สำนักข่าว CNN รายงานผลการศึกษาวิจัยล่าสุด ที่เผยแพร่ทางวารสาร Royal Society of New Zealand ในช่วงสัปดาห์นี้ พบว่าชนเผ่าเมารีของนิวซีแลนด์ อาจเป็นคนกลุ่มแรกที่ค้นพบทวีปแอนตาร์กติกาในแถบขั้วโลกใต้ ไม่ใช่ชาวตะวันตกหรือชาวอเมริกันตามที่เชื่อกันมา
งานวิจัยดังกล่าวซึ่งจัดทำโดยทีมนักวิจัยนิวซีแลนด์ ระบุว่าชาวเมารีนั้นอาจเดินทางไปยังแอนตาร์กติกาซึ่งเป็นทวีปที่อยู่ใต้สุด ตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 7 ซึ่งยาวนานก่อนที่ชาวยุโรปจะเดินทางไปถึงแอนตาร์กติกาในช่วงต้นศตวรรษที่ 19
ที่ผ่านมาเชื่อกันว่าชาวรัสเซียเป็นคนกลุ่มแรกที่ได้เห็นทวีปแอนตาร์กติกาจากการเดินทางสำรวจดินแดนในช่วงปี 1820 ขณะที่มีบันทึกระบุไว้ว่า นักสำรวจชาวอเมริกันเป็นบุคคลแรกที่ได้เหยียบผืนแผ่นดินของทวีปแอนตาร์กติกา
ซึ่งผลวิจัยล่าสุดนี้มีการอ้างอิงหลักฐานจากเรื่องเล่าของชาวเมารีหรือชาวโพลินีเซียน ในการล่องเรือสำรวจน่านน้ำในทวีปแอนตาร์กติกา ย้อนหลังไปราว 1,320 ปีที่แล้ว
“เราพบเรื่องเล่าของชาวโพลินีเซียนเกี่ยวกับการเดินทางระหว่างเกาะต่างๆ รวมถึงการเดินทางไปยังน่านน้ำแอนตาร์กติก โดย Hui Te Rangiora และลูกเรือของเขาบนเรือ Te Ivi O Atea ซึ่งน่าจะเป็นในช่วงต้นศตวรรษที่ 7” พริสซิลลา เวฮี หัวหน้านักวิจัยและนักชีววิทยาด้านการอนุรักษ์ชาวนิวซีแลนด์ หนึ่งในทีมวิจัยกล่าว
ขณะที่การวิจัยอ้างอิงจากประเพณีปากเปล่าหรือมุขปาฐะ (Oral Tradition) ซึ่งเป็นการถ่ายทอดข้อมูลผ่านเรื่องเล่าที่ส่งต่อกันในชนเผ่าเมารี ซึ่งจากการตรวจสอบงานแกะสลักของชาวเมารี ยังพบภาพเรื่องราวของนักเดินทางและความรู้ด้านการเดินเรือและดาราศาสตร์ นอกจากนี้ยังพบวรรณกรรมที่ไม่มีการเผยแพร่อีกจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม การศึกษาวิจัยดังกล่าวไม่ได้ดำเนินการตามแนวทางวิชาการ และยังไม่ผ่านการตรวจสอบที่เหมาะสม แต่ทีมวิจัยมั่นใจในข้อมูลที่พบ ซึ่งบ่งชี้ความเชื่อมโยงระหว่างชาวเมารีกับทวีปแอนตาร์กติกา
“เมื่อคุณนำมันมารวมกัน มันชัดเจนจริงๆ มันมีประวัติศาสตร์อันยาวนานที่เกี่ยวข้องกับแอนตาร์กติกา” เวฮี กล่าว พร้อมทั้งยืนยันว่าชาวเมารีมีหลายบทบาทและหลายวิถีทางที่เกี่ยวข้องกับแอนตาร์กติกา
ภาพ: Photo by Fiona Goodall/Getty Images
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: