วันนี้ (10 พฤศจิกายน) สิริน สงวนสิน ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขต 27 (ทวีวัฒนา, ตลิ่งชัน (เฉพาะแขวงตลิ่งชันและฉิมพลี), หนองแขม (ยกเว้นแขวงหนองแขม)) พรรคก้าวไกล กล่าวถึงการทำงานในพื้นที่ชุมชนเขตทวีวัฒนา ตลิ่งชัน และหนองแขม ซึ่งถือเป็นเส้นเลือดฝอยของเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพมหานคร โดยระบุว่า การทำงานในพื้นที่ที่ผ่านมา ทำให้เห็นว่ารัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาพื้นฐานให้พี่น้องประชาชนได้ เช่น ปัญหาการเข้าถึงรถโดยสารสาธารณะ ปัญหาขยะ ปัญหาน้ำท่วมขัง ปัญหาการจัดการพื้นที่สาธารณะ ปัญหาการจัดการโรคและภัยพิบัติ เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในชุมชน แม้จะเป็นปัญหาเล็กๆ แต่กลับใช้ระยะเวลาดำเนินการค่อนข้างนาน แก้ปัญหาไม่ตรงจุด หรือบางครั้งปัญหาถูกปล่อยผ่านหรือละเลยจนกลายเป็นปัญหาสะสมเรื้อรังยากจะจัดการได้ เสมือนการเกาไม่ถูกที่คัน ซึ่งตนมองว่าปัญหาเส้นเลือดฝอยเหล่านี้คือตัวชี้วัดประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาล หรือแม้กระทั่งตัวผู้แทนที่รับผิดชอบในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งควรจะเป็นผู้นำการแก้ปัญหา หรือเป็นปากเป็นเสียงแทนประชาชนเพื่อนำปัญหาดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของผู้มีอำนาจ
สิรินกล่าวว่า ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกลประกาศให้ตนเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขตทวีวัฒนา ตลิ่งชัน และหนองแขมนั้น อาจเป็นเพราะตนทำงานในพื้นที่ ช่วยเหลือประชาชนมาเกือบ 2 ปี ตั้งแต่ช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด โดยเริ่มด้วยการช่วยงานมูลนิธินเรนทรเปิดศูนย์เอ็กซ์เรย์ปอด และการทำงานในนามของ ‘กลุ่มเส้นด้ายตลิ่งชัน ทวีวัฒนา หนองแขม’ ที่ออกปฏิบัติการตรวจหาโควิดเชิงรุกมากกว่า 10,000 ราย รวมทั้งการจัดอบรมอาสาสมัครในชุมชนเพื่อให้สามารถตรวจหาโควิดเชิงรุกในชุมชนเองได้ อีกทั้งตนยังได้ทำงานร่วมกับสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) อย่างต่อเนื่อง ได้รับฟังปัญหาจากการพบปะกับประชาชนภายในพื้นที่ และได้ทราบความต้องการของประชาชนอย่างดี รวมถึงได้มีโอกาสร่วมหาทางออกของปัญหาในพื้นที่เขตตลิ่งชันจนเกิดเป็นรูปธรรม ในกรณีของการจัดการขนส่งสาธารณะให้ครอบคลุม เชื่อมโยง และเข้าถึงง่าย จนนำไปสู่การทำประชาพิจารณ์ และเตรียมนำเสนอสู่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปสู่การใช้งานจริง ทั้งหมดนี้จึงอาจเป็นเหตุให้พรรคก้าวไกลไว้วางใจส่งตนลงสมัครในพื้นที่ดังกล่าว
สิรินกล่าวอีกว่า ระหว่างที่ทำงาน ตนเห็นปัญหามากมายที่รัฐบาลสามารถแก้ไขได้ง่ายๆ แต่ไม่ทำ แก้ปัญหาไม่ถูกจุด หรือภาษาชาวบ้านคือเกาไม่ถูกที่คัน และจากการที่ตนทำงานร่วมกับ ส.ก. ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ตนยิ่งเข้าใจปัญหาเป็นอย่างดี ขาดแค่โอกาส ณ ตอนนี้ที่จะได้ลงมือทำในฐานะผู้แทนของพี่น้องประชาชนทุกคน ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ ตนและพรรคก้าวไกลขอโอกาสเป็นตัวแทนพี่น้องทุกคน ร่วมผลักดันและร่วมสร้างสรรค์สังคมของเราให้เป็นสังคมที่ดีขึ้น และขอยืนยันว่าตนมั่นคงในจุดยืน มั่นคงในอุดมการณ์ และจะไม่เปลี่ยนใจในสิ่งที่ตนเลือกอย่างแน่นอน
“มีหลายคนถามผมถึงกรณีที่ ส.ส. ในพื้นที่ท่านเดิมที่จะย้ายพรรคและอาจกลับมาลงแข่งในพื้นที่เดิมนั้น ส่วนตัวแล้วผมไม่ได้มีปัญหาหรือมองว่าจะเป็นอุปสรรค เพราะท้ายที่สุดประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งผมขอย้ำว่าอุดมการณ์แบบพรรคก้าวไกลจะสามารถแก้ปัญหาการเมืองแบบไทยๆ ได้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่ที่เคยเลือกพรรคอนาคตใหม่เชื่อมั่นในจุดยืนของผมว่าจะมั่นคง ไม่เปลี่ยนแปลง” สิรินกล่าว
