แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมาทวงแชมป์สโมสรที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกอีกครั้งในรอบ 5 ปี จากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์ของสหรัฐฯ
โดยการจัดอันดับครั้งนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้รับเลือกให้เป็นสโมสรที่มีมูลค่าสูงสุด 3,689 ล้านเหรียญสหรัฐ (128,700 ล้านบาท) อันดับที่2 เป็นบาร์เซโลนา มีมูลค่า 3,635 ล้านเหรียญสหรัฐ และอันดับที่ 3 เป็นเรอัล มาดริด มีมูลค่า 3,580 ล้านเหรียญสหรัฐ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมาทวงแชมป์สโมสรที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกได้ครั้งแรกในรอบ 5 ปี จากการจัดอันดับของฟอร์บส์
ทวงคืนความสำเร็จในยุคเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประสบปัญหาด้านผลงานในสนามมาตลอดตั้งแต่วันที่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อำลาการคุมทีมไปเมื่อปี 2013 ปิดตำนานความยิ่งใหญ่กับสโมสรตลอด 27 ปีที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าทีมงานการตลาดและทีมบริหารจะทำงานหนักพอๆ กับทีมงานในสนาม เพื่อจะทวงความยิ่งใหญ่กลับคืนสู่โรงละครแห่งความฝันแห่งนี้อีกครั้ง
โดยในฤดูกาล 2015-2016 สโมสรมีรายได้ 765 ล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งเป็นรายได้จากโฆษณาและสปอนเซอร์กว่า 405 ล้านเหรียญสหรัฐ และกำไรหลังตัดค่าดำเนินธุรกิจของสโมสร 288 ล้านเหรียญสหรัฐ (มากกว่าเรอัล มาดริด ถึง 107 ล้านเหรียญสหรัฐ)
สาเหตุที่ช่วยให้ปีศาจแดงก้าวขึ้นสู่ที่หนึ่งของโลก นอกจากสโมสรมีฐานแฟนบอลทั่วโลกแล้ว ส่วนหนึ่งยังมาจากลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ (ลีกที่มีค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดสูงที่สุดในโลก) ระหว่างฤดูกาล 2017-2019 ที่ 2,340 ล้านเหรียญสหรัฐ ทิ้งห่างบุนเดสลีกาของเยอรมนี อันดับที่ 2 อยู่ถึง 1,041 ล้านเหรียญสหรัฐ
Photo:SOLEN ANDERSSON, AFP
เปิดแอปพลิเคชัน MUTV สร้างฐานแฟนทั่วโลก
สัดส่วนรายได้หลักของแมนยูฯ มาจากการตลาดที่มีมูลค่าสูงถึง 1,558 ล้านเหรียญสหรัฐ (จากการประเมินของฟอร์บส์)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก้าวขึ้นเป็นสโมสรที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกสโมสรหนึ่ง เนื่องจากเป็นสโมสรที่สามารถสร้างรายได้มากกว่าสโมสรอื่น และเป็นสโมสรที่มีการเข้าถึงฐานแฟนบอลทั่วโลก ซึ่งที่ผ่านมามีการพัฒนาแผนการตลาดอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ปีศาจแดงได้เปิด MUTV แอปพลิเคชันที่แฟนบอลสามารถรับชมช่อง MUTV ได้ 165 ประเทศทั่วโลก
นอกจากนี้ยังได้จ้าง ฟิล ลินช์ (Phil Lynch) อดีตหัวหน้าฝ่ายโกลบอล มีเดียของ Yahoo มาเป็นผู้บริหารสื่อทั้งหมดของสโมสร เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพในการสื่อสารผ่านแอปพลิเคชันและดิจิทัลมีเดียของ MUTV และของสโมสร
Photo: PAUL ELLIS, AFP
จับมือบริษัท Sina Sports รุกแฟนคลับในจีน
เมื่อเดือนมกราคม ปี 2016 แมนยูฯ ได้เซ็นสัญญาร่วมกับ Sina Sports บริษัท Digital Sports Media Platform ที่ใหญ่ที่สุดในจีนให้เป็นผู้ได้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด MUTV ในประเทศจีน ทั้งนี้ Sina Sports ยังเป็นเจ้าของ Weibo โซเชียลมีเดียที่เปรียบเสมือนกับทวิตเตอร์ในประเทศจีน ซึ่งสโมสรตั้งเป้าใช้เป็นตัวเชื่อมระหว่างสโมสรกับแฟนบอลในประเทศจีน
โดยทางสโมสรเชื่อว่าการเข้าถึงแฟนบอลผ่านดิจิทัลมีเดียจะช่วยให้แฟนบอลกับสโมสรสามารถสื่อสารกันได้ตลอดเวลา ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสื่อโทรทัศน์ที่สามารถสื่อสารได้ทางเดียว และจุดนี้จะทำให้แฟนกีฬาทั่วโลกรู้สึกใกล้ชิดกับสโมสรและนักเตะในดวงใจได้มากขึ้น อีกทั้งข้อดีของสื่อดิจิทัลคือ สโมสรสามารถปรับตัวตามความต้องการของแฟนบอลได้ตลอดเวลา
พอล ป็อกบา นักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฉลองแชมป์ ยูโรปา ลีก หลังเอาชนะ อาแจ็กซ์ ในรอบชิงไป 2-0
Photo: Jonathan NACKSTRAND, AFP
จะเห็นได้ว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นทีมที่ใส่ใจกับการตลาดของสโมสรมากที่สุดทีมหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เห็นได้ชัดคือผลงานในสนามนั้นมีส่วนสำคัญ
แม้ฤดูกาลหน้ามูรินโญ จะต้องเจอกับบททดสอบใหญ่ในยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก แต่จากการขึ้นเป็นสโมสรที่มูลค่าสูงที่สุดในโลก ก็อาจทำให้แฟนบอลอุ่นใจได้ว่า อย่างน้อยมูรินโญน่าจะมีกองทุนไว้ทุ่มทุนสร้างทีมในฤดูกาลหน้าอย่างแน่นอน
ภาพประกอบ: narissara k.
อ้างอิง:
– www.forbes.com/sites/mikeozanian/2017/06/06/the-worlds-most-valuable-soccer-teams-2017/#387605a977ea
– www.ukessays.com/essays/business/manchester-unitedfc-strategic-analysis.php
– www.london.edu/faculty-and-research/lbsr/why-is-manchester-united-so-successful#.WTe91ROGOgQ