วันนี้ (2 ต.ค.) พล.ท. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า
สืบเนื่องมาจากท่านนายกฯ เคยให้นโยบายไว้ว่า สังคมไทยชอบตัดพ้อว่า “คนจนติดคุก คนรวยรอด”
ครม. จึงเห็นชอบในหลักการร่าง พ.ร.บ. เพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การปล่อยตัวชั่วคราว ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ
ทั้งนี้เดิมได้กำหนดหลักเกณฑ์ให้ผู้ต้องหาในคดีที่มีโทษตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไปต้องมีเงินประกัน ทำให้ผู้ที่เดือดร้อนขัดสนไม่มีเงินต้องถูกคุมขังแทน เป็นปัญหาคนล้นคุกเนื่องจากพื้นที่ไม่เพียงพอ
จึงได้ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขใหม่เป็นคดีที่มีโทษจำคุกตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไปจึงต้องมีเงินประกัน ส่วนคดีที่มีโทษจำคุกต่ำกว่า 10 ปีจะมีการกำหนดเงื่อนไขอื่น เช่น การกำหนดระยะเวลาให้มารายงานตัวต่อศาล
ส่วนกรณีที่สำนักงานศาลยุติธรรม เสนอเพิ่มเติมอีกสองข้อ คือ กำหนดให้ศาลมีอำนาจแจ้งตำรวจไปจับกุมตัวผู้ที่หนีประกัน หากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ว่าง ให้ตำรวจศาลสามารถจับกุมตัวผู้ที่หนีประกันได้เอง ซึ่งในข้อนี้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาท้วงว่าจะเป็นการเพิ่มอำนาจให้เจ้าพนักงานศาลโดยไม่มีเหตุอันควร และสอง กำหนดให้ศาลมีคำสั่งไม่ประทับฟ้องก่อนไต่สวนมูลฟ้องได้ กรณีที่เห็นว่าเป็นการใช้สิทธิ์โดยไม่สุจริต แต่หวังให้เกิดความวุ่นวายแก่ผู้ถูกฟ้องนั้น สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาท้วงว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ได้กำหนดกระบวนการตรวจสอบคำฟ้องและไต่สวนมูลฟ้องให้อำนาจศาลเข้ามาตรวจสอบอยู่แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องดำเนินการดังกล่าว
ทั้งนี้ ในสองกรณีดังกล่าว ยังมีความเห็นไม่ตรงกัน แต่เพื่อให้กฎหมายเป็นประโยชน์ต่อผู้มีรายได้น้อย จึงเห็นชอบในหลักการเฉพาะประเด็นแรกข้อเดียว ส่วนอีกสองเรื่องเอาไว้ทำที่หลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกระแสข่าวที่กระทรวงการคลังจะเสนอ ครม. ขึ้นภาษีบุหรี่ซองละ 2 บาท เพื่อนำรายได้มาสนับสนุนการดูแลสุขภาพประชาชนของกระทรวงสาธารณสุขนั้น ยังไม่เข้าที่ประชุมในสัปดาห์นี้
พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวภายหลังการประชุม ครม. ว่า “ยังไม่เข้า กำลังพิจารณาอยู่ ยังไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง”
ภาพ: thaigov.go.th
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์