เหตุการณ์ก่อการร้ายในฟิลิปปินส์ยังคงปะทุขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด กลุ่มแนวร่วมไอเอสอย่าง ‘กลุ่มนักต่อสู้เพื่ออิสรภาพอิสลามบังซาโมโร (BIFF)’ กว่า 200 คน ได้บุกโจมตีค่ายทหารในเขตมาลากาคิต (Malagakit) และบุกยึดโรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตปิกคาวายัน (Pigcawayan) บนเกาะมินดาเนา (Mindanao) ที่ตั้งอยู่ห่างจากเมืองมาราวี (Marawi) ลงมาทางใต้ราว 190 กิโลเมตร
ก่อนที่จะจับเด็กนักเรียนและชาวบ้าน 31 คน เป็นตัวประกัน สร้างความตื่นตระหนกให้แก่คนในพื้นที่ เป็นเหตุให้สมาชิกกองกำลังติดอาวุธเสียชีวิตอย่างน้อย 4 คน และทหารฟิลิปปินส์ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ก่อนที่กองกำลังติดอาวุธดังกล่าวจะล่าถอยกลับไป และทางการฟิลิปปินส์ได้ควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้
Photo: NOEL CELIS/AFP
กลุ่มนักต่อสู้เพื่ออิสรภาพอิสลามบังซาโมโร เป็นกลุ่มกองกำลังติดอาวุธที่แยกตัวออกมาจากกลุ่มมุสลิมแบ่งแยกดินแดน ที่ได้ทำการตกลงเจรจาสันติภาพกับรัฐบาลฟิลิปปินส์เป็นผลสำเร็จในปี 2014 โดยพวกเขาอ้างว่า ต้องการแก้แค้นให้แก่พวกพ้องที่เสียชีวิตจากการต่อสู้กับทางการฟิลิปปินส์เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน
เรอาลัน มามอน (Realan Mamon) หัวหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองปิกคาวายัน ให้สัมภาษณ์แก่สื่อท้องถิ่นว่า เหตุโจมตีและจับตัวประกันที่เกิดขึ้นอาจมีเป้าหมายเพื่อดึงกองกำลังเจ้าหน้าที่ที่กำลังต่อสู้อย่างหนักกับกลุ่มกองกำลังติดอาวุธมาอูเต (Maute Group) หรือกลุ่มรัฐอิสลามแห่งลาเนา (Islamic State of Lanao) ซึ่งเป็นกลุ่มที่สนับสนุนแนวคิดการสร้างรัฐอิสลามของกลุ่มไอเอสอีกกลุ่มหนึ่ง ที่ขณะนี้สามารถบุกยึดพื้นที่บางส่วนของมาราวีไปได้แล้วถึง 4 เขต
Photo: NOEL CELIS/AFP
มาราวี กับ แรงปรารถนาในการจัดตั้งรัฐอิสลาม
เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทางการฟิลิปปินส์เผยว่า นักรบจีฮัดต่างชาติของกลุ่มไอเอส ได้ร่วมมือกับกลุ่มกองกำลังติดอาวุธท้องถิ่นอย่าง กลุ่มมาอูเต ต่อสู้กับรัฐบาลฟิลิปปินส์ เพื่อต้องการยึดครองมาราวีและสถาปนาพื้นที่นี้ให้เป็นส่วนหนึ่งของรัฐอิสลามที่กลุ่มไอเอสพยายามจะสถาปนาขึ้นมาตลอด
มาราวี เป็นเมืองที่ผู้คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดลาเนา เดล ซูร์ (Lanao del Sur) บนเกาะมินดาเนา ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ อีกทั้งยังเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มกองกำลังติดอาวุธมาอูเตที่ฝักใฝ่ในแนวทางของกลุ่มไอเอส ร่วมกันก่อเหตุโจมตีในหลายพื้นที่ของเมือง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านนับพันต้องอพยพออกจากพื้นที่ดังกล่าว
Photo: NOEL CELIS/AFP
เหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นที่เมืองมาราวี เป็นเหตุให้ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ออกมายอมรับว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวพันกับกลุ่มไอเอส พร้อมทั้งประกาศกฎอัยการศึกแก่พื้นที่บริเวณโดยรอบเมืองนี้เป็นเวลา 60 วัน ตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญของฟิลิปปินส์ เพื่อป้องกันภัยที่อาจจะลุกลามบานปลายมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ การออกมายืนยันในเรื่องดังกล่าว ชี้ให้เห็นว่า กลุ่มกองกำลังรัฐอิสลาม หรือ กลุ่มไอเอส มีความพยายามที่จะเเทรกซึมเข้ามาปฏิบัติการและจัดตั้งรัฐอิสลามขึ้นภายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังเริ่มเพลี่ยงพล้ำจากฐานที่มั่นเดิมบริเวณซีเรียและอิรักที่กำลังถูกโจมตีอย่างหนักจากกลุ่มกองกำลังสัมพันธมิตร ภายใต้การนำของสหรัฐฯ และกองกำลังฝ่ายรัสเซีย
อีกทั้ง ประธานาธิบดีโรดริโก ยังให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อท้องถิ่นอีกว่า มีแนวโน้มที่จะขยายเวลาการประกาศกฎอัยการศึกออกไปเป็น 1 ปี ทำให้หลายฝ่ายเกรงว่า สถานการณ์ความขัดแย้งกับกลุ่มกองกำลังติดอาวุธจะยิ่งรุนแรงขึ้น และฟิลิปปินส์จะกลับไปสู่ยุคเผด็จการของประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ที่ปกครองประเทศด้วยความรุนแรงตลอด 2 ทศวรรษ มีผู้คนล้มตาย ถูกอุ้มหาย และละเมิดสิทธิมนุษยชนเป็นจำนวนมาก จนท้ายที่สุดก็จบลงด้วยการปฏิวัติโดยมวลชนในปี 1986
Photo: STRINGER/AFP
การโต้กลับที่รุนแรงขึ้น
หัวหน้าผู้กำกับโนลิ ตาลิโญ่ (Chief Supt. Noli Taliño) ผู้อำนวยการสถานีตำรวจนครบาลแห่งเกาะเซ็นทรัล วิซายาส (Central Visayas) เกาะใกล้เคียงที่ตั้งอยู่บริเวณทิศเหนือของเกาะมินดาเนา ประกาศเตือนผ่านสื่อท้องถิ่นอย่าง Cebu Daily News ให้ประชาชนในพื้นที่เตรียมรับมือกับเหตุการณ์ความไม่สงบที่อาจจะเกิดขึ้น หลังทางการฟิลิปปินส์ได้รับแจ้งว่า กลุ่มแนวร่วมไอเอสและกลุ่มกองกำลังติดอาวุธท้องถิ่นกลุ่มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มกองกำลังมาอูเต กลุ่มนักต่อสู้เพื่ออิสรภาพอิสลามบังซาโมโร และกลุ่มกบฎมุสลิมแบ่งแยกดินแดนอะบูไซยาฟ (Abu Sayyaf) จะร่วมมือกันก่อเหตุความไม่สงบครั้งใหญ่ พร้อมกันในหลายพื้นที่ที่อาจจะเกิดขึ้นในวันที่ 30 มิถุนายนที่จะถึงนี้
โดยข่าวลือนี้ถูกแพร่กระจายอยู่ในโลกออนไลน์ สร้างความหวั่นวิตกให้กับประชาชนในประเทศ และเร่งให้ทางการฟิลิปปินส์วางแผนรับมือที่รัดกุมมากยิ่งขึ้น โดยมุสลิมในพื้นที่อื่นๆ ของฟิลิปปินส์ต่างพร้อมใจให้ความช่วยเหลือแก่ทางรัฐบาลอย่างเต็มที่
ประธานาธิบดีโรดริโก ให้สัมภาษณ์กับสื่ออีกครั้งว่า เขายืนยันที่จะไม่ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปเสี่ยงอันตรายเพิ่ม เขาพร้อมที่จะสั่งถล่ม (Carpet Bombing) เมืองมาราวีให้ราบ ถ้าหากมีความจำเป็น และพร้อมที่จะรับผิดชอบต่อการตัดสินใจนั้น หลังจากการต่อสู้กับกลุ่มแนวร่วมไอเอส ยืดเยื้อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 5 แล้ว และมีแนวโน้มที่จะขยายวงกว้างออกไปจากเมืองมาราวี
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (21 มิถุนายน) มีจำนวนผู้เสียชีวิตในเหตุปะทะกันแล้ว 360 คน เป็นสมาชิกกลุ่มกองกำลังติดอาวุธ 268 คน เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ 66 คน และพลเมือง 26 คน รวมถึงมีผู้อพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยแล้วราว 200,000 คน
พันโทโจอาร์ เฮอร์เรรา (Lt. Col. Jo-Ar Herrera) โฆษกประจำกองทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า สถานการณ์ความรุนแรงจากกลุ่มแนวร่วมไอเอส เริ่มลดน้อยลงและทางการฟิลิปปินส์สามารถยึดพื้นที่คืนมาจากกองกำลังดังกล่าวได้แล้วบางส่วน และกองทัพจะปฏิบัติตามคำสั่งของประธานาธิบดีในการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายเหล่านี้ต่อไป เพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงความปลอดภัยของประชาชนทุกคนที่อาศัยอยู่ในฟิลิปปินส์ โดยทางการฟิลิปปินส์จะพยายามยึดพื้นที่คืนและปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายเหล่านี้ก่อน ‘วันอีดิลฟิตริ (Eid-Al-Fitr)’ ที่ถือว่า เป็นวันเฉลิมฉลองและขอบคุณพระเจ้าของชาวมุสลิม หลังจากผ่านช่วงถือศีลอด (รอมฎอน) จะมาถึง
อ้างอิง:
- www.aljazeera.com/news/2017/05/mindanao-air-raids-target-fighters-holed-marawi-170525095048819.html
- www.aljazeera.com/news/2017/06/fighters-flee-raiding-philippine-village-170621181400955.html
- newsinfo.inquirer.net/907564/duterte-ready-to-order-carpet-bombing-of-marawi-if-needed
- newsinfo.inquirer.net/907266/public-told-stay-alert-amid-warnings-on-june-30-attacks
- edition.cnn.com/2017/06/19/asia/indonesia-malaysia-philippines-isis/index.html
- edition.cnn.com/2017/05/28/asia/isis-threat-southeast-asia/index.html
- cebudailynews.inquirer.net/137105/biff-takes-civilian-hostages-pigcawayan-attack