Dating Around เรียลิตี้โชว์รายการใหม่ล่าสุดจากสตรีมมิงยักษ์ใหญ่อย่าง Netflix เพิ่งออกฉายไปไม่นาน เรียกเสียงฮือฮาและตั้งคำถามฉุกคิดได้อย่างน่าสนใจไม่น้อย
ซีรีส์ 6 ตอนเรื่องนี้ เป็นเรื่องราวของการนัดบอดครั้งแรกของเหล่านิวยอร์กเกอร์ และสุดท้ายลุ้นให้ผู้ชมทายกันเล่นๆ ว่าเขาหรือเธอจะเลือกนัดเดตครั้งที่ 2 กับใครแน่ ฟังดูเหมือนจะน่าเบื่อเบาๆ คุณอาจสงสัยว่า “แล้วไง?” แต่อย่าเพิ่งเบือนหน้าหนีผู้เขียนไปก่อน เพราะซีรีส์นี้มี ‘อะไร’ มากกว่านั้น
เริ่มต้นปฐมบทด้วยเรื่องราวของ ‘ลูค’ (Luke) นักอสังหาริมทรัพย์วัย 27 ปี รูปหล่อ หุ่นดี ดูภูมิฐาน และสะอาดสะอ้าน (แบบที่พ่อกับแม่ของคุณน่าจะพยักหน้าให้ผ่านในด่านแรก) เขาแต่งชุดหล่อ (ชุดเดิม) ออกเดตสาว 5 คน ในสถานที่ซำ้ๆ กัน เพื่อเปรียบเทียบการเดต แม้จะมีฉากที่ดูแล้วอึดอัด หรือแอบอยากบอกให้ลูคตะโกนดังๆ ว่า “เบื่ออาหารไทยแล้ววว!” จนทำให้ผู้หญิงอย่างฉันเบ้ปาก หรืออมยิ้มบ้าง แม้จะเดาผิดว่าเขาจะเลือกใครจากการแลกจุมพิตในเดตแรก แต่การได้เห็นเขารับมือกับผู้หญิงที่มาจากต่างพื้นเพ ที่มีทั้งน่ารักมากหน่อยและน่ารัก…น้อยกว่าคนอื่นสักหน่อย ได้อย่างมีเกียรติ ต้องบอกเลยว่าตอนแรกเริ่มได้ไม่เลวเลย
เราพบกับ ‘เกอร์กิ’ (Gurki) ในตอนที่ทำให้ใครหลายคนถึงกับต้องเอามือทาบอก ไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น บอกเล่าเรื่องราวของผู้หญิงเชื้อสายอินเดียในวัยเลข 3 ที่เพิ่งผ่านการหย่า โชคไม่ดีต้องมาพบกับหนึ่งในคู่เดตที่เป็นชายหนุ่มผู้หัวใจไม่หล่อสมกับใบหน้า แถมยังภูมิใจเล่าเรื่องความใจหินกับแฟนเก่า ทำเรากลอกตาอยู่หลายครั้ง ความรู้น้อยในเรื่องของวัฒนธรรมต่างถิ่นของเขาทำเอาผู้หญิงที่ทั้งสวยทั้งเพียบพร้อมต้องเสียน้ำตา ทั้งยังอาจดึงความทรงจำเจ็บแสบสำหรับคนที่เคยมีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ เนื่องด้วยความแตกต่างทางวัฒนธรรมขึ้นมาได้ในเอพิ ‘โสด’ นี้
นอกจากนั้นยังมีเรื่องของ ‘เล็กซ์’ (Lex) เกย์หนุ่มเจ้าเสน่ห์ที่สายงานครีเอทีฟพาออกเดินทางบ่อยจนไม่มีเวลาหารัก ซึ่งทำให้เราหัวใจรื้นเมื่อได้ฟังพวกเขาแลกเปลี่ยนเรื่องราว เปิดเผยกับพ่อแม่ว่าชอบเพศเดียวกันอันน่าประทับใจ แม้จะมีบางฉากที่ชวนอึดอัดเนื่องด้วยมารยาทการรับประทานอาหาร (ที่นี่แหละนี่คือชีวิตจริงสุดๆ) รวมถึงนาทีที่ถามว่าใครเป็นรุกใครเป็นรับ ไปจนฉากที่ค้นพบว่า ต่างคนต่างเป็นแดรกควีน หรือจะเรื่องของ ‘มิลา’ (Mila) เลสเบียนสาวผิวสีผู้ไม่ค่อยออกเดต เธออ่อนหวานน่ารัก และคู่ของเธอได้แหกกฎ ‘ใครจูบในเดตแรกคนนั้นปิ๋ว’ ของทั้งซีรีส์ไปเรียบร้อย ตอกย้ำว่าโลกของการเดตไม่ต่างกับเสี่ยงดวง คุณไม่รู้ว่าคนคนนั้นจะกลายเป็นศัตรูสุดแสยงในอนาคต หรือกลายเป็นคู่ชีวิตไปอีก 60 ปี รู้แต่เพียงต้องพกความกล้าออกไปท้าทายโชคชะตาใจสักครั้ง ทั้งยังไม่มีใครขีดกฎตายตัว มีคุณทั้งคู่เท่านั้นที่เป็นผู้กำหนดสูตรรักของความสัมพันธ์
มาถึงเอพิโสดที่เชื่อว่าขโมยใจคนมากมาย ทั้งเป็นตอนโปรดของผู้เขียนคือ เรื่องราวของสุภาพบุรุษพ่อหม้ายสูงอายุ ‘ลีโอนาร์ด’ (Leonard) ที่กลับไปชวนสาวออกเดตอีกครั้ง อดีตนักกฎหมายวางมือคนนี้ไม่เรื่องเยอะ และขอแค่คนรู้ใจข้างกาย ผู้หญิงที่ออกเดตกับเขาทั้ง 5 ก็เป็นสุภาพสตรีที่น่ารัก แม้หนึ่งในราชินีน่าทึ่งในนั้นรู้ดีว่า เดตนี้คงไม่รอด เธอเอ่ยปากอย่างสุภาพว่า เลยเวลาเข้านอนแล้ว และฉันเชื่อว่า ทุกคนคงเข้าใจความหมายของเธอของเธอดี
ทั้งนี้ทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่า จริงๆ แล้ว “หากคิดจะมองหา ข้างนอกนั่นอาจมีเพื่อนรู้ใจที่เหมาะกับเราทุกคนอยู่ก็เป็นได้ ไม่ว่าอายุจะเข้าเลขใด” และต้องขอบคุณความน่ารักของลีโอนาร์ดที่ทำให้เราเห็นว่า ไม่ว่าตัวเลขศักราชจะมากขึ้นเพียงใด ความเป็น ‘สุภาพบุรุษ’ ที่ให้เกียรติผู้หญิงยังคงครองใจคนทุกยุคไม่เสื่อมคลาย
Dating Around ทำให้เราเห็นความจริงของการออกเดต ออกไปเจอคนใหม่ๆ ว่ามีทั้งช่วงเวลาน่ากระอักกระอ่วนอย่าง จะสั่งอะไรดี จะกอดหรือจะโบกมือ จะจูบตรงแก้มดีไหม จะได้เจอเธอหรือเขาอีกไหม หรือเราพูดไปอย่างนั้นเพื่อรักษามารยาท และหลังจากชมทั้ง 6 ตอน เราอาจเริ่มคิดแบบ แคร์รี แบรดชอว์ (Carrie Bradshaw)
“ฉันอดสงสัยไม่ได้ว่า…เราเดตไปทำไมนะ?”
และแล้วเราก็มาถึงเรื่องของ ‘ซาราห์’ (Sarah) สาวปากแดง ผมบ๊อบ ช่างฉอเลาะ ที่พกความน่าเอ็นดูมาด้วยมุกตลกเนิร์ดๆ เธอยอมออกเดตกับหนุ่มทั้ง 5 คน จนได้มาพบกับ ‘จอห์น’ (John) หนุ่มล่ำหัวโล้นในเสื้อสีดำลายหัวใจแดงที่ชอบให้เรียกว่า ‘มิสเตอร์จอห์น’ (แปลก แต่เพราะเราเป็นคนดี เราจะไม่ตัดสินใครแล้วกัน) ซาราห์กับจอห์นนั่งลงเตรียมสั่งอาหารที่ร้านเก๋สักแห่งในบรูกลิน เธอเอ่ยว่าจะสั่ง ‘The Big Salad’ จอห์นตอบกลับว่า “เธอชอบใหญ่ๆ เหรอ” ใช่แล้ว ตาจอห์นเพิ่งเล่นมุกใต้สะดือกับสาวแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกันไม่ถึงชั่วโมง! เธอใส่เสียงหัวเราะ ขำกลบเกลื่อนไปตามเรื่อง
บทสนทนาของการเดตดำเนินต่อไป และพี่ล่ำยังคงไม่หยุด ซาราห์บอกเขาว่า เธอชอบร้องเพลงแจ๊ส เขาคะยั้นคะยอให้เธอร้องให้ฟัง เธอหยิบแก้วไวน์มาจิบ เตรียมร้องให้เขาฟัง “คุณไม่ชอบให้อะไรมาติดในคอใช่ไหมเนี่ย” จอห์นหยอดมุก ‘ตลก’ ต่อ และอีกครั้งที่เกี่ยวกับเจ้าโลก
ฉันหยุดคิดต่อไม่ได้ว่า ‘ถ้าเป็นฉัน จะทำอย่างไร?’ ซาราห์แลดูกระอักกระอ่วนขึ้นมาทันใด และเธอทำสิ่งที่เรายกนิ้วให้ เธอลุกขึ้นเอ่ย “ฉันปวดหัวนิดหน่อย และมีนัดตอนเช้ากับลูกค้าเสียด้วย ขอบคุณมากที่ออกมาเจอฉัน” เธอบอกกับจอห์น “เป็นคืนที่น่าสนใจดี แต่ฉันคงต้องขอตัวก่อน ถ้าคุณจะไม่ว่าอะไร และฉันก็ชอบเสื้อคุณนะ” เธอปิดท้ายอย่างสุภาพอย่างที่ฉันมองว่า เขาไม่สมควรได้รับด้วยซ้ำ
ในโลกแห่งความจริง จอห์นคงไม่ใช่ผู้ชายคนแรกที่เล่นมุกสกปรกใต้สะดือในเดตแรก ฉันถามเพื่อนสาวใกล้ตัวถึงประเด็นนี้ และสารภาพว่า ยังคงแปลกใจที่ได้ยินว่า หลายคนเคยผ่านประสบการณ์นี้มาก่อน รวมถึงตัวฉันเช่นกัน “คุณเป็นคนมีสะโพก ถ้าเราเล่นเสียวกัน คุณจะไม่บ่นว่าเจ็บก้นสินะ” ชายวัย 29 ปีเคยบอกกับฉันครั้งแรกตอนเราพบกันที่ร้านทาปาสแถวสุขุมวิท เดตครั้งที่ 2 ไม่เคยเกิดขึ้น แต่ในนาทีนั้น ฉันในวัยที่เด็กกว่าปัจจุบันได้แต่หัวเราะไม่ต่างกับซาราห์ และจิบแซงเกรียเปลี่ยนเรื่องไป
“ฉันเคยเจอคนหนึ่ง” เพื่อนเอ พนักงานสื่อสารการตลาดวัย 32 บอก “เราเคยไปกินข้าวกับผู้ชายคนหนึ่ง กินไวน์ไปได้ 1 แก้ว เขาทำทีเอามือมาปัดหน้าอก แล้วบอกว่า อุ๊ย ขอโทษที แต่น้องชายผมอาจไม่คิดแบบนั้น” เธอได้แต่หัวเราะแห้งแล้วเปลี่ยนเรื่อง ขณะที่ บี ข้าราชการสาววัย 29 บอกกับฉันและเพื่อนๆ ในแชตไลน์ว่า “เคยไปดูหนังกับผู้ชายคนหนึ่งที่เจอใน Tinder เขากระซิบที่หูบอกว่า ฉากเลิฟซีนในหนังนี้เขา ‘ใช้ลิ้น’ ได้เก่งกว่าเยอะ” บีขอตัวไปเข้าห้องน้ำ แล้วไม่กลับมาอีกเลย
วิธีที่ซาราห์รับมือใน Dating Around น่าประทับใจสำหรับฉัน ที่สำคัญ เธอไม่ยอมอ่อนข้อให้กับความคิดโสมมของจอห์น เธอเลือกการเดินจากออกมาอย่างสง่างาม
“ฉันมีนิสัยเสีย ชอบยอมให้กับผู้ชายแย่ๆ ที่ไม่ควรค่า” เธอเผยถึงสิ่งที่เรียนรู้จากการออกเดตในบทสนทนากับหนุ่มคนหนึ่งที่ออกมาพบ
“แต่ฉันเลิกทนแล้ว”
เธอพูดจริง และเราขอกดหัวใจให้ซาราห์ร้อยดวง
ภาพ: Courtesy of Netflix
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
- Dating Around เริ่มออกฉายทาง Netflix ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562