‘เงินติดล้อ’ โชว์กำไรปี 2564 รวมกว่า 3.16 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.2% ผลจากรายได้ดอกเบี้ยรับสินเชื่อเพิ่มขึ้น ขณะที่ ‘หนี้เสีย’ ลดลงเหลือ 1.2% ด้านที่ประชุมบอร์ดบริษัทมีมติจ่ายเงินปันผลเป็นหุ้นในอัตรา 13 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ พร้อมจ่ายปันผลเป็นเงินสดอีกหุ้นละ 0.274 บาท
บมจ.เงินติดล้อ (TIDLOR) รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ในปี 2564 บริษัทมีกำไรสุทธิรวม 3,168.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 31.2% โดยมีสาเหตุหลักจากการปรับตัวขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยรับจากสินเชื่อรวม รวมทั้งรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ ซึ่งมีสัดส่วนมาจากการเติบโตของธุรกิจประกันชีวิตและประกันวินาศภัย
สำหรับในปี 2564 บริษัทมีอัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เท่ากับ 1.2% ลดลง 0.5% เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่มีอัตราส่วนอยู่ที่ 1.7% โดยแม้ว่าในปี 2564 สถานการณ์โควิดระลอกที่ 3 เพิ่มสูงขึ้น แต่บริษัทยังสามารถบริหารจัดการคุณภาพลูกหนี้ได้อย่างดี
ส่วนอัตราหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นในปี 2564 อยู่ที่ 2 เท่า ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากปี 2563 ซึ่งอยู่ที่ 3.5 เท่า และปรับลดลงต่อเนื่องภายหลังจากการเพิ่มทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเดือนพฤษภาคม 2564 รวมทั้งยังเป็นผลจากการบริหารจัดการเงินกู้ยืมที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย
โดยในปี 2564 บริษัทมีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 1,286 สาขา ครอบคลุม 74 จังหวัด ส่วนสาขาที่เพิ่มขึ้นในปีดังกล่าวมีจำนวน 210 สาขา สอดคล้องกับกลยุทธ์การเพิ่มจำนวนสาขาทั้งสิ้น 500 สาขาภายในปี 2566
ทั้งนี้ TIDLOR ยังรายงานตลาดหลักทรัพย์ด้วยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทวันที่ 21 กุมภาพันธ์ มีมติให้จ่ายเงินปันผลเป็นหุ้นสามัญจำนวน 178.38 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 3.70 บาท โดยจ่ายให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัทในอัตราส่วน 13 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 660 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 0.285 บาทต่อหุ้น
ส่วนในกรณีมีผู้ถือหุ้นรายใดมีเศษของหุ้นเดิมหลังการจัดสรรหุ้นปันผลแล้วให้จ่ายเป็นเงินสดแทนการจ่ายเป็นเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.285 บาท ขณะเดียวกันที่ประชุมยังมีมติให้เพิ่มทุนจดทะเบียน 178.38 ล้านหุ้น เพื่อรองรับการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวด้วย
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทยังมีมติจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.274 บาท รวมเป็นจำนวนเงินไม่เกิน 635 ล้านบาท ตามนโยบายจ่ายเงินปันผลของบริษัทไม่น้อยกว่า 20% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินของบริษัท หลังจากการหักภาษีและจัดสรรทุนสำรอง