สลาก กอช. เตรียมขายไตรมาส 1/69 พร้อมทำ Sandbox ทดสอบระบบ 7 วัน ก่อนขายจริง ลงนาม MOU จับมือ 17 พันธมิตร เปิดช่องทางจำหน่าย ถ่ายทอดสด
วันนี้ (9 ธันวาคม) จารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เผยว่า สลากออมทรัพย์เพื่อการดำรงชีพในยามชรา หรือ ‘สลาก กอช.’ เตรียมเปิดจำหน่ายภายใน ไตรมาส 1 ปี 2569 หลัง พ.ร.บ.กองทุนการออมแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 จะมีผลบังคับใช้วันที่ 6 มกราคม 2569 นี้
โดยระหว่างนี้ กอช. อยู่ระหว่างนำเสนอกฎหมายลำดับรอง และขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้พิจารณา ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
ทั้งนี้ ในช่วงก่อนเปิดจำหน่ายจริง กอช. จะทดสอบระบบในรูปแบบ Sandbox เป็นเวลา 7 วัน โดยมีการขายจริงและออกรางวัลจริง เพื่อให้ระบบมีความพร้อม
จารุลักษณ์ระบุว่า กอช. ได้ขอกรอบงบประมาณรวม 780 ล้านบาท และตั้งเงินรางวัลงวดละ 15 ล้านบาท พร้อมแผนจำหน่ายเริ่มต้น 5 ล้านฉบับต่อสัปดาห์ ซึ่งอาจขยายได้หากผ่านการประเมินและได้รับอนุมัติจาก ครม.
โดยสลาก กอช. เป็น สลากขูดดิจิทัล ราคาใบละ 50 บาท ซื้อได้สูงสุดเดือนละ 3,000 บาท ออกรางวัลทุกวันศุกร์ เวลา 17.00 น. ประกอบด้วย รางวัลที่ 1 มูลค่า 1 ล้านบาท จำนวน 5 รางวัล และรางวัลที่ 2 มูลค่า 1,000 บาท จำนวน 10,000 รางวัล หากขายไม่หมด เงินรางวัลส่วนเกินจะสะสมเป็นแจ็กพอต ซึ่งผู้ถูกรางวัลจะได้รับเงินผ่านพร้อมเพย์โดยอัตโนมัติ
เงินต้นจากสลากทุกใบจะถูกสะสมเป็นเงินออมและจะได้รับคืนเมื่ออายุครบ 60 ปี หรือในกรณีทุพพลภาพ เสียสัญชาติ หรือเสียชีวิต (คืนให้ทายาท) โดยผู้มีอายุเกิน 60 ปี จะได้รับเงินคืนภายใน 5 ปี และสามารถเริ่มซื้อสลากชุดใหม่ได้ทุก 5 ปี
ช่องทางจำหน่าย
เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2568 กอช. ได้ลงนาม MOU กับหน่วยงานรัฐ-เอกชน 17 แห่ง เพื่อพัฒนาระบบจำหน่ายสลากดิจิทัลให้โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ ซึ่งทาง กอช. เตรียมระบบจำหน่ายและพันธมิตรรวม 5 กลุ่ม ดังนี้
1. จำหน่ายผ่านแอปฯ ได้แก่ TrueMoney, Shopee Pay, My AIS, MPay
2. จำหน่ายผ่านแอปฯ สถาบันการเงิน ประกอบด้วย K Plus, ttb touch, Krungthai NEXT
3. ช่องทางประชาสัมพันธ์ เช่น แอป ‘ทางรัฐ’ และ BAAC Mobile ของ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และ SET App ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
4. ช่องทางออฟไลน์ทั่วประเทศ ได้แก่ ไปรษณีย์ไทย 1,250 จุด, เคาน์เตอร์เซอร์วิส 15,500 จุด, บิ๊กซี 1,600 สาขา, โลตัส 2,500 สาขา, ตู้บุญเติม 100,000 ตู้, ตู้เต่าบิน 7,500 ตู้
5. ช่องทางการจัด และจับรางวัล ดำเนินการโดยถ่ายทอดสดของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (GLO) และถ่ายทอดผ่าน LINE TODAY
