×

ณัฐพงษ์ชี้ ลำปางมีผู้สูงอายุมากเป็นอันดับ 7 ของประเทศ มองปัญหาสวัสดิการรัฐเป็นเบี้ยหัวแตก ซ้ำซ้อน ยุ่งยาก ควรเร่งแก้ให้ครอบคลุม

โดย THE STANDARD TEAM
16.03.2025
  • LOADING...
ณัฐพงษ์

วันนี้ (16 มีนาคม) ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส. แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานจัดกิจกรรมร่วมแลกเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับการดำเนินการนโยบายสวัสดิการสังคมของรัฐบนเวที ‘การขับเคลื่อนระบบสวัสดิการถ้วนหน้า การประสานบทบาทและพลังของรัฐ ท้องถิ่น และชุมชน’ โดยเป็นงานที่จัดร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน ที่จังหวัดลำปาง

 

ณัฐพงษ์กล่าวบนเวทีว่า สาเหตุที่วันนี้เลือกมาพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องระบบสวัสดิการกับพี่น้องประชาชนในจังหวัดลำปาง เนื่องจากจังหวัดลำปางเป็นจังหวัดที่มีผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ลำพังคิดเป็น 12% ของประชากรในจังหวัด มากเป็นอันดับ 7 ของประเทศ และจำนวนคนพิการคิดเป็น 5% ของประชากรในจังหวัด คิดเป็นอันดับ 5 ของประเทศ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าจังหวัดลำปางมีกลุ่มคนที่ต้องพึ่งพาสวัสดิการของรัฐเป็นอย่างมาก ซึ่งเมื่อพูดถึงปัญหาของระบบสวัสดิการของรัฐสามารถแบ่งได้เป็น 5 ด้านด้วยกัน คือ กระจัดกระจาย เบี้ยหัวแตก มีความเหลื่อมล้ำ คิดจากส่วนกลาง และตกหล่น

 

ณัฐพงษ์กล่าวต่อไปว่า ระบบสวัสดิการของไทยที่กระจัดกระจาย มีการแยกเป็นประเภทต่างๆ จำนวนมาก หากมองในแง่ดีก็ถือว่ามีครอบคลุมเกือบทุกเรื่อง แต่ถ้ามองในแง่ความยุ่งยาก บางประเภทก็อาจมีซ้ำซ้อนและสับสนกันได้ โดยสวัสดิการของไทยมักแยกตามหน่วยงานราชการและมีเกณฑ์และเงื่อนไขที่แตกต่างกันไปในแต่ละหน่วยงานที่เป็นเจ้าของงบประมาณ ซึ่งส่งผลให้ประชาชนมีความสับสนและต้องใช้เวลาในการประสานงานแต่ละแห่ง บางแห่งต้องไปหลายครั้งเพราะเอกสารไม่ครบถ้วน

 

“ระบบสวัสดิการของไทยที่เป็นเบี้ยหัวแตกในขณะที่สวัสดิการของไทยมีหลายประเภท แต่การช่วยเหลือในแต่ละประเภทมักช่วยเหลือเพียงน้อยมาก ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่ได้รับคนละ 600 บาทต่อเดือน เมื่อเปรียบเทียบกับเส้นความยากจน 3,000 บาทต่อเดือน จะเห็นว่ายังต่ำกว่ามาก” ณัฐพงษ์กล่าว

 

ณัฐพงษ์ยกตัวอย่าง สวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ ประกันสังคมสำหรับผู้ประกันตน และหลักประกันสุขภาพสำหรับประชาชนทั่วไป ซึ่งแต่ละระบบก็มีสิทธิประโยชน์แตกต่างกันมาก ปัญหาที่เกิดขึ้นคือนอกจากจะนำไปสู่ความเหลื่อมล้ำระหว่างประชากรแต่ละกลุ่มแล้ว ยังเป็นการสร้างข้อจำกัดสำหรับรัฐบาลเองในการบริหารจัดการและกำกับดูแล ในขณะที่ประเทศสิงคโปร์ มีเพียงแค่กองทุนเดียวที่ของกลุ่มทุกบุคคลทำเงินในกองทุนสามารถเข้าถึงประชาการทุกกลุ่มในประเภท ซึ่งเป็นตัวอย่างที่น่าศึกษาเพื่อนำมาแก้ไขปัญหาข้างต้น

 

ระบบสวัสดิการของไทยที่ส่วนกลางคิด โดยผ่านทางหน่วยราชการส่วนกลางต่างๆ โดยไม่เปิดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ แถมยังกำหนดให้เงินค่าใช้จ่ายสวัสดิการของประชาชนไปเป็นเงินของท้องถิ่น ซึ่งกลายเป็นการกันเงินส่วนท้องถิ่นที่จะไปดำเนินการตามนโยบายของตน ทั้งที่การตัดสินใจมาจากรัฐบาล ราชการส่วนกลาง รวมถึงการตัดสินใจบางเรื่องก็ยังขาดความโปร่งใสในการดำเนินการจนเป็นข้อสงสัยให้กับผู้คนในสังคม อย่างการนำเงินจากกองทุนประกันสังคมไปลงทุนเป็นต้น และสุดท้ายระบบสวัสดิการของไทยที่ตกหล่น สวัสดิการของไทยไม่มีระบบฐานข้อมูลรายบุคคลที่ดีพอ ส่งผลให้เกิดความซ้ำซ้อนของการได้รับสวัสดิการ

 

ณัฐพงษ์กล่าวทิ้งท้ายว่า หากแก้ปัญหาของสวัสดิการของไทยเหล่านี้ได้ก็จะสามารถทำให้ประชากรกลุ่มต่างๆ ของลำปางตามที่กล่าวข้างต้นได้รับสวัสดิการอย่างครอบคลุม รวมถึงประชากรกลุ่มต่างๆ ของทั้งประเทศด้วย

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising