Apple เปิดตัว iPad รุ่นใหม่ถึง 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ iPad รุ่นเริ่มต้น ที่มาในสีสันสดใส มีให้เลือกถึง 4 สี ได้แก่ สีฟ้า, ชมพู, เหลือง และสีเงิน ใช้ชิป A14 Bionic ที่ทำงานได้เร็วขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้น กล้องหน้าเป็นแบบอัลตร้าไวด์ความละเอียด 12MP อยู่ในขอบแนวนอน เพื่อรองรับการใช้งานวิดีโอคอล ส่วนกล้องหลังความละเอียด 12MP เช่นกัน และได้รับการปรับให้รองรับการถ่ายภาพและวิดีโอ 4K
รุ่นนี้เปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C จอภาพ Liquid Retina ขนาดใหญ่ 10.9 นิ้วที่ขยายหน้าจอไปจนสุดขอบ ช่วยเพิ่มพื้นที่การมองเห็น หน้าจอพัฒนาให้ชัดขึ้นและสว่างยิ่งขึ้น ส่วน Touch ID ย้ายไปอยู่ด้านบนแทน สามารถใช้งานร่วมกับ Magic Keyboard Folio ใหม่หมดที่ออกแบบมาเพื่อรุ่นนี้โดยเฉพาะ (แต่ต้องซื้อเพิ่ม) ในขณะที่ราคาปรับขึ้นอีกนิด เพราะเริ่มต้นที่ 17,900 บาท และรุ่น Wi-Fi + Cellular ในราคาเริ่มต้นที่ 23,900 บาท
รุ่นถัดไปที่เปิดตัว ได้แก่ iPad Pro รุ่น 2 ที่มาพร้อมชิป M2 ทำให้ iPad รุ่นนี้เป็นอุปกรณ์พกพาและอเนกประสงค์ที่เร็วและแรงที่สุด มอบประสบการณ์ใหม่ในการใช้ปากกา ด้วยการยกปลาย Apple Pencil ที่เหนือไปอีกขั้น และการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่เร็วสุดแรง จอภาพล้ำหน้าที่สุดในตระกูล iPad มีกล้องระดับโปร, Face ID, Thunderbolt และระบบเสียง 4 ลำโพง
รวมถึงคุณสมบัติใหม่ใน iPadOS 16 เช่น คุณสมบัติตัวจัดการให้อยู่ตรงกลาง การรองรับจอภาพภายนอกอย่างสมบูรณ์ แอประดับเดสก์ท็อป และโหมดการอ้างอิง ทำให้เวิร์กโฟลวระดับโปรบน iPad เหนือชั้นไปอีกขั้น
iPad Pro ใหม่ มีให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ รุ่น 11 นิ้ว และ 12.9 นิ้ว สีเงินและสีเทาสเปซเกรย์ มาพร้อมความจุ 128GB, 256GB, 512GB, 1TB และ 2TB สำหรับรุ่น 11 นิ้ว ราคาเริ่มต้นที่ 32,900 บาท และ 38,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular ส่วน iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว ราคาเริ่มต้นที่ 44,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi และ 50,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular พร้อมวางจำหน่ายหน้าร้านวันที่ 26 ตุลาคมนี้
ภาพ: Apple