ดูเหมือนสิ่งร้ายกาจที่สุดที่ ‘โควิด-19’ ได้กระทำต่อมนุษย์ทุกคนบนโลกคือการทำให้ผู้คนไม่สามารถมีความสุขได้เหมือนเดิม
ความหวาดผวาต่อโรคที่มองไม่เห็นทำให้เราไม่กล้าจะเดินบนถนนหนทางสูดอากาศ ไม่กล้าไปเดินช้อปปิ้ง ไม่กล้าเข้าโรงภาพยนตร์ ไม่กล้าไปจิบกาแฟที่ร้านโปรด แม้กระทั่งไม่สามารถไปชมเกมที่สนามได้ และต่อให้อยากชมกีฬาซึ่งเป็นหนึ่งในความบันเทิงที่ดีที่สุดของโลก ก็ไม่มีกีฬาใดให้ชมในเวลานี้
นักกีฬาทั่วโลกต่างตกอยู่ในสถานการณ์ที่พวกเขาไม่เคยเผชิญมาก่อน กับการเล่นกีฬาไม่ได้ ถูกสั่งให้อยู่เฉยๆ จากที่ไม่เคยมีเวลาก็กลายเป็นมีเวลาเหลือเฟือจนไม่รู้จะทำอย่างไรดี
แต่ในยามที่ชีวิตตกอยู่ในความมืดมนอนธการนี้เอง ที่แสงแห่งความหวังเล็กๆ มันจะเปล่งประกายออกจากหัวใจของมนุษย์ทุกคน เหมือนเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวงการกีฬาเหล่านี้
ทั้งหมดล้วนไม่ใช่เรื่องใหญ่ ไม่ได้ต้องทำอะไรมากมาย แต่รู้ว่าเป็นการทำด้วยหัวใจ
เพื่ออีกหลายหัวใจ ทั้งที่อยู่ใกล้ๆ หรืออยู่ไกลออกไปแค่ไหนก็ตาม
กำลังใจที่ส่งคืนมา
ในยามปกติแล้วเหล่านักกีฬาหรือโค้ชจะเป็นฝ่ายที่ได้รับ ‘พลัง’ จากแฟนๆ ที่เป็นดั่ง ‘ผู้เล่นอีกคน’ ของทีมเสมอไม่ว่าจะยามทุกข์หรือยามสุขก็ตาม
แต่เมื่อถึงสถานการณ์ที่โลกทั้งใบกำลังสั่นเทาด้วยความกลัวต่อโรคที่เราไม่เคยรู้จักและดูเหมือนมันจะสร้างความปั่นป่วนไปทั่ว ในเวลานี้เองที่เหล่าคนกีฬาต่างขอส่งกำลังใจและความห่วงใยมาถึงทุกคนให้คลายความกังวลลงไป
จดหมายจาก เจอร์เกน คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล ถูกส่งถึงแฟนๆ ทั่วโลก หลังพรีเมียร์ลีกประกาศข่าวพักการแข่งขันจนถึงวันที่ 3 เมษายน ท่ามกลางความกังวลใจของเหล่าเดอะ ค็อปที่หวั่นว่าการรอคอยแชมป์ลีกสูงสุดที่ยาวนานของพวกเขาจะยังคงไม่สิ้นสุด เพราะฤดูกาลอาจจะแข่งไม่จบ ‘บอส’ กลับยืนยันว่ามันมีสิ่งที่สำคัญกว่าเรื่องในสนาม
นี่คือบางส่วนในจดหมายที่คล็อปป์เขียนถึงแฟนๆ
“ผมไม่คิดว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ความคิดของผู้จัดการทีมฟุตบอลควรจะมีความสำคัญ แต่ผมเข้าใจว่าสำหรับผู้สนับสนุนของเรา พวกเขาต้องการได้ยินจากทีม และผมจะเป็นคนที่ออกมาพูดเรื่องนี้
“ก่อนอื่นเราทุกคนต้องทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อปกป้องซึ่งกันและกัน ผมหมายถึงในสังคม นี่ควรจะหมายถึงในทุกกรณีตลอดชีวิตด้วย แต่ในช่วงเวลานี้ผมคิดว่ามันสำคัญมากกว่าที่เคยเป็นมา
“ผมเคยพูดก่อนหน้านี้ว่าฟุตบอลดูเหมือนจะเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในเรื่องที่สำคัญน้อยที่สุด วันนี้ฟุตบอลและการแข่งขันฟุตบอลไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย
“หากต้องเลือกระหว่างฟุตบอลและความเป็นอยู่ที่ดีของสังคมในวงกว้าง มันไม่ใช่เรื่องของการแข่งขัน จริงๆ แล้วมันไม่ใช่เลย
“ใช่ ผมเป็นผู้จัดการทีมและสโมสรแห่งนี้ ดังนั้นจึงมีความรับผิดชอบในฐานะผู้นำในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอนาคตของเราในสนาม แต่ผมคิดว่าในขณะนี้ผู้คนจำนวนมากทั่วเมืองของเรา ภูมิภาค ประเทศ และโลก กำลังเผชิญกับความวิตกกังวลและความไม่แน่นอน มันคงจะผิดหากพูดถึงเรื่องอื่นๆ ที่ไม่ใช่การให้คำแนะนำผู้คนให้ปฏิบัติตามคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญและดูแลตัวเอง
“ข้อความจากทีมถึงแฟนบอลของเราเป็นเพียงเรื่องเกี่ยวกับความเป็นอยู่ที่ดีของคุณ ใส่ใจสุขภาพของคุณก่อน อย่ายอมรับความเสี่ยงใดๆ คิดถึงผู้ที่อ่อนแอในสังคมของเรา และแสดงความเห็นอกเห็นใจพวกเขาเท่าที่ทำได้
“ได้โปรดดูแลตัวเองและดูแลซึ่งกันและกัน
“คุณจะไม่มีวันเดินเดียวดาย”
เจอร์เกน
ดูโพสต์นี้บน Instagram
บรรยาย: กำลังใจจาก CR7 ที่ส่งมาถึงทุกคน
อีกคนหนึ่งที่ไม่รีรอที่จะรีบส่งข้อความให้แฟนๆ คือนักฟุตบอลที่มียอดผู้ติดตามทางโซเชียลมีเดียสูงที่สุดในโลกอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด ที่ขอให้ทุกคนพยายามดูแลตัวเองและคนรอบข้างให้ดี โดยปฏิบัติตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกอย่างเคร่งครัด
“โลกกำลังเดินทางผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก ซึ่งต้องการการดูแลและใส่ใจอย่างสูงสุดจากพวกเราทุกคน
“ผมพูดกับทุกคนในครั้งนี้ไม่ใช่ในฐานะนักฟุตบอลเท่านั้น แต่ยังเป็นในฐานะลูกชาย ในฐานะพ่อ และคนธรรมดาที่มีความห่วงใยในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุด และส่งผลกระทบไปทั่วโลก
“การที่เราทุกคนปฏิบัติตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกและหน่วยงานรัฐเกี่ยวกับวิธีที่จะรับมือสถานการณ์เหล่านี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ
“การปกป้องชีวิตมนุษย์คือสิ่งสำคัญสูงสุดเหนืออื่นใด ผมอยากใช้โอกาสนี้ส่งความห่วงใยถึงทุกคนที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักยิ่ง ขอส่งกำลังใจให้คนที่กำลังต่อสู้กับเชื้อไวรัสในเวลานี้ เหมือนเพื่อนร่วมทีมของผม ดานิเอเล รูกานี และผมขอให้กำลังใจต่อเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขที่แสนมหัศจรรย์ ผู้ที่เสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น” ทั้งหมดคือข้อความของจดหมายจากโรนัลโดถึงทุกคน
ความจริงแล้วยังมีข้อความอีกมากมายที่ส่งกลับมาหาแฟนๆ ทุกคน ซึ่งแม้มันจะเป็นเพียงแค่ตัวอักษรที่อ่านผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์
แต่น่าแปลกที่อ่านแล้วรู้สึกหัวใจอุ่น
บรรยาย: สปิริตของเหล่าแฟนบอลอตาลันตา
คืนตั๋วไม่ต้องคืนเงิน
ในช่วงแรกที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในยุโรปเริ่มทวีความรุนแรง สัญญาณเตือนที่น่าจับตาคือการสั่งให้เกมชิงแชมป์สโมสรยุโรปบางนัดห้ามแฟนบอลเข้าชมในสนาม
หนึ่งในเกมดังกล่าวคือเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกระหว่างบาเลนเซียกับอตาลันตา ซึ่งแม้ผลงานในเกมแรกทีมจากเซเรียอาจะเป็นฝ่ายที่กำชัยชนะเบ็ดเสร็จและเด็ดขาดถึง 4-1 โอกาสเข้ารอบสดใสเหมือนตาตั๊กแตน แต่เหล่าแฟนบอลสายข้นที่คนส่วนใหญ่เรียกขานพวกเขาว่า Ultras ก็ยังต้องการจะติดตามไปเชียร์อยู่ดี
แต่ก็นั่นแหละ เมื่อยูฟ่าสั่งห้ามไม่ให้เข้าสนาม พวกเขาก็ไม่สามารถจะติดตามไปเชียร์ทีมรักได้แม้ว่ามันจะเป็น ‘คืนประวัติศาสตร์’ ของสโมสรที่เข้าแข่งแชมเปียนส์ลีกครั้งแรก และมีโอกาสที่จะเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้เลยก็ตาม
เงินทองจองตั๋วไปแล้ว ทั้งตั๋วฟุลบอล ตั๋วเครื่องบิน ไหนจะที่พัก บางอย่างก็ขอคืนได้ บางอย่างคืนไม่ได้ก็มี
แต่สำหรับค่าตั๋วเข้าชมเกมที่สโมสรจ่ายคืนมาให้ กลุ่มแฟน Curva Nord ของอตาลันตาไม่ขอรับคืน
ไม่ใช่หยิ่งอะไร แต่พวกเขาขอนำเงินที่รวมๆ กันแล้วได้ 40,000 ยูโร เพื่อนำไปช่วยบริจาคให้กับโรงพยาบาลในเมืองแบร์กาโม เมืองของพวกเขา เพื่อช่วยเหลือเหล่า ‘ฮีโร่’ ตัวจริงที่ต่อสู้กับโรคร้ายอย่างหนักมากบ้างน้อยบ้างก็ยังดี
“ค่ำนี้มันควรจะเป็นหนึ่งในคืนที่งดงามที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรเรา แต่เพราะสถานการณ์ฉุกเฉินทำให้ทุกอย่างต้องถูกพับเก็บไว้เบื้องหลัง
“ในเวลาเดียวกัน ในเมืองของเรา ในแคว้นของเรา มีเหล่าฮีโร่ที่กำลังต่อสู้อยู่ในเวลานี้ ทำงานทั้งที่มีงบประมาณไม่เพียงพอ และไม่ได้พักได้ผ่อนเพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน และนี่คือเหตุผลที่เราขอมอบเงินจำนวนนี้บริจาคให้แก่โรงพยาบาล”
Ultras ไม่จำเป็นต้องห้าวหาญพร้อมปะทะตลอดเวลา ว่าไหม
สแลมดังก์กลางใจคน
หนึ่งในการแข่งขันกีฬาที่ประกาศ ‘พักแบบไม่มีกำหนด’ คือการแข่งขันบาสเกตบอล NBA
งานนี้ไม่ได้มีผลกระทบกับแค่นักกีฬาหรือแฟนๆ เท่านั้น เพราะคนที่เจ็บหนักไม่แพ้ความป่วยไข้คือเหล่าเจ้าหน้าที่ของทีมที่จะขาดรายได้ในการจุนเจือความเป็นอยู่ ซึ่งความจริงก็ไม่ได้มากได้มายอยู่แล้ว เพราะคิดกันเป็นรายชั่วโมง
ทีนี้พอเรื่องรู้ถึงเหล่าสตาร์นักยัดห่วงคนดังที่ได้รับเงินค่าจ้างมหาศาล พวกเขาหลายคน เปิดเผยบ้าง ไม่เปิดเผยบ้าง ต่างยื่นมือเข้าช่วยเหลือทันที
คนแรกๆ ที่ออกมาช่วยเหลือในเรื่องนี้คือ จานนิส อันเทโทคุมโป ซูเปอร์สตาร์ของทีมมิลวอคกี้ บักส์ ที่บริจาคเงินส่วนตัวในนามของตัวเองและครอบครัว 100,000 ดอลลาร์ให้แก่สตาฟฟ์ของทีม
“เพราะเรื่องนี้มันใหญ่กว่าบาสเกตบอล! ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ผมอยากช่วยเหลือคนที่ทำให้ชีวิตของผม ครอบครัวของผม และเพื่อนร่วมทีมของผมง่ายขึ้น ผมและครอบครัวขอบริจาคเงิน 100,000 ดอลลาร์ให้แก่สตาฟฟ์ของไฟเซิร์ฟ ฟอรัม เราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกัน!”
อีกคนที่มาในเวลาเดียวกันคือ ไซออน วิลเลียมสัน ว่าที่ซูเปอร์สตาร์เบอร์หนึ่งของ NBA ในอนาคตจากทีมนิวออร์ลีนส์ เพลิแกนส์ ที่ประกาศว่าเขาจะขอจ่ายเงินเดือนให้แก่เจ้าหน้าที่ของสนาม Smoothie King Center ทุกคนเป็นเวลา 30 วัน!
“นี่เป็นวิธีเล็กๆ น้อยๆ ที่ผมอยากจะมอบกำลังใจและแสดงความชื่นชมต่อเหล่าผู้คนที่แสนวิเศษที่ดีต่อผมและเพื่อนร่วมทีมของผมมากมาย และหวังว่าเราทุกคนจะช่วยแบ่งเบาความเครียดและความยากลำบากจากวิกฤตของชาติ”
นอกจากนี้ยังมี เบลก กริฟฟิน ฟอร์เวิร์ดของทีมดีทรอยต์ พิสตันส์ ที่บริจาคเงิน 100,000 ดอลลาร์ให้แก่เจ้าหน้าที่สนาม Little Caesars Arena รวมถึง รูดี โกแบร์ เซ็นเตอร์ทีมยูทาห์ แจ๊ซซ์ ที่เป็นสตาร์ NBA คนแรกที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่บริจาคเงิน 200,000 ดอลลาร์ให้แก่สตาฟฟ์ และบริจาคเงินอีก 100,000 ดอลลาร์ให้แก่หน่วยงานทางสังคมที่ปฏิบัติงานสู้ภัยโควิด-19 ในยูทาห์และโอคลาโฮมา ซิตี และอีก 100,000 ดอลลาร์ให้แก่กองทุนในฝรั่งเศสด้วย
ส่วนทีมโกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส ทั้งเจ้าของ นักกีฬา และโค้ช ลงขันบริจาคเงิน 1,000,000 ดอลลาร์ให้แก่กองทุนดูแลเจ้าหน้าที่ของสนาม Chase Center
เป็นการสแลมดังก์กลางใจคนเข้าอย่างจัง
#LFC‘s first-team squad, @LFCFoundation, @Red_Neighbours and club staff will come together to back @SFoodbanks during the suspension of @premierleague football. #UnityIsStrength ✊ https://t.co/EhgFSjUUAc
— Liverpool FC (@LFC) March 14, 2020
จะไม่มีใครหิวอย่างเดียวดาย
ข่าวการพักการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกไปจนถึง 3 เมษายน โดยที่มีแนวโน้มว่าอาจจะต้องพักกันยาวกว่านั้นหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในอังกฤษยังไม่ดีขึ้น ทำให้หลายภาคส่วนเกิดความกังวล
เพราะสำหรับคนอังกฤษ ฟุตบอลมันไม่ได้จบแค่ในสนาม มันมากกว่านั้น
หนึ่งในวัฒนธรรมของกองเชียร์เมืองผู้ดีคือ การตั้ง ‘โรงทาน’ ในสไตล์อิงลิชที่เรียกว่า Food Bank หรือธนาคารอาหารที่จะมีอาสาสมัครขอรับบริจาคข้าวสารอาหารแห้งรวมถึงสิ่งของอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่างๆ ให้แก่ผู้ยากไร้หรือคนไร้บ้าน หรือแม้แต่คนทั่วไปนี่แหละที่บางช่วงบางเวลาอาจจะลำบากก็มารับของบริจาคบ้าง (พอเริ่มมีเหลือใช้ก็สลับกันเป็นคนบริจาคให้แทนก็มีเยอะแยะ)
ทีนี้ถ้าไม่มีเกมแข่งเลย ก็จะไม่มีใครเอาของออกมาบริจาคให้ Food Bank และจะทำให้คนลำบากกันเยอะแน่
ว่าแล้วหลายๆ สโมสรก็รีบยื่นมือช่วยเหลือในเรื่องนี้ทันที รวมถึง ลิเวอร์พูล (ซึ่งมักส่งนักเตะอย่าง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน หรือ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ไปช่วยเป็นอาสาสมัครแจกข้าวของบ่อยๆ) ก็รีบยื่นมือเข้ามาช่วยเช่นกัน
โดยผู้เล่นทีมชุดใหญ่ ร่วมกับมูลนิธิแอลเอฟซี (LFC Foundation) ขอร่วมบริจาคเงินจำนวน 10,000 ปอนด์ต่อจำนวนเกมในบ้านที่เหลือจนจบฤดูกาล ซึ่งพอดีเหลือ 4 นัดก็เลยได้ 40,000 ปอนด์สำหรับช่วยเหลือ Food Bank สำหรับชาวเมืองลิเวอร์พูล
ขณะที่ แอสตัน วิลลา ให้สตาฟฟ์ 850 คนช่วยกันแพ็กอาหารกลางวันและอาหารร้อนที่เดิมเตรียมไว้สำหรับจำหน่ายในเกมพรีเมียร์ลีกนัดกับเชลซี เพื่อนำไปบริจาคให้แก่มูลนิธิคนไร้บ้าน เช่นกันกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้และเบิร์นลีย์ ที่ยื่นมือช่วยเหลือชุมชนในเมือง
เพราะถ้าวันนี้ปล่อยให้กองเชียร์ไส้กิ่ว จะมีแรงมาเชียร์ในวันข้างหน้าได้อย่างไร
เรื่องราวเหล่านี้เป็นเพียงบางส่วนของเรื่องเล็กๆ แต่มีความหมายยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นในวันที่โลกทั้งใบไม่เว้นแม้แต่โลกกีฬาได้รับผลกระทบจากโควิด-19
เป็นประกายแสงเล็กๆ ในวันที่ฟ้ามืดจนแทบมองไม่เห็นดาวดวงใด
ว่าจริงๆ แล้วเรายังมีกันและกันอยู่เสมอ และเราจะเอาชนะเกมนี้ไปด้วยกัน 🙂
…ว่าแต่ยังมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วยนะบนโลกใบนี้
บรรยาย: Dab สู้โควิด-19 โดย ปอล ป็อกบา!
บรรยาย: ตีในสนามไม่ได้ ตีแบบนี้ก็ได้
บรรยาย: โค้ชฟิตเนสชาวสเปนชวนคนออกกำลังกายกันแบบนี้
บรรยาย: บทเพลงที่ยังขับขานของสาวก ‘อัซซูร่า’ นาโปลี
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า