วันนี้ (13 มกราคม) พ.ต.อ. สุรพงศ์ เปล่งขำ ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบและกำกับดูแล พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เปิดเผยหลังการประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง ซึ่งได้ข้อสรุปว่า วันนี้เชิญ บริษัท โพสเซฟี่ กรุ๊ป จำกัด ตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ OPPO และ บริษัท โปรทา จำกัด ตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ realme มาตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังพบแอปพลิเคชันกู้เงินติดอยู่ในโทรศัพท์มือถือ โดยได้คำตอบจากทั้งสองบริษัทว่าจะอัปเดตเฟิร์มแวร์หรือซอฟต์แวร์ผ่านระบบเครือข่ายออนไลน์ เพื่อให้ลูกค้าสามารถลบแอปพลิเคชันได้โดยไม่ต้องเดินทางไปที่ศูนย์บริการ
นอกจากนี้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สินค้าที่จะจำหน่ายไม่ว่ารุ่นไหน หากมีแอปนี้ให้หยุดจำหน่ายทันที ให้ปรับปรุงตัวเครื่องไม่ให้ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าได้ แต่ถ้ามีการจำหน่ายเจ้าของข้อมูลมีสิทธิ์แจ้งให้ลบทิ้งได้เช่นกัน ถือเป็นการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลผิดวัตถุประสงค์ มีโทษปรับไม่เกิน 3 ล้านบาท แต่ถ้าพบว่าละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลก็จะดำเนินคดีและมีความผิดทางปกครอง ทางอาญา เป็นรายกรณีไป
เบื้องต้น OPPO และ realme ขอเวลาในการตรวจสอบและแก้ไข 1 เดือน แต่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มองว่าช้าเกินไป และให้รายงานความคืบหน้าภายในวันที่ 16 มกราคมนี้ และให้ไปรวบรวมข้อมูลว่าติดตั้งแอปอยู่ในตัวเครื่องจำนวนเท่าไร
ด้านตัวแทน OPPO บอกว่า จากการตรวจสอบพบว่าแอปนี้มีการติดตั้งมาจากโรงงาน แต่ขอไปตรวจสอบก่อนว่าเป็นฝั่งจีนหรือไทย แต่เบื้องต้น OPPO และ realme เป็นบริษัทตัวแทนจำหน่ายจากประเทศจีน และพบว่าในตัวเครื่องติดตั้งในรุ่นโทรศัพท์มือถือที่จำหน่ายตั้งแต่ปี 2566
ส่วนที่มีข่าวว่าพบผู้เสียหายเข้าไปใช้บริการแอปเงินกู้ทำให้หนี้สินเพิ่มขึ้น จะเยียวยาผู้เสียหายอย่างไร ตัวแทนของ OPPO บอกว่าขอตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง และพร้อมตรวจสอบตามกระบวนการทางกฎหมาย
ด้าน พ.ต.อ. สุรพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในกรณีนี้หากพบว่ามีผู้เสียหายก็สามารถร้องเรียนไปได้ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.)
ส่วนเจ้าของแอปที่เป็นนายทุนปล่อยเงินกู้ให้ตัวแทนทั้งสองบริษัทไปตรวจสอบมาว่าเป็นใคร รวมถึงให้ OPPO บริษัทแม่ที่ประเทศจีนไปตรวจสอบแอปตัวนี้ว่านำข้อมูลไปเผยแพร่ต่อหรือไม่
ส่วนในวันพรุ่งนี้ (14 มกราคม) จะประชุมหารือเกี่ยวกับความผิดทางอาญาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนข้อมูลดังกล่าวจะหลุดไปถึงแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ ตัวแทนทั้งสองบริษัทยืนยันว่ามีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าอย่างเต็มที่