Netflix ทุ่ม 2.8 ล้านล้าน ปิดดีลประวัติศาสตร์ขอครอบครอง Warner Bros. แต่ยังไม่ทันเซ็นสัญญา ก็ถูก Paramount เปิดเกมสวนในแบบที่ไม่มีใครคาดคิด
นี่คือมหากาพย์ธุรกิจครั้งใหญ่ส่งท้ายปี 2025 ที่ไม่ได้มีแค่เม็ดเงินมหาศาลเป็นเดิมพัน แต่คือการหักเหลี่ยมเชิงกลยุทธ์ของสองยักษ์ใหญ่ ที่กำลังต่อสู้เพื่อครอบครองวัตถุดิบหายาก ซึ่งก็คือ ทรัพย์สินทางปัญญา (IP) สมบัติทรงคุณค่าที่แม้ AI ในอนาคตก็สร้างขึ้นอีกไม่ได้
เดิมพันของ Netflix ทำไมดีลนี้ถึงมีค่ากับยักษ์ Streaming
วันที่ 5 ธันวาคม 2025 Netflix ประกาศข้อตกลงมูลค่าประวัติศาสตร์กว่า 80,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.8 ล้านล้านบาท เพื่อซื้อส่วนบันเทิงของ Warner Bros. Discovery
สิ่งที่ทำให้ดีลนี้น่าสนใจไม่ใช่แค่ตัวเลขมหาศาล แต่เป็นแนวคิดเชิงกลยุทธ์ ที่ Netflix เลือกวิธี ‘คัดเอาของดีที่สุด’ แทนที่จะซื้อทั้งองค์กร ติดปีกให้ Netflix ไร้เทียมทาน
🎬 1) อุดรอยรั่ว ด้วยคลังหนังตำนาน อย่าง Harry Potter และ Friends ที่ช่วยตรึงคนดูไม่ให้ยกเลิกสมาชิก
🎬 2) เติมอาวุธหนัก อย่าง DC Universe ไว้ชนกับ Marvel ของ Disney ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ
🎬 3) สร้างระบบนิเวศ ‘ดูหนังจบ-เล่นเกมต่อ’ ด้วย Hogwarts Legacy ที่จะดึงผู้บริโภคไว้ในแอปเดียวได้ยาวนานกว่าที่เคย
ทรัพย์สินเหล่านี้ไม่ใช่แค่คอนเทนต์ แต่เป็นแบรนด์ที่ฝังอยู่ในหัวใจคนดู มันคือสิ่งที่ AI หรืออัลกอริทึมไม่สามารถคิดขึ้นได้เอง
ทรัมป์เตือน แต่ Netflix สู้กลับ
แต่เส้นทางนี้เริ่มขรุขระ เมื่อโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกมาส่งสัญญาณกังวลต่อดีลนี้ โดยระบุชัดเจนว่าส่วนแบ่งการตลาดของ Netflix ที่มากเกินไป ‘อาจเป็นปัญหา’ และประกาศว่าจะลงมาตรวจสอบดีลนี้ด้วยตัวเอง
แต่ Netflix กลับเลือกตอบโต้ความกังวลนี้อย่างบ้าบิ่นที่สุด นั่นคือการเสนอ ‘ค่าปรับหากดีลล่ม’ (Break-up Fee) สูงถึง 5,800 ล้านดอลลาร์ (เกือบ 2 แสนล้านบาท)
คือการประกาศสงครามจิตวิทยาว่า Netflix พร้อมจะงัดข้อกับกฎหมายทุกมาตรา และมั่นใจในชัยชนะถึงขนาดยอมวางเงิน 2 แสนล้านเป็นเดิมพัน ซึ่งความกล้าบ้าบิ่นนี้นี่เอง ที่ทำให้บอร์ดบริหารของ Warner Bros. ยอมใจอ่อนเซ็นสัญญาในที่สุด
Paramount เปิดเกมสวน
วันที่ 8 ธันวาคม 2025 Paramount Global ยักษ์ใหญ่อีกหนึ่งราย ยื่นข้อเสนอขอซื้อ ทั้งบริษัท Warner Bros. ไม่ใช่แค่ส่วนที่ ‘คัดมาเฉพาะของดี’ เหมือน Netflix
สิ่งที่ทำให้ข้อเสนอของ Paramount โดดเด่นคือ:
🎬 เสนอซื้อทั้งองค์กร — รวมทุกหน่วยธุรกิจ แม้จะมีบางส่วนที่กำลังหดตัว
🎬 ความเสี่ยงด้านกฎหมายต่ำกว่า — เพราะ Paramount มีขนาดเล็กกว่า Netflix จึงดึงดูดการตรวจสอบความเป็นธรรมทางการตลาดน้อยกว่า
🎬 ตอบโจทย์ผู้ถือหุ้น Warner Bros. โดยตรง — ให้ความแน่นอนทางเงินกับทุกฝ่าย
หากดีลนี้สำเร็จ Paramount จะโดดจากมวยรองขึ้นมาเป็น ‘มหาอำนาจสื่อ’ ที่ครอบครองส่วนแบ่งตลาดโรงภาพยนตร์และทีวีในสหรัฐฯ รวมกันเกือบ 30% ทันที เพราะมีคลังแสงที่รวบรวมทั้งจักรวาล Mission: Impossible และ Top Gun มาอยู่ใต้หลังคาเดียวกับ Harry Potter และ Batman เขย่าบัลลังก์ทุกเจ้าตลาดได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ
Dan Ives กรรมการผู้จัดการ Wedbush Securities และนักวิเคราะห์กลยุทธ์ มองปรากฏการณ์นี้ว่าเป็นทางรอดเดียวที่จะทำให้มีขนาดใหญ่พอจะยืนหยัดสู้กับ Disney และ Netflix ได้ในระยะยาว
กลยุทธ์ดึงเชิงอัปราคาของ Warner Bros.
ล่าสุด 10 ธันวาคม 2025 Bloomberg รายงานว่า Warner Bros. เตรียมปฏิเสธข้อเสนอ 1.08 แสนล้านดอลลาร์ของ Paramount และเลือกที่จะกอดสัญญา Netflix ไว้แน่น
แต่นักวิเคราะห์มองเกมนี้ว่าเป็น ‘กลยุทธ์เรียกราคา’ เพื่อบีบให้ Paramount เพิ่มตัวเลขข้อเสนอจนเกิดสงครามราคาที่ผู้ถือหุ้นรอคอย นอกจากนี้ Warner Bros. ยังตกอยู่ในที่นั่งลำบาก เพราะหากพวกเขาเป็นฝ่ายฉีกสัญญาหนีไปหา Paramount เอง จะต้องจ่ายค่าปรับการยกเลิกสัญญาให้แก่ Netflix สูงถึง 2,800 ล้านดอลลาร์
ราคาที่ต้องจ่ายของผู้ชนะและคนดู
ไม่ว่าสุดท้ายแล้วชัยชนะจะตกเป็นของใคร สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือแรงกระเพื่อมลูกใหญ่ที่จะส่งผลกระทบต่อทั้งโครงสร้างคนทำงานและผู้บริโภคในวงกว้าง
ด่านแรกที่ผู้ชนะต้องเผชิญคือ ‘ความท้าทายเรื่องบุคลากร’ เช่น Netflix ซึ่งเป็นบ.เทคโนโลยี ต้องมาบริหารสตูดิโอภาพยนตร์เก่าแก่ที่ขับเคลื่อนด้วยอารมณ์และศิลปะ ที่สำคัญคือสินทรัพย์แสนล้านที่ลงทุนไปอาจสูญเสียมูลค่าทันทีหากบุคลากรคนสำคัญตัดสินใจลาออก
ส่วนผลกระทบทางฝั่งผู้บริโภค คือการก้าวเข้าสู่ยุคที่นักวิเคราะห์เรียกว่า ‘การมัดรวมครั้งใหญ่’ (The Great Re-bundling) เมื่อยักษ์ใหญ่ควบรวมกิจการ สถานการณ์มีแนวโน้มจะวนกลับไปคล้ายยุค ‘เคเบิลทีวี’ ที่ผู้บริโภคถูกบีบให้สมัครแพ็กเกจขนาดใหญ่เพื่อเข้าถึงเนื้อหาครบทุกค่าย แบกรับค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ในขณะที่ทางเลือกน้อยลง
ไม่ว่าดีล Warner Bros. จะลงเอยอย่างไร มันได้ฝากคำถามสำคัญไว้กับทุกธุรกิจว่า “คุณมีสินทรัพย์อะไรในมือ ที่ต่อให้คู่แข่งมีเงินพันล้าน ก็ลอกเลียนแบบคุณไม่ได้?”


