ผลสำรวจล่าสุดจาก The New York Times/Siena College ชี้ว่า คามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดี และแคนดิเดตชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต มีคะแนนนำหน้า โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดี และแคนดิเดตจากพรรครีพับลิกัน ใน 3 รัฐที่เป็นสมรภูมิสำคัญ (Battleground State) ของการเลือกตั้งอย่างรัฐมิชิแกน วิสคอนซิน และเพนซิลเวเนีย โดยพบว่าแฮร์ริสมีคะแนนนำทรัมป์ 50% ต่อ 46% ในกลุ่มผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงในทั้ง 3 รัฐ อย่างไรก็ตาม โพลนี้อาจมีความคลาดเคลื่อน + หรือ – 2%
โพลนี้ได้สำรวจผู้ลงทะเบียนเลือกตั้ง 619 คนในรัฐมิชิแกน และ 661 คนในรัฐวิสคอนซิน ระหว่างวันที่ 5-8 สิงหาคมที่ผ่านมา ส่วนในรัฐเพนซิลเวเนียสำรวจจากผู้ลงทะเบียนเลือกตั้ง 693 คนระหว่างวันที่ 6-9 สิงหาคม
ผลสำรวจจาก The New York Times/Siena College แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ถอนตัวจากการเลือกตั้งอีกสมัยเมื่อเดือนกรกฎาคม และสนับสนุนแฮร์ริสให้เป็นผู้สมัครของพรรคเดโมแครต โดยแฮร์ริสช่วยพลิกสถานการณ์และฟื้นคะแนนที่สูญเสียไปของพรรคเดโมแครต หลังจากไบเดนทำผลงานได้ย่ำแย่ในดีเบตเมื่อเดือนมิถุนายน ขณะที่ผลสำรวจของ The New York Times/Siena College ที่จัดทำก่อนหน้านี้พบว่าไบเดนมีคะแนนเท่ากับทรัมป์ในรัฐวิสคอนซิน แต่ตามหลังทรัมป์ทั้งในรัฐมิชิแกนและรัฐเพนซิลเวเนีย
อย่างไรก็ตาม ทีมหาเสียงของทรัมป์แถลงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า ผลสำรวจของ The New York Times/Siena College ประเมินการสนับสนุนของทรัมป์ในกลุ่มผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งและผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงต่ำเกินไป
ภาพประกอบ: กริน วสุรัฐกร
อ้างอิง: