วานนี้ (30 มิถุนายน) ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีมติเห็นชอบ 8 มาตรการเข้มงวดเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
โดยมุ่งเน้นให้ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นตามพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
พล.ต.อ. ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการ กสทช. เปิดเผยว่า มาตรการเหล่านี้มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย โดยมีรายละเอียดดังนี้ :
- คัดกรองผู้ใช้บริการผิดปกติ: ผู้ให้บริการมีหน้าที่ตรวจสอบและระงับการใช้งานทันทีสำหรับผู้ใช้บริการที่มีพฤติกรรมผิดปกติ เช่น จำนวนครั้งที่โทรออก, พื้นที่การโทร, ข้อมูลลูกค้า และการใช้อุปกรณ์ SIM BOX โดยสำนักงาน กสทช. จะร่วมกับผู้ให้บริการกำหนดเงื่อนไขการคัดกรอง
- ระงับบริการต้องสงสัย: ผู้ให้บริการต้องระงับบริการโทรคมนาคมทันทีภายใน 24 ชั่วโมงสำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และภายใน 3 วันสำหรับบริการโทรคมนาคมอื่น นับแต่วันที่ได้รับการแจ้งเตือนจากสำนักงาน กสทช. ว่าบริการนั้นเป็นที่ต้องสงสัย
- จัดการลงทะเบียนซิมใหม่: ผู้ให้บริการต้องดำเนินการให้การลงทะเบียนผู้ใช้บริการเบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ใหม่เป็นไปตามประกาศ กสทช. ภายใน 7 วัน รวมถึงการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลัง โดยข้อมูลที่ลงทะเบียนตั้งแต่ 1 มกราคม 2567 จนถึงวันที่มาตรการมีผลบังคับใช้ ต้องตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน และข้อมูลก่อนปี 2567 ต้องตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี
- ควบคุม SMS แบบ A2P: การส่งข้อความจากแอปพลิเคชันถึงบุคคลทั่วไป (Application-to-Person หรือ A2P) ต้องลงทะเบียนชื่อผู้ส่ง (Sender Name) ก่อนส่งข้อความ และกรณีที่มีการแนบลิงก์ ผู้ให้บริการต้องตรวจสอบความถูกต้องของลิงก์ทุกครั้งก่อนส่ง
- จำกัดเบอร์ต่างชาติ: จำกัดการลงทะเบียนเบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ของบุคคลต่างชาติไม่เกิน 3 เลขหมายต่อคนต่อผู้ให้บริการ และกำหนดให้ใช้หนังสือเดินทาง (Passport) ในการยืนยันตัวตนเท่านั้น
- จำกัดเวลา Tourist SIM: กำหนดระยะเวลาใช้งานซิมการ์ดสำหรับนักท่องเที่ยว (Tourist SIM) ไม่เกิน 60 วัน และไม่สามารถเติมเงินเพื่อขยายเวลาได้ หากต้องการใช้งานต่อ ต้องลงทะเบียนยืนยันตัวตนอีกครั้ง
- ห้ามใช้ SIM BOX และ Gateway ไม่ลงทะเบียน: ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ต้องห้ามเครื่องวิทยุคมนาคมลูกข่ายประเภท SIM BOX หรือ Gateway ที่รองรับ 4 ซิมขึ้นไป และไม่ได้รับการลงทะเบียนจากสำนักงาน กสทช. เชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม
- แจ้งเตือนและปฏิเสธสายจากต่างประเทศ: ผู้ให้บริการต้องเพิ่มเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์แจ้งเตือนผู้ใช้บริการสำหรับทราฟฟิกที่รับจากต่างประเทศ เช่น การเติม +697 หรือ +698 หน้าเลขหมายที่มาจากต่างประเทศ และมีระบบปฏิเสธการรับสายจากต่างประเทศ
พล.ต.อ. ณัฐธร เสริมว่า การกำหนดมาตรการเหล่านี้จะส่งผลให้ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ โทรคมนาคมอื่นๆ และผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้อง มีส่วนต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น
หากไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าได้ปฏิบัติตามมาตรฐานหรือมาตรการที่ กสทช. กำหนดไว้ โดยถือเป็นการเพิ่มบทบาทของผู้ประกอบการในการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการส่งข้อมูลที่จำเป็น และช่วยป้องกันความสูญเสีย รวมถึงดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น