เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือ NATO กล่าวว่า “แผนการบุกโจมตียูเครนของรัสเซียไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางเอาไว้” ขณะที่ความพยายามที่จะยึดครองภูมิภาคดอนบาสทางตะวันออกของยูเครนก็หยุดชะงักลงด้วย ซึ่งก่อให้เกิดประกายความหวังว่า ยูเครนอาจสามารถพลิกกลับมาเป็นฝ่ายชนะสงครามครั้งนี้
สโตลเทนเบิร์กกล่าวในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของชาติสมาชิก NATO ว่า “รัสเซียไม่สามารถยึดกรุงเคียฟได้ อีกทั้งยังตัดสินใจถอนกำลังออกจากพื้นที่รอบเมืองคาร์คิฟ ส่วนปฏิบัติการพิชิตภูมิภาคดอนบาสก็หยุดชะงักลง เห็นได้ชัดว่ารัสเซียไม่สามารถบรรลุเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของตนเองได้”
กระทรวงกลาโหมของอังกฤษ (MoD) ประเมินว่า รัสเซียสูญเสียกำลังรบมากถึง 1 ใน 3 ของกำลังพลทั้งหมดนับตั้งแต่สงครามเริ่มเปิดฉากขึ้นเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยแผนการของรัสเซียที่หวังจะพิชิตสมรภูมิรบทั่วประเทศและโค่นล้มรัฐบาลยูเครนนั้นต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายประการ ทั้งการตั้งรับของทหารยูเครนที่แข็งแกร่งเกินคาด รวมถึงปัญหาด้านโลจิสติกส์ต่างๆ
นอกจากนี้ รายงานยังระบุอีกด้วยว่า การโจมตีภูมิภาคดอนบาสของรัสเซียนั้นล่าช้ากว่ากำหนดเดิมอย่างมาก ส่วนการเคลื่อนกำลังรบก็ไม่ทรงประสิทธิภาพเหมือนอย่างในช่วงแรกๆ ขณะทหารเริ่มสูญเสียขวัญกำลังใจลงไปเรื่อยๆ
ทั้งนี้ รัสเซียได้ตัดสินใจถอนกำลังออกจากพื้นที่รอบกรุงเคียฟ หลังจากที่ไม่สามารถยึดเมืองหลวงได้ตามแผนการที่วางไว้ และเปลี่ยนไปมุ่งเป้ายึดครองภูมิภาคดอนบาสแทน แต่ถึงเช่นนั้น โอเลห์ ซิเนกูบอฟ ผู้ว่าราชการส่วนภูมิภาคกล่าวว่า กองกำลังยูเครนกำลังต่อสู้กับทหารรัสเซียในเมืองอิซีอุม (Izyum) ซึ่งอาจทำให้แผนการของรัสเซียในการยึดครองภูมิภาคดอนบาสนั้นยุ่งยากกว่าเดิม
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ประจำเมืองคาร์คิฟเปิดเผยว่า กองกำลังรัสเซียได้ถอนกำลังออกจากชายแดนเมืองแล้ว ส่วนประชาชนกำลังทยอยเดินทางกลับพื้นที่
นอกจากความเสี่ยงที่อาจต้องพ่ายแพ้ให้กับศึกที่ตัวเองเป็นคนเริ่มก่อแล้ว อีกหนึ่งอุปสรรคใหญ่ที่รัสเซียกำลังเผชิญอยู่คือการที่ NATO เตรียมขยายกองกำลังให้แข็งแกร่งกว่าเดิม เนื่องจากสวีเดนและฟินแลนด์ได้แสดงความประสงค์ที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกรายใหม่ของ NATO แล้ว โดยก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน มองว่า NATO เป็นภัยคุกคามความมั่นคงต่อรัสเซีย และเหตุผลหนึ่งที่เลือกบุกยูเครนเพราะต้องการสกัดแผนการของยูเครนที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิก NATO
อย่างไรก็ตาม กองกำลังยูเครนยอมรับว่าพวกเขาไม่อาจต้านทานรัสเซียไว้ได้ในหลายสมรภูมิ โดยในเมืองมาริอูโปลนั้น รัสเซียยังคงโหมกระหน่ำโจมตีโรงงานเหล็กซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองกำลังยูเครนใช้หลบซ่อนตัวอยู่ อีกทั้งยังมีรายงานว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธหลายลูกใส่โครงสร้างพื้นฐานทางทหารในเมืองลวิฟด้วย
ลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษ กล่าวว่า พันธมิตรของยูเครนต้องเดินหน้าให้การสนับสนุนทางทหารต่อไป เพื่อช่วยให้กองกำลังยูเครนมีศักยภาพมากพอที่จะขับไล่รัสเซียให้พ้นดินแดนได้
ภาพ: Dursun Aydemir / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง:
