ทุกๆ ปี แต่ละคนก็จะมี New Year’s resolutions หรือการตั้งปณิธานปีใหม่เป็นของตัวเอง เพื่อหวังแก้ไขข้อผิดพลาดตลอดปีที่ผ่านมา มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ซีอีโอของเฟซบุ๊กก็เช่นกัน โดยปณิธานของเขาในปี 2018 คือการเร่งแก้ไขทุกข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับเฟซบุ๊กตลอดปี 2017 ที่ผ่านมา
ซักเคอร์เบิร์กได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 มกราคมตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐอเมริกา ใจความว่า ในทุกๆ ปีตนจะตั้งเป้าหมายและความท้าทายส่วนตัวในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ เช่น การไปเยือนสหรัฐอเมริกาให้ได้ครบทุกรัฐ, วิ่งให้ได้ 587 กิโลเมตร (365 ไมล์), สร้างปัญญาประดิษฐ์สำหรับใช้ในบ้านตัวเอง, อ่านหนังสือ 25 เล่ม และเรียนภาษาจีนกลาง
ย้อนกลับไปในปี 2009 ปีแรกที่ซักเคอร์เบิร์กเริ่มตั้งปณิธานปีใหม่กับตัวเอง เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวเฟซบุ๊กยังไม่เฟื่องฟู ไม่ตอบโจทย์ทำกำไรและยังไม่เป็นที่นิยมเช่นปัจจุบัน เขาจึงตั้งปณิธานไว้ว่าจะต้องทำอะไรสักอย่างอย่างจริงจัง เพื่อให้โซเชียลมีเดียที่เขาให้กำเนิดขึ้นมามีโมเดลธุรกิจที่ยั่งยืน และเขาก็ย้ำกับตัวเองมาเสมอในทุกๆ วัน
กระทั่งผ่านมา 9 ปี วันนี้เราอาจจะพูดได้เต็มปากว่า เฟซบุ๊กคือหนึ่งในเครื่องมือโซเชียลมีเดียที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก มีผู้ใช้งานล่าสุดมากกว่า 2.07 พันล้านรายชื่อ และมีรายได้รวมมากกว่า 10,380 ล้านเหรียญสหรัฐ (สถิติล่าสุดนับจนถึงปิดไตรมาส 3 ปี 2017) ทั้งยังเป็นช่องทางแจ้งเกิดของคนที่มีชื่อเสียงจากการสร้างคอนเทนต์แบบ User-generated content มานับไม่ถ้วน
แต่ในช่วงเวลาเดียวกัน ปี 2017 ก็เป็นอีกปีที่เฟซบุ๊กต้องเผชิญกับมรสุมเสียงวิพากษ์วิจารณ์และการตำหนิจากผู้ใช้งานทั่วโลก โดยเฉพาะกรณีข่าวปลอม (Fake News) และการปล่อยให้ผู้ใช้งานที่ไม่มีตัวตนจากรัสเซียซื้อโฆษณาชวนเชื่อข่าวปลอม
ด้วยเหตุนี้เอง ปณิธานปี 2018 ของซักเคอร์เบิร์กคือหวังแก้ปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเฟซบุ๊กให้ได้โดยเร็ว เพื่อปกป้องสังคมผู้ใช้งานจากความเกลียดชัง การล่วงละเมิด ป้องกันการแทรกแซงโดยรัฐและชาติ รวมถึงหาวิธีให้ผู้ใช้ใช้เวลาอยู่บนเฟซบุ๊กให้นานขึ้น
“เป้าหมายส่วนตัวของผมในปี 2018 คือให้ความสำคัญกับการแก้ไขทุกๆ ปัญหาสำคัญ เราจะไม่หลีกเลี่ยงทุกความผิดพลาดและการล่วงละเมิดกันทุกกรณี แต่เรากำลังนำข้อผิดพลาดทั้งหลาย เพื่อให้เกิดการบังคับใช้นโยบายและป้องกันการใช้งานเครื่องมือของเราในทางที่ผิด ซึ่งหากมันสำเร็จในปีนี้ เราก็คงจะจบปี 2018 ได้ดีกว่าที่ผ่านมา
“มันอาจจะไม่ใช่เป้าหมายความท้าทายส่วนตัวก็จริง แต่ผมคิดว่าผมจะได้เรียนรู้มากขึ้นจากการใส่ใจและตั้งใจแก้ปัญหาเหล่านี้มากกว่าการที่จะทำอะไรที่แตกต่างออกไป ปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องโดยตรงกับคำถามทางประวัติศาสตร์, กฎหมาย, ปรัชญาทางการเมือง, สื่อ, รัฐบาล และแน่นอน ‘เทคโนโลยี’ ผมจึงรอคอยที่จะได้นำกลุ่มคนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญมาถกประเด็นเหล่านั้นและทำงานร่วมกัน”
ซักเคอร์เบิร์กทิ้งท้ายไว้อีกว่า 2018 จะเป็นปีที่เขาจริงจังในการพัฒนาตัวเองและรอคอยที่จะได้เรียนรู้จากการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาการใช้งานเฟซบุ๊กไปพร้อมๆ กัน
อ้างอิง:
