วันนี้ (30 ธันวาคม) กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ โดยกองสุขศึกษา กระทรวงสาธารณสุข ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่องการวางแผนชีวิตในช่วงปีใหม่ จำนวน 26,365 คน จากกลุ่มตัวอย่างทุกภูมิภาค ดำเนินการระหว่างวันที่ 9-25 ธันวาคม 2565 ผลสำรวจพบ 5 อันดับที่ประชาชนมีแนวโน้มที่จะทำพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิดในช่วงเทศกาลปีใหม่
อันดับ 1 ร้อยละ 78.7 ไปกินหมูกระทะ ชาบู สุกี้ ร่วมกับเพื่อน ญาติ ครอบครัว
อันดับ 2 ร้อยละ 68.6 ไปจับจ่ายซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าหรือตลาดสด
อันดับ 3 ร้อยละ 39.4 ไปร่วมงานเลี้ยงปีใหม่กับที่ทำงาน
อันดับ 4 ร้อยละ 37.8 ไปเคานต์ดาวน์ตามห้างสรรพสินค้า ผับ บาร์ หรือปาร์ตี้ส่วนตัวกับเพื่อนๆ
อันดับ 5 ร้อยละ 33.9 ไปเที่ยวงานประจำปีของพื้นที่
ทั้งนี้ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้ทำการสำรวจการตรวจ ATK ของประชาชนในการเดินทางไปและกลับภูมิลำเนา หรือเดินทางไปท่องเที่ยวเทศกาลปีใหม่ โดยผลการสำรวจพบว่า
อันดับ 1 ร้อยละ 25.8 คาดว่าจะไม่ตรวจ ATK ก่อนเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือเดินทางท่องเที่ยว
อันดับ 2 ร้อยละ 20 คาดว่าจะไม่ตรวจ ATK หลังเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือเดินทางไปท่องเที่ยว
อันดับ 3 ร้อยละ 17.7 คาดว่าจะไม่ตรวจ ATK ทั้งก่อนและหลังเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือเดินทางไปท่องเที่ยว
ด้าน นพ.สามารถ ถิระศักดิ์ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า การป้องกันโควิดจากการเดินทางกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยวในเทศกาลปีใหม่ ขอให้ประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข และมาตรการป้องกันโควิดของสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆ เพราะการรวมกลุ่มกันเป็นจำนวนมากอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิดได้ สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ และผู้สูงอายุควรป้องกันการติดเชื้อโควิดอย่างเคร่งครัด
โดยควรเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดอย่างน้อย 4 เข็ม เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน หากได้รับวัคซีนเข็มสุดท้ายนานเกิน 4 เดือน ให้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น สามารถขอรับการฉีดวัคซีนได้ที่สถานบริการทางสาธารณสุขใกล้บ้าน จะเป็นเกราะป้องกันไม่ให้เจ็บป่วยรุนแรงหากมีการติดเชื้อโควิด และช่วยลดการแพร่ระบาดของโควิดในช่วงเทศกาลปีใหม่ได้