ว่ากันว่ายักษ์ใหญ่แห่งวงการสตรีมมิงอย่าง Netflix ต้องฝ่าฟันอุปสรรคอย่างหนัก กระทั่งล่าสุดถึงขั้นต้องวางแผนลดค่าใช้จ่ายลงกว่า 300 ล้านดอลลาร์ (1 หมื่นล้านบาท) ให้ได้ภายในปี 2023
The Wall Street Journal รายงานว่า ท่ามกลางสถานการณ์การแข่งขันสูง ประกอบกับตลาดที่เริ่มอิ่มตัวมากขึ้น ทำให้ Netflix พยายามลดต้นทุนและเพิ่มความสามารถในการทำกำไรมากขึ้น แต่ยังยืนยันว่าจะไม่มีการเลิกจ้างพนักงานอีกแน่นอน เพียงแต่อาจจะเปลี่ยนแปลงบทบาทการทำงาน รวมไปถึงพิจารณาอัตราค่าจ้างใหม่ให้กับบางตำแหน่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- จากที่เคยทวีต ‘ความรักคือการแบ่งปันรหัสผ่าน’ แต่ตอนนี้ บ้าน Netflix กำลังจะไม่มีอีกแล้ว!
- คิดถูกไหมนะ? Netflix สูญเสียผู้ใช้มากกว่า 1 ล้านคนในสเปน ช่วง 3 เดือนแรกของปี 2023
- Soft Power อันแข็งแกร่ง! Netflix ทุ่มงบ 8.5 หมื่นล้านบาท มากที่สุดเท่าที่เคยลงทุนมา ให้กับการสร้างซีรีส์-รายการเกาหลี
โดยในปี 2022 บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอยู่ที่ประมาณ 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์ ทำให้ประกาศปลดพนักงาน 300 คนในเดือนมิถุนายน โดยคิดเป็น 4% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการปรับลดค่าใช้จ่าย
จากนี้บริษัทจะใช้กลยุทธ์หาวิธีการสร้างรายได้ผ่านบริการใหม่ๆ เข้ามารองรับธุรกิจโฆษณา และที่สำคัญยังได้เลื่อนแผนปราบปรามการแบ่งปันรหัสผ่านในลาตินอเมริกาออกไปเป็นไตรมาส 2 เพื่อให้มีเวลาศึกษาแนวทางใหม่ให้กับสมาชิก
สำหรับปีนี้ Netflix ตั้งเป้าสร้างกระแสเงินสดให้ได้อย่างน้อย 3.5 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากเป้าหมายก่อนหน้านี้อยู่ที่ 3 พันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาบริษัทต่างๆ ในอุตสาหกรรมสตรีมมิงได้ให้ความสำคัญกับการทำกำไรมากขึ้น หลังจากที่ผ่านมาได้โฟกัสสร้างการเติบโตของฐานสมาชิกเป็นหลัก
อ้างอิง: