นิวซีแลนด์กลายเป็นชาติล่าสุดที่เตรียมแบนการใช้งานแอปพลิเคชัน TikTok บนอุปกรณ์ทั้งหมดที่สามารถเข้าถึงเครือข่ายของรัฐสภา เนื่องจากกังวลว่าอาจถูกโจมตีทางไซเบอร์ ตามรอยชาติพันธมิตรตะวันตกอย่างสหรัฐอเมริกา แคนาดา สหภาพยุโรป และอังกฤษ ที่ได้ประกาศแบนการใช้งานแอปพลิเคชันดังกล่าวในอุปกรณ์ของภาครัฐไปก่อนหน้านี้
ในช่วงที่ผ่านมา หลายประเทศทั่วโลกได้ออกมาแสดงความวิตกกังวลถึงกรณีที่รัฐบาลจีนอาจสามารถเข้าถึงตำแหน่งและข้อมูลของผู้ใช้งานแอปพลิเคชันดังกล่าวในประเทศของตนเอง ผ่านการขอข้อมูลจากบริษัทสัญชาติจีนอย่าง ByteDance ซึ่งเป็นเจ้าของ TikTok
โดยกระแสความกังวลดังกล่าวได้เข้มข้นขึ้นหลังเมื่อช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ยื่นเงื่อนไขให้ ByteDance ถอนการลงทุนจากแอปพลิเคชัน TikTok ไม่เช่นนั้นแอปแชร์วิดีโอสุดฮิตจะถูกแบนการใช้งานทั่วประเทศ
สำหรับในนิวซีแลนด์นั้นจะมีการแบน TikTok บนอุปกรณ์ทั้งหมดที่สามารถเข้าถึงเครือข่ายของรัฐสภาได้ภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้ โดย ราฟาเอล กอนซาเลซ-มอนเตโร (Rafael Gonzalez-Montero) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายบริการรัฐสภา เปิดเผยกับสำนักข่าว Reuters ว่า การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากได้หารือกับผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ตลอดจนการหารือภายในรัฐบาลและกับประเทศอื่นๆ ด้วย แต่อาจมีข้อยกเว้นเป็นพิเศษให้กับผู้ที่ยังจำเป็นต้องใช้งานแอปพลิเคชันนี้
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังเมื่อวานนี้ (16 มีนาคม) อังกฤษเพิ่งจะประกาศแบนการใช้งาน TikTok บนอุปกรณ์ของรัฐ และมีผลบังคับใช้ในทันที โดยอังกฤษเปิดเผยว่า แม้เจ้าหน้าที่ของรัฐจะไม่ได้ใช้งานแอปพลิเคชันดังกล่าวกันอย่างแพร่หลายเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ แต่การตัดสินใจครั้งนี้มีขึ้นโดยคำนึงถึงความเสี่ยงที่มีต่ออุปกรณ์ของภาครัฐ ขณะที่หน่วยงานรัฐบาลของสหรัฐฯ จะมีเวลาถึงสิ้นเดือนมีนาคมในการลบแอปพลิเคชันดังกล่าวออกจากอุปกรณ์ของทางการ
ด้าน TikTok กล่าวว่า การแห่แบนของรัฐบาลนานาชาตินั้นมีพื้นฐานมาจาก ‘ความเข้าใจคลาดเคลื่อน’ ก่อนที่จะถูกกระตุ้นด้วยประเด็นภูมิรัฐศาสตร์ พร้อมกล่าวว่าทางบริษัทได้ทุ่มเงินกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ เพื่อยกระดับการรักษาความปลอดภัยทางข้อมูล และปฏิเสธว่าการสอดแนมโดยรัฐบาลจีนนั้นไม่เป็นความจริง
หวังเหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวว่า อังกฤษและนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นสองชาติล่าสุดที่สั่งแบน TikTok นั้น ‘ควรหยุดขยายขอบเขตและใช้แนวคิดในเรื่องของความมั่นคงแห่งชาติในทางที่ผิด’ อีกทั้งยังควรสร้างบรรยากาศที่เป็นธรรมและไม่เลือกปฏิบัติต่อธุรกิจของทุกประเทศ
แฟ้มภาพ: Ascannio Via Shutterstock
อ้างอิง: