

ลูกา โมดริช, โทนี โครส และคาเซมิโร คือสามประสานกองกลางเทพของทีม ‘ราชันชุดขาว’ เรอัล มาดริด ที่เป็นเบื้องหลังความสำเร็จมากมายทั้ง 2 ช่วงเวลาที่ ซีเนดีน ซีดาน เป็นนายใหญ่แห่งถิ่นซานติอาโก เบร์นาเบว

 

ชื่อชั้นของทั้งสามนั้นแม้ในปัจจุบันก็ยังคงน่าเกรงขามอยู่โดยเฉพาะในเกมสำคัญ เช่น ‘เอลกลาสิโก’ หรือการเผชิญหน้ากับลิเวอร์พูลในศึกฟุตบอลยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่วาดลวดลายสะกดเกมแดนกลางได้หมดจด

 

แต่ไม่ใช่กับเชลซี ทีมที่สามารถพิสูจน์ความสามารถให้เห็นด้วยฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมทั้งในเกมที่บุกไปเสมอเรอัล มาดริดถึงถิ่น และล่าสุดในเกมเมื่อคืนที่ผ่านมาที่สยบอดีตแชมป์ 13 สมัยลงได้อย่างเด็ดขาด 2-0 คว้าตั๋วเข้าขิงชนะเลิศถ้วยใบใหญ่ที่สุดของยุโรปได้อีกครั้ง

 

ผลงานของทีม ‘สิงโตน้ำเงินคราม’ ในเกมนี้นับว่ายอดเยี่ยมในทุกตำแหน่งและพื้นที่ของสนาม ไม่ว่าจะเป็นเกมรับอย่าง เอดูอาร์ เมนดี้ นายทวารจอมหนึบที่ช่วยป้องกันจังหวะสำคัญๆ ในช่วงครึ่งแรกจากการยิงของ คาริม เบนเซมา หรือในแนวรุกทั้ง ติโม แวร์เนอร์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมสัน เมาท์ ไอ้หนูมหัศจรรย์ที่ยกระดับการเล่นของตัวเองไปอีกขั้นสู่การเป็นหัวใจสำคัญของทีมที่เชลซีไม่สามารถขาดได้ และกลบรัศมีของรุ่นพี่อย่าง เอเดน อาซาร์ ที่กลายเป็นดาวดับกับเรอัล มาดริดไม่เหลือแสงใดๆ ให้มองเห็นในเกมนี้

 

อย่างไรก็ดียังมีอีกหนึ่งคนที่ได้รับการยกย่องอย่างมากจากแฟนๆ และยังเป็นได้รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเกมนี้ด้วยนั่นก็คือ เอ็นโกโล ก็องเต ยอดมิดฟิลด์ตัวรับทีมชาติฝรั่งเศสที่งัดผลงานในระดับมาสเตอร์คลาสออกมา

ไม่ใช่แค่จัดการกับสามประสานกองกลางของเรอัล มาดริดอย่างโมดริช, โครส และคาเซมิโรเท่านั้น แต่ก็องเตยังพล่านไปทั่วสนามไม่ว่าจะในกรอบเขตโทษของตัวเอง หรือเติมไปสนับสนุนเกมรุก ราวกับว่าก็องเตได้ใช้วิชาเงานินจาพันร่างกระจายตัวไปอยู่ทั่วทุกจุดของสนาม

 

ผลงานในเกมนี้ หรือความจริงควรจะบอกว่าผลงานในช่วงนับตั้งแต่ที่ โธมัส ทูเคิล เข้ามาคุมทีมเชลซี สามารถบอกได้ว่านี่คือก็องเตในเวอร์ชันที่ดีที่สุด เก่งที่สุด ยอดเยี่ยมที่สุดอีกครั้งนับตั้งแต่ที่เขาพาเลสเตอร์ ซิตี้คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ในฤดูกาล 2015-16 

 

และน่าจะดียิ่งกว่าผลงานกับเชลซีในฤดูกาลต่อมา 2016-17 ที่เขาได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของฟุตบอลอังกฤษด้วย

 

แต่ถึงจะเล่นได้ยอดเยี่ยมแค่ไหน จะเป็นซูเปอร์สตาร์ในสายตาแฟนบอลขนาดไหน เอ็นโกโล ก็องเต ก็ยังคงเป็นคนเดิมเสมอไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อย

 

ครั้งหนึ่งเคยดวลกับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช มาแล้วสมัยเล่นให้ก็อง



เอ็นโกโล ก็องเต เกิดที่กรุงปารีส มหานครแห่งความรักของโลกแต่เป็นชาวปารีเซียงเชื้อสายมาลี เพราะพ่อแม่ของเขาตัดสินใจอพยพจากประเทศมาลีเพื่อหนีชีวิตแร้นแค้นมาเริ่มต้นใหม่ที่ประเทศฝรั่งเศส

 

ที่บ้านก็องเตมีพี่น้องชายหญิงรวมกันทั้งหมด 4 คน และเขาเป็นคนโต ดังนั้นเมื่อพ่อจากไปอย่างกะทันหันความรับผิดชอบจึงตกอยู่ที่สองบ่าของเขาตั้งแต่เด็กที่จะต้องช่วยแม่ในการดูแลครอบครัว และโดยเฉพาะอย่างยิ่งน้องๆ

 

ความรับผิดชอบนี้จึงทำให้เขาได้เรียนรู้ ‘คุณค่าของการทำงานหนัก’ มาตั้งแต่ยังเล็กๆ 

 

ก็องเตรู้ว่านี่คือหนทางเดียวที่จะทำให้เขาสามารถมีอะไรๆ ในชีวิตได้บ้าง

 

ในวัยเด็กก็องเตจึงเริ่มทำงานเป็นคนเก็บขยะเพื่อช่วยแม่หาที่ทำงานเป็นแม่บ้านหารายได้มาจุนเจือครอบครัว

 

งานเก็บขยะนั้นไม่ใช่งานที่ง่าย แต่ก็องเตก็ไม่ได้ย่อท้อ ในแต่ละวันเขาจะเดินเก็บขยะไปทั่วย่านทิศตะวันออกของกรุงปารีส โดยนำขยะและของมีค่าบางอย่างที่เก็บได้ไปส่งให้กับบริษัทรับรีไซเคิลขยะเพื่อแลกกับเงิน

 

แต่งานแบบนี้เขาก็รู้ดีว่ามันคงไม่ได้ทำให้ร่ำรวยอะไรขึ้นมา ไอ้หนูเอ็นโกโลจึงมองหาหนทางในชีวิตที่จะทำให้ความเป็นอยู่ของครอบครัวดีขึ้น

 

แล้วโอกาสนั้นก็มาปรากฏตรงหน้าในช่วงของการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 1998 ที่ประเทศฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ ครั้งนั้นก็องเตรับจ้างเก็บขยะที่แฟนบอลทิ้งไว้รอบๆสนาม โดยเขาจะไปเก็บขยะทั่วสนามที่อยู่ไม่ไกลจากที่พักของเขา รวมถึงตามจตุรัสที่ใช้เป็นสถานที่ชมเกมฟุตบอลต่างๆ

 

เงินที่ได้จากการเก็บขยะก็ส่วนหนึ่ง แต่สิ่งล้ำค่ามากกว่าคือการที่เขาได้เห็นความสำเร็จของทีมชาติฝรั่งเศสที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยแรกในประวัติศาสตร์ได้

 

นักเตะที่เป็นกำลังสำคัญของทัพ ‘Les Bleus’ ในครั้งนั้นหลายๆ คนคือนักฟุตบอลที่อพยพถิ่นฐานมาจากแอฟริกา ไม่ว่าจะเป็น เธียร์รี อองรี, ซีเนอดีน ซีดาน, ปาทริก วิเอรา, ลิลิยอง ตูราม หรือ นิโคลาส์ อเนลกา และแชมป์ฟุตบอลโลกก็ทำให้หัวใจของชาวฝรั่งเศสเปิดกว้างขึ้น พวกเขารู้สึกติดใจน้อยลงกับการเห็นนักฟุตบอลอพยพเหล่านี้

 

นั่นทำให้เขาค้นพบคำตอบของชีวิตตั้งแต่อายุ 8 ขวบ

 

“ผมจะเล่นฟุตบอล”

 

หลังจบศึกฟุตบอลโลกได้ไม่นาน ก็องเตก็เริ่มตระเวนหาโอกาสในการเล่นฟุตบอลตามอคาเดมีที่อยู่ใกล้ๆ บ้าน และความตั้งใจบวกกับพรสวรรค์ของเขาก็เริ่มเข้าตาแมวมองจนได้รับโอกาสในทีม ชีแอส ชูเรส์เนส์ อคาเดมีฟุตบอลเล็กๆ ทางตะวันตกของปารีส

 

ตอนนั้นถึงจะตัวเล็กแต่ก็องเตก็เล็กพริกขี้หนู ด้วยร่างกายที่ถูกฝึกความอดทนมาแบบไม่รู้ตัว จากการทำงานเก็บขยะทำให้เขามีความอึดมากสามารถวิ่งไล่บอลไปทั่วสนามได้ทั้งวัน เลี้ยงควบบอลในสนามใหญ่ได้ แถมไม่กลัวที่จะเข้าเสียบคู่แข่งด้วยทั้งๆ ที่ตัวเล็กนิดเดียว

 

 

ครั้งหนึ่งเขาได้โอกาสลงเล่นในรายการหนึ่งซึ่งทีมกำลังลำบาก ก็องเตได้เล่นในช่วง 10 นาทีสุดท้าย และแม้จะอายุน้อยกว่าคนอื่นถึง 3 ปีแต่กลับปกป้องทีมจนไม่มีคู่แข่งคนไหนผ่านเขาไปได้ สุดท้ายทีมก็ชนะ และชัยชนะครั้งนี้เองที่ทำให้เขาได้รับการยอมรับจากเพื่อนๆ

 

แต่ในขณะที่เพื่อนๆ กำลังฉลองให้กับความสุดยอดของเขา ไอ้หนูก็องเตกลับขอหลบมุมอยู่เงียบๆ คนเดียวไม่ได้เฮฮาอะไรด้วย 

 

ไม่ได้อยากเก๊กหล่อหรือหิวเก๊กฮวย ก็องเตก็แค่เป็นเด็กขี้อาย และนิสัยนี้ก็ติดตัวเขามาตลอด

 

ความขี้อาย นิสัยถ่อมตน ไร้ซึ่งความทะเยอทะยานทำให้เขาอยู่กับสโมสรแห่งนี้ถึง 4 ปี โดยที่ทุกวันสิ่งที่เขาทำคือการตั้งใจเล่นให้ดีที่สุดเท่านั้น ไม่ว่าโค้ชจะสั่งอะไรก็จะทำหมด

 

ครั้งหนึ่งโค้ชแกล้งเขาเล่นด้วยการบอกว่า “เอ็นโกโล ฉันให้เวลานาย 2 เดือนในการหัดเดาะบอลด้วยเท้าซ้ายให้ได้ 50 ครั้ง เท้าขวา 50 ครั้ง และโหม่งอีก 50 ครั้ง”



สิ่งที่เกิดขึ้นคือในอีก 2 เดือนต่อมา เขาทำให้โค้ชดูว่าเขาทำได้ตามที่โค้ชบอกจริงๆ ด้วยความตั้งใจ ซึ่งเมื่อเห็นความตั้งใจแบบเหลือเชื่อของเด็กคนนี้โค้ชก็รู้ว่าเขาไม่ควรจะแกล้งแหย่เล่นอะไรแบบนี้อีก สู้ปล่อยให้เขาได้เติบโตอย่างธรรมชาติและเฝ้าจับตาการเติบโตนั้นดีกว่า

 

เมื่อเริ่มเติบใหญ่ก็องเตขอรับจ็อบหาลำไพ่พิเศษหาเงินจุนเจือครอบครัวด้วยการเป็นโค้ชสอนบอลเด็กๆ ในอคาเดมีอีกทอด แต่พรสวรรค์และความตั้งใจพาเขาไปได้ไกลกว่านั้น เมื่อได้โอกาสในการย้ายมาเล่นให้กับบูโลญจน์ในช่วงปี 2010-2012

 

ผลงานที่น่าประทับใจกับบูโลญจน์ ต่อด้วยก็อง (2013-2015) นำมาซึ่งโอกาสที่ดีกว่าเดิมเมื่อเลสเตอร์ ซิตี้ติดต่อชวนให้เขามาเล่นฟุตบอลอาชีพในอังกฤษ

 

หลังจากนั้นคือสิ่งที่เราได้รู้ว่าก็องเตเป็นกำลังสำคัญในการนำเลสเตอร์ ซิตี้สร้างตำนาน ‘เทพนิยายจิ้งจอก’ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้อย่างมหัศจรรย์ที่สุดในฤดูกาล 2015-16 ก่อนที่เขาจะย้ายไปเชลซีในปีต่อมา และพาทีมคว้าแชมป์ต่อเนื่องจนได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (PFA)

 

ในวันที่ได้รับรางวัลก็องเต กล่าวด้วยน้ำเสียงเล็กๆ แบบคนขี้อายว่า “ย้อนไป 5 ปีก่อนผมยังไม่ได้เล่นฟุตบอลอาชีพเลย” ซึ่งเขาหมายความเช่นนั้นจริงๆ

 

ก็องเตกับการโพสท่าวันเปิดตัวที่หล่อที่สุด

 

สิ่งที่หลายคนจับตาคือเมื่อย้ายมาอยู่กับทีมใหญ่ที่อุดมไปด้วยซูเปอร์สตาร์อย่างเชลซี ‘คนดี’ อย่างก็องเตจะใจแตกหรือไม่

 

คำตอบที่หลายคนได้รับคือไม่เลย! เอ็นโกโล ก็องเต คนนี้ก็ยังเป็นคนเดิม ต่อให้เขาได้เป็นแชมป์ฟุตบอลโลกกับฝรั่งเศสก็ไม่มีอะไรที่เปลี่ยนไป

 

คนขี้อายคนนี้ยืนมองเพื่อนถ่ายรูปกับถ้วยฟุตบอลโลกอยู่เงียบๆ จนเมื่อเพื่อนเริ่มสังเกตก็เลยเรียกให้เขาเข้ามาถ่ายรูปกับถ้วยแชมป์โลกด้วย

 

ในขณะที่นักฟุตบอลพรีเมียร์ลีกจำนวนมากขับรถซูเปอร์คาร์คันงามเพื่อเป็นการแสดงฐานะ รถของก็องเตคือมินิ คูเปอร์ แถมไม่ใช่รถมือหนึ่งด้วย! แต่เป็นรถมือสองที่เขาซื้อมาและยังใช้งานอยู่ในทุกวันนี้

 

ครั้งหนึ่งเขาได้พบกับแฟนอาร์เซนอลที่มัสยิด แฟนบอลคนดังกล่าวจำเขาได้และยังอารมณ์เสียอยู่ที่กันเนอร์สของเขาแพ้ต่อเชลซีก็เลยเดินไปบ่นเรื่องนี้ สิ่งที่ก็องเตทำคือ ‘ขอโทษ’ พร้อมกับรอยยิ้ม แถมยังตอบรับคำชวนมากินอาหารค่ำด้วยกันที่บ้านตามคำสอนของศาสนาอิสลาม

 

นอกจากจะตอบรับด้วยความยินดีแล้ว ก็องเตยังไปนั่งเล่นเกม FIFA ด้วยกันที่บ้านของแฟนบอลคนดังกล่าวอีก! ซึ่งถึงจะเป็นเกม FIFA แต่ก็องเตก็ยังเก่งกว่าแฟนอาร์เซนอล หลังจากนั้นเขายังนั่งดูรายการ Match of the Day ก่อนจะขอตัวกลับบ้าน

 

ก็องเตยังปฏิเสธที่จะใช้วิธีการเลี่ยงการเสียภาษีจำนวนมากในช่วงที่เขาเพิ่งต่อสัญญาฉบับใหม่กับเชลซีเมื่อปี 2018 ที่มีข่าวว่าได้รับค่าเหนื่อยสูงถึงสัปดาห์ละ 3 แสนปอนด์ โดยสโมสรแนะนำให้เขาเลี่ยงภาษีด้วยการจ่ายเงินผ่านบริษัทที่ตั้งบนเกาะเคย์แมน แต่เขาปฏิเสธและขอเสียภาษีแบบถูกต้องเท่านั้น

 

เรื่องเดียวในชีวิตที่ก็องเตจะขอเป็นคนโกงคือการเล่นเกม UNO ที่เขาเคยโดนจับได้ในคลิปที่ถ่ายบรรยากาศในแคมป์ทีมชาติฝรั่งเศส ซึ่งเพื่อนทุกคนรู้ดีว่าเกมนี้พวกเขาโดนหน้าซื่อๆ ของก็องเตหลอกไม่ได้!



ที่เหลือก็ไม่มีอะไร ชีวิตของเขาเรียบง่าย อยากวิ่งไปสนามซ้อมก็ไป โค้ชสั่งให้เล่นตรงไหนก็เล่น ต่อให้เจอช่วงลำบากฟอร์มตกก็ไม่ท้อ ล้มวันนี้วันหน้าก็ลุกขึ้นมาใหม่ได้

 

เป็นนักเตะมหัศจรรย์ธรรมดา ที่ไม่มีใครจะไม่รัก 🙂


พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X