วันนี้ (19 มีนาคม) ที่ห้องประชุมสโมสรสัญญาบัตร กองเรือยุทธการ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี กองทัพเรือแถลงข่าว ผลสรุปการสอบสวนกรณีเหตุลูกปืนขนาด 76/62 มม. จากกระบอกปืนที่ติดตั้งหัวเรือหลวงชลบุรี หมายเลข 331 ได้เกิดความผิดพลาดลั่นใส่ท้ายเรือหลวงคีรีรัฐ หมายเลข 432 ทำให้ตัวเรือได้รับความเสียหาย และมีทหารประจำเรือได้รับบาดเจ็บ
โดย พล.ร.อ. ชาติชาย ทองสะอาด ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ได้ชี้แจงถึงเรื่องอาการผู้ได้รับบาดเจ็บและการช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บว่า ในเหตุการณ์ครั้งนี้มีกำลังพลเรือหลวงคีรีรัฐได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 14 นาย ในจำนวนนี้ได้รับบาดเจ็บหนัก รักษาตัวในห้อง ICU จำนวน 5 นาย ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ส่วนใหญ่เกิดจากการสำลักควันไฟและสูดลมร้อน
ปัจจุบัน 9 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บไม่มากออกจากโรงพยาบาลทั้งหมดแล้ว ส่วนที่รักษาตัวในห้อง ICU จำนวน 5 นาย อาการดีขึ้น ออกมาอยู่ในห้องพิเศษคนไข้ปกติ ซึ่งทั้ง 5 นาย สามารถหายใจเองได้แล้ว แต่ยังอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ กองทัพเรือยังได้บำรุงขวัญกำลังพลทั้งหมด และเยียวยาช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงผู้ที่ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย
ด้าน พล.ร.ต. เฉลิมชัย สวนแก้ว ผู้บัญชาการกองเรือตรวจอ่าว ในฐานะต้นสังกัดเรือหลวงชลบุรี เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้มีการลงคำสั่งให้ นาวาตรี ธีรนัย เหล่าสิงห์ ผู้บังคับการเรือหลวงชลบุรี ไปช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองเรือตรวจอ่าว กองเรือยุทธการ เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในฐานะผู้การเรือ พร้อมทั้งมีการสอบสวน หากมีสิ่งใดเพิ่มขึ้นก็จะมีการพิจารณาโทษตามมา
ส่วนสาเหตุของการเกิดปืนลั่นครั้งนี้ สืบเนื่องจากเรือหลวงชลบุรีได้ออกไปทำการฝึกยิงอาวุธในทะเลเมื่อวันที่ 13 มีนาคม ระหว่างการยิงปืนเกิดติดขัด 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 นัดที่ 15 เกิดจากกระเดื่องยึดปืนไม่ปลด สามารถแก้ไขได้เรียบร้อย ครั้งที่ 2 นัดที่ 21 เกิดจากลูกปืนด้าน สามารถแก้ไขได้เรียบร้อย
กระทั่งช่วงนัดที่ 37 ปืนพร้อมทำการยิงบรรจุ 5 นัด เข้าไปอยู่ในตำแหน่งพร้อมยิง แต่เนื่องจากสนามยิงไม่ปลอดภัยจึงล้มเลิกภารกิจ กลับสู่ที่ตั้งฐานทัพเรือสัตหีบ ซึ่งสาเหตุที่ปืนลั่นใส่เรือหลวงคีรีรัฐไม่ได้เกิดจากการยิง แต่เกิดจากไม่สามารถถอนลูกปืนออกจากวงบรรจุได้ทั้งหมด ยืนยันไม่ได้มีลูกปืนค้างอยู่ในรังเพลิง สามารถถอดออกมาได้เพียง 2 นัด ที่เหลือติดอยู่ในระบบบรรจุช่วงบริเวณนิรภัยการยิง ซึ่งเกินขีดความสามารถของกำลังพลประจำเรือที่จะนำออกมาได้ จึงได้มีการประสานเจ้าหน้าที่กรมสรรพาวุธทหารเรือ
จนกระทั่งเกิดเหตุขัดข้องระหว่างการถอดลูกปืน ซึ่งตัวระบบของเครื่องนิรภัยลองเปล่าเกิดระบบขัดข้อง เนื่องจากสภาพอายุการใช้งานนานถึง 40 ปี ซึ่งระหว่างปลดนิรภัยลองเปล่าด้วยมือ ปืนเกิดอาการกลับเข้าที่ด้านหน้าอย่างรุนแรง ระหว่างนั้นปืนปรับหันอยู่ในระดับ 5 องศา เป็นเหตุให้ลูกปืนเข้าไปในรังเพลิง ก่อนจะลั่นไปถูกเรือหลวงคีรีรัฐที่จอดอยู่ลำหน้า