×

ณัฐพงษ์ขอความกระจ่างภูมิธรรมยุติกระบวนการยุบสภาหรือยัง หากยังไม่ชัด ควรเดินหน้าโหวตนายกฯ

โดย THE STANDARD TEAM
04.09.2025
  • LOADING...
ณัฐพงษ์

วันนี้ (4 กันยายน) ที่อาคารรัฐสภา ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวเพื่ ขอความชัดเจนกรณีการทูลเกล้าฯ ยุบสภาจาก ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี 

 

โดยณัฐพงษ์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อคืนวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้บรรจุวาระการโหวตนายกรัฐมนตรีเข้ามาแล้ว และพรรคเพื่อไทยก็มีมติเสนอแคนดิเดตชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่กลับมีกระแสข่าวว่ารัฐบาลได้เสนอความเห็นเพิ่มเติมไปยังสำนักองคมนตรี เพื่อยืนยันการทูลเกล้าฯ ยุบสภา 

 

พรรคประชาชนมีจุดยืนแน่วแน่ว่า ฝ่ายบริหารมีอำนาจเต็มในการยุบสภา จึงขอความชัดเจนจากภูมิธรรม ว่ากระบวนการยุบสภาได้สิ้นสุดลงแล้วหรือไม่ หากกระบวนการยังดำเนินอยู่ ตนในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน เห็นว่าประธานสภา ควรทบทวนการบรรจุญัตติการโหวตนายกรัฐมนตรี จนกว่าจะมีความชัดเจนเรื่องยุบสภา แต่หากรัฐบาลยืนยันว่า กระบวนการสิ้นสุดแล้ว สภาผู้แทนราษฎรก็จะได้ดำเนินการเลือกนายกรัฐมนตรีต่อไป 

 

▪️ไม่เห็นด้วยแจ้งความภูมิธรรม

 

สำหรับกรณีเมื่อวานนี้ที่มีการดำเนินคดีนั้น ตนและพรรคประชาชนไม่เห็นด้วย ที่จะใช้เครื่องมือทางกฎหมายในการดำเนินคดีดังกล่าว จึงขอเรียกร้อง ให้ทั้ง 2 คนนั้นถอนคำกล่าวโทษ เพื่อสร้างบรรยากาศในการหาทางออกให้กับประเทศ ไม่เห็นด้วยที่จะใช้กฎหมายเป็นการกลั่นแกล้ง หรือ นิติสงครามใดๆ

 

ส่วนที่พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อ ชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ชิงนายกรัฐมนตรี ณัฐพงษ์กล่าวว่า ในการดำเนินการของฝั่งพรรคเพื่อไทยเอง ก็อาจจะมีความย้อนแย้งในตัวเอง ทั้งที่ในพรรคมีการเตรียมเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ก็ยังมีกระแสข่าวว่าจะมีการเตรียม ยุบสภา ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ตนเรียกร้องขอความชัดเจนจากภูมิธรรมว่าตกลงแล้ว ได้ยุติกระบวนการยุบสภาแล้วหรือไม่อย่างไร 

 

สำหรับกระแสข่าวตีกลับหนังสือทูลเกล้าฯ ยุบสภานั้น ก็เป็นกระแสข่าวที่ได้ยินมา ว่ามีการเตรียมกัน นำความเห็นประกอบเพิ่มเติมเสนอไปยังสำนักองคมนตรี จึงอยากได้ความชัดเจนว่าตกลงแล้วยุติแล้วใช่หรือไม่ และเดินหน้าในการโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่แล้วใช่หรือไม่ 

 

▪️หากกระบวนการยุบสภาไม่ชัดเจน ควรเดินหน้าโหวตนายกฯ

 

ทั้งนี้ มติการสนับสนุน อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรี จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ และขอยืนยันว่า มติของพรรคที่ผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้าน เราไตร่ตรองและทบทวนมาอย่างดีแล้ว เพียงแต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ตอนนี้ อยู่ในสภาพที่รักษาการนายกรัฐมนตรีมีอำนาจในการยุบสภา จึงอยากทำให้เกิดความชัดเจนก่อน

 

“หากรัฐบาลยังคงคาราคาซัง ไม่ทำให้เกิดความชัดเจน พวกเราก็เห็นควรว่า ควรจะดำเนินการตามที่ประธานสภาฯ ได้ใช้ดุลพินิจ บรรจุระเบียบวาระ เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ต่อไป” ณัฐพงษ์กล่าว 

 

สำหรับข้อกังวลว่าพรรคภูมิใจไทย อาจจะลุแก่อำนาจ จากการที่พรรคประชาชนโหวตสนับสนุนนั้น ณัฐพงษ์กล่าวว่า ขอยืนยันในหลักการที่เราพูดมาโดยตลอด ว่าเราไม่เห็นด้วยกับกระบวนการนิติสงคราม เมื่อใครขึ้นมามีอำนาจ แล้วใช้กระบวนการทุกอย่าง หรือใช้อำนาจที่ตัวเองจะได้รับ เล่นงานคู่ขัดแย้งหรือฝ่ายตรงข้าม หากเกิดกรณีเช่นนี้ขึ้น ไม่ว่าจะพรรคภูมิใจไทยหรือใครก็ตาม ที่พรรคประชาชนได้ยืนยันในมติไปแล้วว่าเราจะเลือกสนับสนุน เราไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว 

 

“ในฐานะหัวหน้าพรรค ขอส่งสัญญาณว่าเราไม่เห็นด้วยกับการฟ้องร้องดำเนินคดีกับภูมิธรรมเมื่อวานนี้ การดำเนินการต่อจากนี้ เราจะใช้เสียงในสภาที่เรามี กำกับทิศทางของประเทศให้เดินไปตามทางที่เราเห็นว่าถูกและควร โดยใช้รัฐบาลเสียงข้างน้อย หรือกลไกฝ่ายค้านเสียงข้างมาก” ณัฐพงษ์กล่าว

 

▪️เชื่อเลือกทางดีที่สุดให้ประเทศ ถูกหลอกหรือไม่อยู่ที่คนประเมิน

 

ต่อกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า พรรคประชาชนถูกหลอกอย่างแนบเนียนที่สุด ณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่แต่ละคนจะประเมินได้ ว่าถูกหลอกหรือไม่ถูกหลอกอย่างไร แต่เรามีการประเมินฉากทัศน์มาอย่างรอบด้านแล้ว เพราะข้อเสนอนี้ เป็นสิ่งที่เรานำเสนอไว้ตั้งแต่ 2 เดือนที่แล้ว เพราะเราประเมินทุกสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด จึงคิดว่าทางเลือกนี้เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดต่อประเทศ ไม่ใช่ต่อพรรคประชาชน 

 

ส่วนการตั้งข้อสังเกตว่าสถานการณ์เช่นนี้คือประชาธิปไตยที่ถูกแทรกแซงนั้น ณัฐพงษ์ กล่าวว่า เราต้องรับฟังเสียงสะท้อน และพร้อมที่จะเข้าไปทำความเข้าอกเข้าใจอย่างรอบด้าน เราจะใช้อำนาจที่พวกเรามี ที่ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน ในการกำกับทิศทางประเทศให้เดินไปสู่ทางออก 

 

ณัฐพงษ์กล่าวต่อไปว่า เพราะสิ่งที่เราเห็นจากโพลต่างๆ ก็พบว่า ประชาชนอาจเริ่มผิดหวัง หรือเริ่มขาดความศรัทธาต่อนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง และการเมืองในระบบรัฐสภา เพราะฉะนั้น ตนเองไม่สามารถที่จะทิ้งความหวังตรงนี้ได้ เป็นหน้าที่ของพวกเราที่ต้องยืนยันว่า เราต้องใช้อำนาจในระบบ ตามกระบวนการระบอบประชาธิปไตย 

 

ส่วนหากพรรคภูมิใจไทยผิดข้อตกลง แม้แต่ข้อเดียว พร้อมจะอภิปรายเลยใช่หรือไม่ ณัฐพงษ์ตอบว่า ทันที รวมถึงอาจจะมีการดำเนินการอื่นใด ที่แม้ไม่มีการเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรกับตามข้อตกลง แต่ตามวิญญูชนจะสามารถเห็นได้ว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ก็เชื่อว่าพวกเราพร้อมยื่นอภิปราย มาตรา 151 ทันที แม้จะไม่สามารถให้รายละเอียดได้ ขอพูดเป็นหลักการกว้างๆ เช่น มีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม เพื่อล้างคดีให้กับกลุ่มผลประโยชน์ของตัวเองนั้น เป็นสิ่งที่เรายอมรับไม่ได้ 

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising