รมว.คลัง ยอมรับว่าการพิจารณาเลือกบุคคลที่เหมาะสมมานั่งเก้าอี้ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติคนใหม่ จำนวน 1 รายชื่อ จะส่งไม่ทันให้ ครม. พิจารณาไม่ทันในวันพรุ่งนี้ เพราะต้องคัดกรองคุณสมบัติซ้ำอีกรอบ แต่ย้ำสเปกต้องเป็นคนที่เข้าใจทั้งภาคการเงินและภาคการคลัง
วันนี้ (30 มิถุนายน) พิชัย ชุณหะวัชร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ Morning Wealth ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความคืบหน้าในการคัดเลือกผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ ระบุว่า คณะกรรมการคัดเลือกผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือบอร์ดคัดเลือกผู้ว่าการ ธปท. ได้ส่งรายชื่อผู้สมัครที่ผ่านคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ ธปท. คนใหม่ มาถึงมือแล้วตนเองแล้วจำนวน 2 รายชื่อ โดยยอมรับว่าจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่ทันในวันพรุ่งนี้ (1 กรกฎาคม)
อย่างไรก็ดี หากตนเองได้มีการพิจารณาเลือกบุคคลที่เหมาะสมในการดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ ธปท. คนใหม่ จำนวน 1 รายชื่อ ตามกระบวนการก็จะต้องมีการคัดกรองคุณสมบัติอีกครั้งหนึ่งเป็นไปตามระเบียบที่กำหนดไว้ แม้ว่าจะมีการผ่านขั้นตอนการคัดเลือกจากคณะกรรมการคัดเลือกฯ มาแล้วในรอบแรกเพื่อนำเสนอขอต่อ ครม.ให้พิจารณาเห็นชอบต่อไป ดังนั้นจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบคุณสมบัติของบุคคลของรายชื่อดังกล่าวด้วย โดยกระบวนการทั้งหมดจะถูกดำเนินการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
“ผมเองไม่ได้อยู่คณะกรรมการคัดเลือกผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ แต่ที่ผ่านมาผมก็พูดในที่สาธารณะหลายครั้งแล้วว่า การที่เราจะต้องดำเนินนโยบายการเงินได้และนโยบายการคลังของประเทศ ต้องทำงานด้วยกันอย่างใกล้ชิด แปลว่าคนที่ดูแบงก์ชาติก็ต้องเข้าใจสิ่งที่อยู่ในภาคการคลังของประเทศ ว่ามีโอกาสและมีปัญหาอะไรที่ต้องทำ และเข้ามาช่วยแก้ไขแล้ว ส่วนคนที่อยู่ทางฝั่งของคลังก็ต้องเข้าใจนโยบายการเงิน เพราะฉะนั้นต้องมีความเข้าใจในทั้ง 2 ภาค คือ ทั้งภาคเงินกับภาคการคลัง ซึ่งทั้ง 2 รายชื่อ ก็มีหนึ่งคนเข้าใจภาคการคลังและเข้าใจภาคการเงินในระดับหนึ่งด้วย ส่วนอีกคนก็มีความเข้าใจภาคการเงินค่อนข้างดี ก็เป็นสิ่งที่ผมจะต้องดู ต้องเวิร์กแบบใกล้ชิด”
นอกจากนี้พิชัยยังได้หยิบยกประเด็นเรื่องค่าเงินบาท ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาที่มักถูกพูดถึง โดยเฉพาะเมื่อค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นโดยไม่เป็นไปตามกลไกปกติของทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ ซึ่งประเทศไทยมีลักษณะพิเศษที่ทำให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้ และหากผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ และกระทรวงการคลัง มีความเข้าใจในประเด็นเหล่านี้และสามารถร่วมกันแก้ปัญหาดังกล่าวได้จะทำให้ค่าเงินบาทเป็นไปตามกติกาที่ควรจะเป็น โดยไม่จำเป็นต้องมีการแทรกแซงค่าเงิน
เมื่อถูกพิธีกรถามว่ามีชื่อที่เหมาะสมที่เลือกไว้แล้วในใจแล้วหรือไม่ พิชัยตอบว่า ‘ก็นั่งคิดอยู่’ พร้อมยืนยันว่ารู้จักผู้ผ่านคุณสมบัติทั้ง 2 รายชื่อเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว เนื่องจากที่ผ่านมาได้มีการทำงานและพูดคุยกับผู้สมัครทั้ง 2 ท่านอยู่แล้วบ่อยครั้ง โดยไม่จำเป็นต้องผ่านสื่อสาธารณะ
“เวลาผมจะคุยกับแบงก์ชาติ ผมก็จะขอเชิญมาเลยที่ทำงาน แล้วก็นั่งคุยกันบ่อยมากกับรองผู้ว่าฯ รวมทั้งระดับผู้ช่วยผู้ว่าฯ ของแบงก์ชาติทำให้ทราบถึงความคิด และบุคลิกของท่านทั้งหมด ส่วนอีกท่านนั้นผมต้องร่วมทำงานด้วยเป็นประจำอยู่แล้ว มีเรียกเข้ามาพูดคุยในเรื่องงานต่างๆ เป็นประจำ ดังนั้นก็พอจะมีความเข้าใจทั้ง 2 ท่าน” พิชัยกล่าว