ท่ามกลางความผันผวนของตลาดเอเชีย ผู้ว่าการ ททท. ชี้ตลาดระยะไกลคือกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนรายได้ เผยตัวเลขนักท่องเที่ยวสหราชอาณาจักรมีแนวโน้มเกิน 1.1 ล้านคนในปีหน้า พร้อมเปิดกลยุทธ์เชิงรุก ทั้งการตลาดแบบ Low Impact Quality และการสร้างมาตรฐาน ‘Trusted Thailand’ เพื่อยกระดับความเชื่อมั่น
ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ภาพรวมและแนวโน้มของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยขณะนี้ กำลังแสดงสัญญาณการเติบโตที่แข็งแกร่งอย่างมีนัยสำคัญ แม้ตัวเลขภาพรวมนักท่องเที่ยวในปี 2568 ที่คาดการณ์ไว้ที่ 33.4 ล้านคน จะเป็นตัวเลขที่ยังต้องให้กำลังใจคนทำทุกภาคส่วน เพราะสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวของไทยยังต้องเผชิญกับปัจจัยความเสี่ยงจากตลาดระยะใกล้ แต่ตลาดระยะไกล มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
ผู้ว่าการ ททท. ยอมรับว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันที่ตัวเลขรายได้รวม จากตลาดต่างประเทศในปี 2568 อาจมีแนวโน้ม ติดลบประมาณ 4-5% จากปีที่ผ่านมา เนื่องจากความท้าทายด้านภาพลักษณ์ เช่น ปัญหาสแกมเมอร์ และ ความปลอดภัย ที่กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวในบางกลุ่ม อย่างไรก็ตาม ตลาดคุณภาพได้เข้ามาช่วยประคองสถานการณ์อย่างเห็นได้ชัด

“เราเห็นการเติบโตของตลาดระยะไกลในระดับ เลขสองหลัก โดยช่วง 1 มกราคมถึง 21 ตุลาคมที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เดินทางเข้าไทยแล้วถึง 5.7 ล้านคน หรือเติบโตที่ 12.44%” ฐาปนีย์กล่าว พร้อมเสริมว่า การเติบโตนี้เป็นการส่งสัญญาณที่ดี โดยเฉพาะจากตลาดยุโรป ซึ่งคาดการณ์ว่าสิ้นปีจะมีนักท่องเที่ยวเข้าไทยรวม 8.4 ล้านคน คิดเป็นการเติบโต 15% จากปี 2567 และมีอัตราการใช้จ่ายเฉลี่ยสูงถึง 63,740 บาทต่อทริป
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตลาดสหราชอาณาจักร (UK) ได้รับการเน้นย้ำว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงสุด โดยคาดว่าในปี 2569 จำนวนนักท่องเที่ยว UK จะสูงกว่า 1.1 ล้านคน หรือเติบโต 17% ซึ่งเป็นการทำลายสถิติปี 2562 (ก่อนโควิด) ที่มีจำนวน 946,774 คน พร้อมทั้งมีรายได้รวมเกินกว่า 70,000 ล้านบาท ในปี 2569 ซึ่งเป็นผลจากการที่ ททท. ได้ปรับกลยุทธ์สู่ ‘Value over Volume’ อย่างชัดเจน
กลยุทธ์เชิงรุกปี 69 ปักธง Health & Wellness และ Aviation Hub
สำหรับปี 2569 ททท. คาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ จำนวน 34.90 ล้านคน , รายได้จากการท่องเที่ยวรวมอยู่ที่ 2.79 ล้านล้านบาท , วันพักเฉลี่ย 14-21 วัน และค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัว 65,000 – 80,000 บาทต่อทริป โดยโฟกัสไปที่ ‘คุณภาพของนักท่องเที่ยว’ มากกว่าจำนวน ซึ่งสะท้อนแนวทางเศรษฐกิจมหภาคของรัฐบาล ที่ต้องการขับเคลื่อนประเทศผ่าน เศรษฐกิจคุณภาพสูง (High-Value Economy)
ทั้งนี้ เพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตของรายได้ 8-10% ในปี 2569 ททท. ได้วางกลยุทธ์เชิงรุกที่สำคัญ 3 ด้าน ดังนี้

1. ยกระดับสู่ Total Wellbeing และ Medical Tourism
หัวใจหลักของการทำตลาดโลกคือแนวคิด ‘Sense of Siam: A Journey to Total Wellbeing’ ที่ถูกนำไปใช้ในงาน WTM 2025 โดยเป็นการเชื่อมโยงความเป็นไทยเข้ากับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5
“ในปีหน้า เราจะเดินหน้าผนวก Medical Tourism เข้าไปกับ Health & Wellness อย่างเต็มรูปแบบ” ผู้ว่าการ ททท. กล่าว และเสริมว่า “เนื่องจากเราเห็นการเติบโตที่สูงมากในกลุ่ม High-Value โดยเฉพาะการรักษาเฉพาะทาง อาทิ การรักษาด้วยสเต็มเซลล์ ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีค่าใช้จ่ายต่อทริปสูงกว่า 100,000 บาท ต่อคนอย่างแน่นอน ททท.จึงต้องทำงานร่วมกับโรงพยาบาลที่ได้รับมาตรฐาน JCI และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เพื่อช่วยในการประชาสัมพันธ์”

2. ผลักดัน New Aviation Hub และเที่ยวบินใหม่
ททท. มุ่งเน้นการเจรจากับพันธมิตรสายการบินเพื่อเพิ่มความถี่เที่ยวบินและเปิดเส้นทางบินใหม่ (Inauguration Flight) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพสูง
โดยปัจจุบัน ได้เจรจาสำเร็จแล้วหลายราย เช่น Virgin Atlantic (ลอนดอน-ภูเก็ต), Norse Atlantic (แมนเชสเตอร์-กรุงเทพฯ) และ Arkia (เทลอาวีฟ-กรุงเทพฯ) ได้ประกาศเปิดเส้นทางบินใหม่
รวมถึงการทำการตลาดสนามบินรอง ซึ่งททท.ได้ผลักดันให้สายการบินจากตะวันออกกลางและยุโรป เช่น Etihad, Emirates, Qatar ใช้ประโยชน์จากศักยภาพของสนามบินรอง เช่น กระบี่ ซึ่งยังมี Slot Capacity ให้ใช้ได้อีกประมาณ 30 – 40% โดยกระบี่ได้ถูกวางตำแหน่งเป็น ‘Eco Luxury/Wellness’ และ ‘Eco Romance’ รวมถึง เชียงใหม่ และ อู่ตะเภา เพื่อกระจายการลงจอดและเพิ่มรายได้

3. สร้างมาตรฐาน ‘Trusted Thailand’ และ ‘Soft Power’
เพื่อเรียกคืนความเชื่อมั่นที่สูญเสียไป ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ททท. จะเปิดตัวตราสัญลักษณ์ ‘Trusted Thailand’ ในวันที่ 13 พฤศจิกายนนี้ โดยมุ่งเน้นมาตรฐานความปลอดภัย เช่น กล้อง CCTV, การเข้าถึงบริการ (Accessibility), และความสามารถในการสื่อสารภาษาต่างประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวในระดับภูมิภาคและโลก
นอกจากนี้ ททท. ยังคงใช้กลยุทธ์ Soft Power โดยเตรียมเปิดตัว ‘ลิซ่า’ เป็น Amazing Thailand Ambassador ในเดือนมกราคม 2569 เพื่อสร้างแรงดึงดูดระดับโลก พร้อมไปกับการผลักดันเส้นทางใหม่ในเมืองรอง ภายใต้โครงการ ‘Off the beaten track’ และการยกระดับเทศกาลประเพณี (Festival Events) ให้มีความยิ่งใหญ่และเหมาะสมกับบริบทปัจจุบัน เช่น งานลอยกระทงและปีใหม่
“สมการใหม่ที่เราย้ำเตือนกับทุกภาคส่วนของ New Thailand คือ การที่คนไทยต้องมี ซื่อสัตย์ ปลอดภัย ได้คุณภาพ และได้ประสบการณ์ ที่จะสร้างความประทับใจไม่รู้ลืม นี่คือสิ่งที่ ททท. และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องร่วมกันผลักดัน เพราะการท่องเที่ยวต้องเป็นเรื่องของทุกคน” ฐาปนีย์กล่าวสรุป
คาดปี 68 ต่างชาติเที่ยวไทย 33.4 ล้านคน รายได้รวม 2.66 ล้านล้านบาท
ผู้ว่าการ ททท. เปิดเผยว่า ในปี 2568 นี้ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยกลับมาฟื้นตัวได้กว่า 90% ของระดับก่อนโควิด โดยคาดว่าจะปิดปี 2568 ด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 33.4 ล้านคน สร้างรายได้รวม ประมาณ 2.66 ล้านล้านบาท
“เรากลับมาเกือบเท่ากับปี 2562 แล้ว ตลาดยุโรปฟื้นตัวเร็วมาก โดยเฉพาะอังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส และรัสเซีย ถือเป็น 4 ตลาดหลักของยุโรปที่เรายังรักษาได้ดี” ผู้ว่าฯ ททท. กล่าว


