×

‘ยูเซน โบลต์’ ก่อนการวิ่งครั้งสุดท้าย จากดาวรุ่งสู่จอมทำลายสถิติ และขวัญใจมหาชน

05.08.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

5 mins read
  • ยูเซน โบลต์ เตรียมลงแข่งขันกรีฑา 100 เมตรชายและวิ่งผลัด 4×100 รายการ IAAF World Championship 2017 ที่ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 4-13 สิงหาคมนี้
  • ยูเซน โบลต์ สร้างชื่อเสียงจากการคว้า 8 เหรียญทองโอลิมปิก แชมป์โลกอีก 11 สมัย และทำลายสถิติโลกถึง 6 ครั้ง
  • โบลต์ช่วยกอบกู้วงการกรีฑาในโอลิมปิกปี 2008  โดยเฉพาะในวงการวิ่งที่มีนักกีฬาถูกตรวจจับใช้สารกระตุ้นเป็นอย่างมาก

     ยูเซน โบลต์ (Usain Bolt) กำลังจะลงแข่งวิ่งครั้งสุดท้ายในชีวิต

     IAAF World Championship 2017 รายการแข่งขันกรีฑาที่สนามกีฬา โอลิมปิกสเตเดียม กรุงลอนดอน, โบลต์ เลือกปิดฉากตัวเองที่นี่

     หากวงการฟุตบอลมี เดวิด แบ็กแฮม ดาวดังอดีตทีมชาติอังกฤษ​ และ วงการเทนนิสมี โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ เจ้าของแชมป์แกรนด์สแลม 19 รายการ ในวงการกรีฑาก็มี ยูเซน โบลต์ ที่เป็นนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จ และเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วโลก

     นักวิ่งชาวจาเมกาวัย 30 ปี เจ้าของฉายา ‘The Lightning Bolt’ สถิติโลก 100 เมตรชาย และ 200 เมตรชาย และสถิติเหรียญทองโอลิมปิกทุกรายการตั้งแต่ปี 2008 ที่ประเทศจีน จนถึงปี 2016 ที่ประเทศบราซิล ยูเซน โบลต์ ได้สร้างแรงบันดาลใจไว้ให้กับผู้คนมากมายที่ติดตามชมในสนาม และผ่านการถ่ายทอดสดทั่วโลก

     ในวันที่โบลต์จะลงแข่งรายการสุดท้าย THE STANDARD อยากจะพาคุณย้อนกลับไปในปี 2008

     ความสำเร็จและชื่อเสียงทั้งหมดของ ยูเซน โบลต์ เริ่มต้นขึ้นในปีนั้น

 

Photo: GABRIEL BOUYS/AFP

ลมกรดดาวรุ่งจากจาเมกา

     นักแสดงชาย 2,008 คนลั่นกลองฟูกระหึ่มที่สนามกีฬาแห่งชาติในกรุงปักกิ่ง เป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ซึ่งเป็นการแข่งขันที่เก่าแก่ และยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก โดยถือเป็นโอลิมปิกครั้งที่ 3 ในทวีปเอเชีย ต่อจากเกาหลีใต้ในปี 1988

     นักกีฬากว่าหมื่นคนจาก 204 ประเทศเดินทางเข้าร่วมมหกรรมครั้งนี้ โดยหนึ่งในนั้นคือนักกีฬากรีฑาวัย 21 ปีจากจาเมกา คือ ยูเซน โบลต์

     ย้อนกลับไปหนึ่งปีก่อนหน้านั้น ในการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์โลก ไทสัน เกย์ (Tyson Gay) เป็นที่หนึ่งของการแข่งขัน 100 เมตรชาย ขณะที่ ยูเซน โบลต์ ทำได้เพียงแค่เหรียญเงินในการแข่งขัน 200 เมตรชายและ 4×100 เมตร แต่ข่าวด้านลบที่กำลังปกคลุมการแข่งขันกรีฑา โดยเฉพาะนักวิ่งคือ ข่าวนักกีฬาใช้สารกระตุ้น ทำให้คนมองกีฬานี้ในด้านลบค่อนข้างมาก

     มาเรียน โจนส์ (Marion Jones) นักวิ่งชาวอเมริกันเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก ปี 2000 ยอมรับว่าใช้สารกระตุ้นระหว่างการแข่งขันโอลิมปิกปี 2000 ที่ซิดนีย์ และถูกคณะกรรมการโอลิมปิกหรือไอโอซี ลงโทษด้วยการแบนเป็นเวลา 2 ปี พร้อมยึดเหรียญรางวัลทั้งหมด 5 เหรียญที่ได้จากการแข่งขันในปีนั้น

     เช่นเดียวกับ จัสติน แกตลิน (Justin Gatlin) จากสหรัฐฯ​ เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกปี 2004 และเจ้าของสถิติโลก 100 เมตรชายในปี 2006 ซึ่งหลายคนเชื่อว่าเขาจะเป็นนักกีฬาที่ช่วยกอบกู้ชื่อเสียง แต่สุดท้าย แกตลิน ก็ออกมายอมรับด้วยตนเองว่าใช้สารต้องห้ามเทสโทสเตอร์โรน และโดน องค์การต่อต้านห้ามการใช้สารกระตุ้นของสหรัฐฯ ลงโทษห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการกรีฑาเป็นเวลา 8 ปี ส่งผลให้วงการวิ่งเข้าสู่ยุคมืด

     โดยในปี 2007 ไทสัน เกย์ คว้าเหรียญทอง 100 เมตร 200 เมตร และ 4×100 เมตรในการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์โลกที่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น แต่สิ่งที่ทุกคนเฝ้าจับตามองคือ ยูเซน โบลต์ นักกีฬาดาวรุ่งจากจาเมกาที่ช่วยให้ทุกคนลืมข่าวด้านลบที่กำลังกัดกินกีฬาชนิดนี้ด้วยสารกระตุ้น

     โบลต์เริ่มฝึกซ้อม 100 เมตรอย่างหนักหลังจากความพ่ายแพ้ของเขาในปี 2007 และเขาเริ่มค้นพบความสนุกในการลงแข่งขัน 100 เมตร ซึ่งเป็นสิ่งที่นักวิ่งหลายๆ คนชื่นชอบมากที่สุด

 

Photo: Odd ANDERSEN/AFP

 

ทำลายสถิติโลกครั้งแรก
     ในการแข่งขัน Reebox Grand Prix ก่อนการแข่งขันโอลิมปิกปี 2008 โบลต์เริ่มสร้างความมั่นใจในการแข่งขัน 100 เมตรด้วยการคว้าแชมป์รายการนี้ และสร้างสถิติโลกใหม่ที่ 9.72 วินาที ซึ่งกลายจุดเริ่มต้นของความสำเร็จในระยะ 100 เมตรของเขา

     “โอลิมปิก 100 เมตรชายในปีนั้น มีแต่คนพูดถึงทีมชาติสหรัฐฯ พวกเขาเป็นมหาอำนาจในขณะนั้น โดยเฉพาะไทสัน เกย์ และอีกหลายคน”

     เจเน็ต ควอกกี้ (Jeanette Kwakye) นักกรีฑา 100 เมตรหญิงทีมชาติอังกฤษได้เล่าถึงบรรยากาศในช่วงการแข่งขันในโอลิมปิกปี 2008

     มาถึงสนามกีฬาโอลิมปิกในกรุงปักกิ่ง ในปี 2008 โบลต์ได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองอีกครั้ง  

     โบลต์ผ่านเข้าเส้นชัยด้วยสถิติโลกใหม่ 9.62 วินาที ทำลายสถิติตัวเองได้สำเร็จ พร้อมกับวิ่งรอบสนามต่อเพื่อฉลองความสำเร็จของเขา และเวลานั้นเองคนทั้งสนาม และผู้ที่ติดตามชมการแข่งขันผ่านการถ่ายทอดสดทั่วโลกก็ได้รู้จัก เจ้าหนุ่มลมกรดคนใหม่ ยูเซน โบลต์

 

 

นักสร้างและจอมทำลายสถิติ

     โบลต์ ยังไม่หยุดแค่นั้น ในการแข่งขัน 200 เมตรชาย เขาสามารถคว้าเหรียญทองด้วยการสร้างสถิติโลกใหม่ 19.30 วินาที ทำลายสถิติเดิมที่ 19.32 วินาที คว้าเหรียญทองที่ 2 ให้กับตัวเขาในครั้งนั้น และ ปิดท้ายด้วยการคว้าเหรียญทองวิ่งพลัด 4×100 เมตรชาย และทำลายสถิติโลกอีกเช่นกันที่ 37.10 วินาที ทำลายสถิติเก่า 37.12 วินาที

     ปี 2009 โบลต์ ได้สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการวิ่งอีกครั้งด้วยการสร้างสถิติโลกใหม่ที่ 9.58 วินาที และยังเป็นสถิติที่ไม่มีใครสามารถทำลายได้ถึงทุกวันนี้

     โบลต์คว้าเหรียญทองโอลิมปิกได้ทุกรายการในโอลิมปิก 2 ครั้งต่อมา ทำสถิติแบบเฟอร์เฟกต์ ลงแข่งขัน 9 รายการได้เหรียญทอง 9 รายการ แต่สุดท้าย เนสตา คาร์เตอร์ (Nesta Carter) นักวิ่งวัย 31 ปี ที่ออกวิ่งเป็นไม้แรกให้กับทีมจาเมกาในการแข่งขันวิ่งพลัด 4×100 เมตรชายที่ โอลิมปิกปี 2008 ถูกคณะกรรมการโอลิมปิกริบเหรียญทองทีมวิ่งผลัด เนื่องจากเนสตาไม่ผ่านการตรวจสารกระตุ้นหลังถูกองค์กรต่อต้านสารกระตุ้นนานาชาติจับผิดสารต้องห้าม ทำให้เหลือสถิติเพียงแค่ 8 เหรียญจากการลงสนาม 9 ครั้ง

 

 

 

รอยยิ้มที่ทำให้คู่แข่งหวาดผวา

     “ผมเกิดความรู้สึกกลัวเมื่อเห็นแมนนี่ ปาเกียว (Manny Pacquiao) ยอดนักมวยชาวฟิลิปปินส์ เดินขึ้นเวทีมวยพร้อมรอยยิ้ม ผมไม่เข้าใจว่าเขามั่นใจขนาดนั้นได้อย่างไร” ริกกี้ ฮัตตัน (Ricky Hatton) นักมวยสากลชาวอังกฤษได้กล่าวถึงเหตุการณ์ก่อนขึ้นชกกับ แมนนี่ ปาเกียว ซึ่งไฟต์นั้นเขาแพ้ปาเกียวไปแบบน็อกเอาต์

     คำบอกเล่าของ ริกกี้ ฮัตตัน อธิบายถึงความรู้สึกของนักวิ่งคนอื่นที่ต้องร่วมลู่วิ่งกับ ยูเซน โบลต์ ได้เป็นอย่างดี ทุกครั้งที่โบลต์เข้ามาในสนามเขาจะมาพร้อมกับรอยยิ้มและความมั่นใจ ซึ่งทำให้คู่แข่งของเขาเริ่มหวาดกลัวว่า ทำไมนักวิ่งคนนี้ถึงได้มีความมั่นใจก่อนการแข่งขันขนาดนี้

     แต่ในขณะเดียวกันรอยยิ้มของเขาก็สร้างผลกระทบในวงกว้าง ด้วยท่าเอกลักษณ์ To Di World ของเขา ได้กลายเป็นเอกลักษณ์ที่เด็กทั่วโลกต่างก็ทำตาม เพราะชื่นชอบในบุคลิกของยอดนักวิ่งคนนี้

 

พูดความจริงและลบคำสบประมาทด้วยรอยยิ้ม

     โบลต์ได้สร้างความตื่นตัวให้กับวงการวิ่งได้อย่างมหาศาล เขาเข้ามาทำลายสถิติโลกได้ถึง 3 รายการที่เขาลงแข่งขันในปี 2008 ในวันที่การแข่งขันกรีฑา โดยเฉพาะการวิ่ง ถูกตั้งคำถามจากปัญหาการใช้สารกระตุ้น และ กำลังเข้าสู่ช่วงขาลงเนื่องจากหลายคนเริ่มมองว่าสถิติที่เกิดขึ้นในกีฬาชนิดนี้เป็นเพียงแค่ผลจากสารกระตุ้นมากกว่าความพยายามและความมุ่งมั่นของนักกีฬา

     แต่ชายที่ขึ้นชื่อว่าวิ่งเร็วที่สุดในโลก ไม่ได้ลบคำสบประมาทของผู้คนที่เริ่มก่อตัวขึ้นจากข่าวด้านลบด้วยสถิติโลก แต่เขากลับใช้รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และ ความเป็นกันเองกับสื่อมวลชนทุกครั้งที่ให้สัมภาษณ์ สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนได้ทั่วโลก

 

Photo: SAMUEL KUBANI/AFP

 

การวิ่งครั้งสุดท้าย

     มาถึงวันนี้ที่ ยูเซน โบลต์ กำลังเตรียมลงสนามเป็นรายการสุดท้ายในชีวิต ทำให้แฟนกีฬาหลายๆ คนก็อดใจหายไม่ได้ว่า เราจะไม่ได้เฝ้ารอรายการชิงแชมป์โลกหรือโอลิมปิกซึ่งเว้นช่วงทุก 4 ปี เพื่อเฝ้าดูยอดนักวิ่งคนนี้เพียง 10 วินาที และรอยยิ้มของเขาหลังเข้าเส้นชัยอีกต่อไป

     หลายคนเชื่อว่า เราอาจจะได้เห็นยอดนักวิ่งทำลายสถิติโลกมากขึ้นทุกปี ตามพัฒนาการของมนุษย์และวิทยาศาสตร์กีฬา หรือเราอาจจะได้เห็นนักกีฬาที่มีเสน่ห์ทั้งในและนอกสนามอีกหลายคน

     แต่หลังจากวันที่ 13 สิงหาคม 2016 ในการแข่งขันวิ่งผลัด 4×100 เมตร ซึ่งเป็นการลงแข่งครั้งสุดท้ายของ ยูเซน โบลต์

     เราจะไม่ได้เห็นใครแบบ ยูเซน โบลต์ อีกต่อไป

 

อ้างอิง:

FYI
  • ช่วงเย็นวันเสาร์ที่ 5 สิงหาคมนี้ เวลา 19:50 น. ตามเวลาอังกฤษ โบลต์จะลงแข่งขันรอบรองชนะเลิศ 100 เมตร โดยแฟนกีฬาสามารถติดตามชมการถ่ายทอดสดได้ทางช่อง Fox Sports ทรูวิชั่นส์ช่อง 680 ในประเทศไทย และ รอบชิงจะลงสนามเวลา 21.45 น. (3.45 น. เวลาไทย)

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X