ลูกค้าร้านทองในนิวยอร์กรับค่าขายสินค้าหรูเป็นทองคำแทนเงินสด ในขณะที่ความต้องการทองคำพุ่งสูง

ราคาทองคำที่พุ่งขึ้นราว 10% ตั้งแต่ต้นปี 2565 ส่งผลให้ราคาทองคำทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้งที่ระดับ 2,070 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้ร้านทองทั่วโลกเนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่มาซื้อขายแลกเปลี่ยนทองคำกันอย่างคึกคักอีกครั้ง

อย่างกรณีของ Philoro Edelmetalle GmbH ร้านค้าทองคำสัญชาติเยอรมันที่มีลูกค้ามาต่อแถวซื้อทองคำมากขึ้น ขณะที่ Rudolf Brenner ผู้ก่อตั้งบริษัท มองว่า แนวโน้มราคาทองคำดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นไปต่อได้ เนื่องจากความขัดแย้งที่ยังไม่มีท่าทีจะจบลง

“หลังจากที่วิกฤตในยูเครนเริ่มต้นขึ้น คำสั่งซื้อทองคำก็เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าจากระดับปกติ” Brenner กล่าว

เช่นเดียวกับ Gene Furman ซีอีโอ ของ Empire Gold Buyers บริษัทค้าทองคำในนิวยอร์กระบุว่า ในขณะนี้ 30% ของลูกค้าที่ซื้อขายสินค้าหรู อาทิ นาฬิกา เครื่องประดับ ต้องการรับชำระค่าขายสินค้าเป็นทองคำแทนที่เงินสด

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก World Gold Council ระบุว่า ความต้องการทองคำแท่งเมื่อปี 2564 เพิ่มขึ้นเป็น 1,124 ตัน เกือบจะสูงที่สุดในรอบทศวรรษที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่ราคากำลังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ก็มีบางส่วนที่นำทองคำและเครื่องประดับต่างๆ มาขายแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดเช่นกัน

อ้างอิง: