เช้าวันนี้ (27 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวปักหลักรอทำข่าวที่ศาลอาญา เพื่อรายงานผลการพิพากษาคดีที่มี นายวิวัฒน์ ยอดประสิทธิ์ หรือ ท็อป มือปืนป๊อปคอร์น ตกเป็นจำเลย ซึ่งเป็นคดีที่เกิดเมื่อปี 2557 และอยู่ในความสนใจของประชาชน
เวลาต่อมา ศาลอุทธรณ์ได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดี ‘มือปืนป๊อปคอร์น’ โดยพิเคราะห์พยานหลักฐานที่ตำรวจสืบสวนหาผู้ต้องสงสัยมาเปรียบเทียบกับภาพคลิปวิดีโอที่นำมาจากสื่อโซเชียลมีเดีย และระบุว่าผู้ก่อเหตุที่สวมชุดดำและสวมหมวกไหมพรมปิดบังอำพรางใบหน้ามีลักษณะรูปร่างตรงกับนายวิวัฒน์นั้น
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าไม่อาจยืนยันได้ว่าเป็นบุคคลเดียวกัน ประกอบกับภาพคลิปวิดีโอดังกล่าวนำมาจากในสื่อโซเชียลมีเดียที่มีผู้ใช้จำนวนมาก สามารถเข้าถึงได้ง่าย โดยไม่ได้นำพยานบุคคลที่ถ่ายคลิปวิดีโอดังกล่าวมายืนยัน ไม่มีต้นตอของภาพดังกล่าว แม้จะมีประจักษ์พยานอยู่ในที่เกิดเหตุหลายคน แต่ในสำนวนการสอบสวนกลับมีเพียงคำให้การที่มีพิรุธของจำเลย
ดังนั้น ศาลจึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วย พิพากษากลับให้ยกฟ้อง แต่ศาลให้ขังนายวิวัฒน์ไว้ระหว่างฎีกา
สำหรับคดีนี้ พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายวิวัฒน์ ยอดประสิทธิ์ เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาอื่นจากกรณีเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2557 จำเลยกับพวกได้ใช้อาวุธปืน ไปที่แยกหลักสี่ ซึ่งเป็นพื้นที่ประกาศให้เป็นพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร จำเลยใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปในอาคารศูนย์การค้าไอที สแควร์ ทำให้ นายอะแกว แซ่ลิ้ว เสียชีวิต ส่วน น.ส.สมบุญ สักทอง นายนครินทร์ อุตสาหะ และนายพยนต์ คงปรางค์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ผลการพิจารณาของศาล ในศาลชั้นต้นพิพากษาให้มีความผิด สั่งจำคุกจำเลยไว้ 37 ปี 4 เดือน จำเลยยื่นอุทธรณ์
สำหรับนายวิวัฒน์นั้น ตั้งแต่ถูกฟ้องตลอดจนการพิจารณาคดี ศาลไม่เคยอนุญาตให้ประกันตัว
ลูกสาว ‘ลุงอะแกว’ เหยื่อลูกหลงกระสุน เดินหน้าสู้คดีถึงที่สุด
ขณะที่ นางสาวเอื้องฟ้า แซ่ลิ้ว บุตรสาวของนายอะแกว แซ่ลิ้ว อายุ 72 ปี ที่เสียชีวิตจากการถูกกระสุนปืนบริเวณศูนย์การค้าไอที สแควร์ หลักสี่ เปิดเผยทั้งน้ำตาภายหลังฟังคำพิพากษาว่า รู้สึกเสียใจ เพราะไม่คิดว่าศาลจะพิพากษายกฟ้อง จึงอยากขอความเป็นธรรมต่อกระบวนการยุติธรรม และยืนยันว่าจะต่อสู้คดีจนถึงที่สุด สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยันอีกครั้งว่าในวันเกิดเหตุบิดาไม่ได้ไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มใด แค่ต้องการเดินทางมาหาลูกสาว ซึ่งก็คือตนเองที่ทำงานอยู่ที่ศูนย์การค้าไอที สแควร์ตามปกติเท่านั้น จนกระทั่งถูกลูกหลงและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ทนายความ ‘มือปืนป๊อปคอร์น’ เตรียมยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวลูกความ
ด้าน น.ส.พวงทิพย์ บุญสนอง ทนายความของนายวิวัฒน์ ยอดประสิทธิ์ หรือ ท็อป มือปืนป๊อปคอร์น เปิดเผยว่า ทางทนายความจะยื่นศาลขอปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งคาดว่าจะใช้วงเงินประมาณ 3 ล้าน 7 แสนบาท ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีหลักทรัพย์ แต่คาดว่าน่าจะมีผู้ที่ช่วยเหลือ ส่วนการต่อสู้คดีจากนี้หากทางอัยการมีการยื่นฏีกา ทางทนายความก็พร้อมที่จะสู้คดีโดยจะนำคำพิพากษาในชั้นอุทธรณ์ยื่นประกอบการพิจารณาในประเด็นที่หลักฐานภาพวิดีโอในจุดเกิดเหตุที่ไม่มีที่มาของภาพ ไม่มีพยานหลักฐานยืนยัน
พร้อมเปิดเผยด้วยว่า นายวิวัฒน์มีความรู้สึกดีใจจนพูดไม่ออกหลังศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกฟ้อง