หลังจากที่ผู้ให้บริการความบันเทิงบนอินเทอร์เน็ตรายยักษ์ของโลกได้เริ่มเข้ามาจับตลาดคอนเทนต์ฝั่งเอเชีย และทำให้เกิดออริจินัลซีรีส์เกาหลีอย่าง Kingdom และ Busted! ที่โด่งดังระดับโลก ล่าสุด Netflix ได้ร่วมมือ Bravo! Studios ของ GMM Studios International ผลิตออริจินัลซีรีส์เรื่องแรกเต็มรูปแบบของไทยที่มีชื่อเรื่องว่า เคว้ง หรือ The Stranded ผลงานการกำกับของ จิม-โสภณ ศักดาพิศิษฏ์ (ลัดดาแลนด์, เพื่อน..ที่ระลึก)
และเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติร่วมกับ Netflix ผู้ให้บริการสื่อบันเทิงบนอินเทอร์เน็ตรายยักษ์ของโลก ได้จัดงานสัมมนา ‘Bringing Thai Content To The World’ เพื่อร่วมแบ่งปันข้อมูลและหลักปฏิบัติแก่กลุ่มนักสร้างสรรค์ชาวไทย ในการนำเสนอผลงานภาพยนตร์ไทยสู่สายตาผู้ชมทั่วโลก
ในงานนี้ THE STANDARD POP ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ เอริกา นอร์ธ หัวหน้าฝ่าย International Originals ประจำภูมิภาคเอเชียของ Netflix และ เอกชัย เอื้อครองธรรม ผู้บริหาร Bravo! Studios ของ GMM Studios International ผู้อำนวยการสร้างเรื่อง เคว้ง ที่โดยส่วนตัวเอกชัยเป็นผู้กำกับที่เคยฝากผลงานในตำนานอย่าง Beautiful Boxer ให้เป็นที่รู้จัก และได้รับรางวัลจากเวทีระดับโลก
ปัจจุบันมีเอเชียนซีรีส์เกิดขึ้นมากมาย คุณคิดว่ากระแสของคอนเทนต์ในเอเชียตอนนี้เป็นอย่างไร
เอริกา: ฉันคิดว่าเอเชียคือแหล่งรวมตัวของนักเล่าเรื่องที่มากความสามารถทีเดียว ทั้งผู้กำกับมือทอง ไอเดียความคิด ประเพณี วัฒนธรรม ทั้งจากญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ จนมาถึงประเทศไทย มันเป็นอุตสาหกรรมที่เต็มไปด้วยคุณภาพ และการที่มีผู้เล่นอย่าง Netflix และผู้ให้บริการเจ้าอื่นๆ เข้ามา จึงเป็นโอกาสดี และในแง่ของการผลิตคอนเทนต์ แพลตฟอร์ม Netflix ที่เปิดโอกาสให้เรื่องราวของภูมิภาคเอเชียไปสู่สายตาชาวโลกแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อีกอย่างก็คือ มีความเป็นสากลในการเล่าเรื่อง บวกกับความเชื่อของเราที่ว่า เนื้อเรื่องที่ดีจะออกเดินทางเอง โดยไม่มีเงื่อนไขของภาษาต้นทางค่ะ
เอกชัย: ถ้าเป็นคอนเทนต์ในไทย ผมคิดว่า นอกจากศักยภาพของผู้สร้าง ครีเอทีฟในเมืองไทยและโปรดักชันที่มีคุณภาพเทียบเท่ามาตรฐานต่างประเทศได้ คือเนื้อเรื่องที่มีเอกลักษณ์ที่เรานำเสนอให้มันมีความกังวานออกไปนอกประเทศได้ ถึงมันจะเป็นพล็อตที่ Locally Specific ก็จริง แต่ขณะเดียวกันยังมีความเป็นสากลที่จับหัวใจคนทั่วโลก ซึ่งผมคิดว่า วัฒนธรรมไทย วิถีชีวิตของคนไทย สิ่งเหล่านี้นี่เองที่คนทำจะหยิบจับจุดไหนมาขยาย และทำให้มันจับหัวใจคนทั้งโลกได้ ผมเชื่อว่า คอนเทนต์แบบนี้แหละที่จะก้าวสู่ตลาดโลก
หลังจาก Netflix ได้สร้างออริจินัลซีรีส์ที่ประสบความสำเร็จมากมายในเอเชีย ทำไมจุดหมายต่อไปถึงเป็นประเทศไทย
เอริกา: จริงๆ Netflix เปิดตัวทั่วโลกในปี 2016 พร้อมผู้ชมจาก 190 ประเทศทั่วโลก จากจุดนั้นเราได้เรียนรู้ พัฒนา และขยายธุรกิจในตลาดที่หลากหลายมากจริงๆ และถ้าจะให้เราไปสร้างอะไรบางอย่างในตลาด มันไม่ใช่แค่การเปิดสาขาธรรมดา แต่มันคือการศึกษาว่าอะไรเวิร์ก และอะไรคือสิ่งที่ผู้ชมในตลาดนั้นๆ ชื่นชอบ แล้วจึงส่งความบันเทิงนั้นออกไปให้ได้มากที่สุด ผ่านเรื่องราวที่น่าสนใจให้คนทั่วโลก
และเมื่อนึกถึงประเทศไทย ฉันตื่นเต้นเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว เพราะเป็นตลาดที่ฉันอยากร่วมงานมานานมาก เป็นที่ที่เต็มไปด้วยคนเก่งทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ตั้งแต่นักแสดง ผู้กำกับ โปรดักชันดีไซเนอร์ คนตัดต่อ ไปจนถึงนักดนตรี ขีดความสามารถในการสร้างรายการดีๆ ที่มีเนื้อหาเข้าใจง่าย มาตรฐานการผลิตที่ดี นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เรามาประเทศไทยในวันนี้ รวมไปถึงสถานที่อันสวยงาม ตำนานเล่าขานต่างๆ ที่สำหรับเรามันคือสิ่งที่ทำให้ เคว้ง เหมาะในจุดนี้ และถ่ายทอดเรื่องนี้ไปสู่ผู้บริโภคนับล้าน ที่เขาจะเปิดดูเมื่อไรก็ได้ บนช่องทางไหนก็ได้ตามต้องการ และสร้างบทสนทนาไปใน 190 ประเทศทั่วโลก ที่สามารถเข้าถึงซีรีส์นี้ได้ในเวลาเดียวกัน
เอกชัย: ผมคิดว่าประเทศไทยมีชื่อเสียงระดับที่มีคนไว้ใจเยอะ อย่างที่คุณเอริกาบอก องค์ประกอบหลักๆ คือ ความครบวงจรที่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ประเทศไทยตอนนี้ พร้อมที่จะรองรับการสร้างผลงานระดับโลกได้ เขาจะมีความเชื่อมั่นในจุดนี้ ถึงทำให้เขาเริ่มเข้ามาทำงานกับคนไทย สิ่งที่แตกต่างระหว่าง Netflix กับหนังฮอลลีวูดที่มาถ่ายที่ไทยคือ มันไม่ใช่การรับคำสั่งแล้วเราช่วยทำ แต่เป็นการสร้างสิ่งใหม่ขึ้นมาร่วมกัน ทำไปทำมาเลยเกิดการถ่ายทอดวิชาความรู้ ประสบการณ์ ที่จะมีผลระยะยาวในการสร้างอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยให้เติบโต และนำพาสิ่งที่เราทำได้ออกไปให้ตลาดโลกได้เห็นมากขึ้น
อะไรคือความแตกต่างระหว่างการสร้างคอนเทนต์ในไทยและในภูมิภาคอื่นๆ
เอริกา: การผลิตเนื้อหาจะแตกต่างอยู่แล้วในทุกประเทศ ทุกโปรเจกต์ ทุกภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ ฉันคิดว่า มันไม่มีแบบฉบับที่ตายตัว สิ่งที่เราอยากทำคือ ปรับตัวในทุกที่ที่เราลงไปสร้างและเรื่องราวที่อยากจะเล่า เราจึงให้เหล่านักสร้างสรรค์เล่าเรื่องของตัวเองให้ดีที่สุด และในฐานะ Netflix Team จะทำสุดความสามารถที่จะสนับสนุนพวกเขา โอเค มันอาจจะมีปัจจัยพื้นฐานที่เหมือนกัน เช่นการผลิตทั่วโลกที่ต้องมีกระบวนการบางอย่าง แต่วิธีการสร้าง การต่อยอดเนื้อหา และการถ่ายทอดจะแตกต่างออกไปในแต่ละประเทศ ซึ่งเป็นความหลากหลายที่น่าสนใจและมีชีวิตชีวา
อุตสาหกรรมบันเทิงไทยได้อะไรจากการร่วมงานครั้งนี้
เอกชัย: อย่างที่บอกคือ เรื่อง เคว้ง ซึ่งเป็นออริจินัลซีรีส์เรื่องแรกของไทย สิ่งที่เราทำด้วยกันมันคือ Creative Partnership ที่แท้จริง บุคลากรทั้งหมดมีหัวหน้าเป็นคนไทย ไม่ว่าจะเป็นตากล้อง ผู้กำกับ คนเขียนบท Post-Production ทั้งหมดเราจะทำในไทย และ Netflix เองก็มีระบบการทำงานที่ช่ำชองที่เราเรียนรู้จากเขา อย่างเช่น การทำซีรีส์เรื่องหนึ่งจะต้องมีไบเบิลขึ้นมา เพื่อสร้างเส้นเรื่องที่ขยายได้ 6-7 ซีซันตั้งแต่ต้น ซึ่งอาจจะเป็นระบบที่เรายังไม่คุ้นเคย เพื่อสร้างจักรวาลของเรื่องและตัวละครให้มันใหญ่มากพอที่จะนำมาใช้ได้เรื่อยๆ รวมไปถึงเทคโนโลยีการเล่าเรื่อง ระบบข้อมูลการทำงานที่ทุกฝ่ายสามารถเข้าถึงได้เป็นขั้นตอน มีระบบตรวจสอบ ทำให้เกิดคุณภาพที่ดีตั้งแต่ต้นจนจบ
อีกอย่าง แพลตฟอร์มอย่าง Netflix มันมี Guaranteed Distribution หมายความว่า สิ่งที่เราวางลงไป ทั่วโลกจะได้เห็น เหมือนเราเปิดร้านอาหารที่ฟู้ดคอร์ตเดียวกันหมด มีเครื่องยืนยันว่า สิ่งที่เราทำจะถูกเห็น พอถูกเห็นจะทำให้เรามีความทะเยอทะยานที่จะทำของให้เห็นได้ทั่วโลก เมื่อสู้กับคนอื่น มันสู้เขาได้ ผมว่านี่คือสิ่งที่น่าตื่นเต้น
เอริกา: เรากำลังดำเนินธุรกิจที่อยากจะมอบบางอย่างให้กับวงการ สร้างโอกาสให้นักสร้างสรรค์ได้สร้างผลงานที่ดีที่สุดในชีวิต โดยไร้ขีดจำกัดและเต็มศักยภาพ ไม่ใช่แค่จะมาเล่าเรื่องของประเทศไทย ในประเทศไทย ให้คนไทย แต่เล่าให้คนทั่วโลกฟัง เป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะสร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจที่ไม่เคยมีมาก่อน ทั้งยังได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์และเรียนรู้การทำงานซึ่งกันและกัน
ภาพ: Courtesy of Netflix
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
- ออริจินัลซีรีส์เรื่อง เคว้ง จะเล่าเรื่องราวของ ‘คราม’ เด็กหนุ่มผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์สึนามิในหมู่เกาะแห่งหนึ่งของทะเลอันดามัน พร้อมกับเพื่อนของเขาอีก 36 ชีวิต เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้พวกเขาต้องติดอยู่บนเกาะ นั่นทำให้ครามต้องกลายเป็นผู้นำ เพื่อหาทางเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ครั้งนี้
- เอกชัยเผยว่า ขณะนี้การถ่ายทำดำเนินไปถึง 40% โดยสถานที่ถ่ายทำหลักจะอยู่ที่ภาคตะวันออกและภาคใต้ของบ้านเรา รวมไปถึงในซีซันแรกจะมีจำนวนทั้งหมด 7 ตอน และจะออกอากาศให้แฟนๆ ได้ชมในเดือนธันวาคมปีนี้