การแข่งขันวันสุดท้ายของกีฬาปีนหน้าผา ณ ศูนย์ปีนหน้าผา การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยมีการชิงชัย 2 เหรียญทอง ในประเภทโบลเดอร์ริ่ง ซึ่งรอบชิงชนะเลิศนักกีฬาต้องปีนทั้งหมด 4 เส้นทาง ภายในเวลาเส้นทางละ 4 นาที
ในประเภท โบลเดอร์ริ่งชาย ออซซี่-อัศวิน เอื้ออารีย์จิต นักปีนหน้าผาวัย 18 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้คว้าเหรียญทองแดงจากประเภทลีด โชว์ฟอร์มรอบชิงชนะเลิศได้อย่างยอดเยี่ยม ปีนผ่านจุดสูงสุดได้ 3 จาก 4 เส้นทาง ทำคะแนนรวม 84.5 คะแนน คว้าเหรียญทองไปครอง ขณะที่เหรียญเงินเป็นของ อาชว์ อินทรชูพงษ์ รุ่นพี่ทีมชาติไทย และเหรียญทองแดงตกเป็นของ เหวิน บิน ลุค โกห์ จากสิงคโปร์
ส่วนประเภท โบลเดอร์ริ่งหญิง ข้าวปั้น-ณัชชา ศุภวรเศรษฐ์ วัย 18 ปี เจ้าของเหรียญทองแดงจากประเภทลีดก่อนหน้านี้ ยังคงรักษามาตรฐานได้อย่างยอดเยี่ยม ปีนถึงจุดสูงสุดได้ 2 จาก 4 เส้นทาง ทำคะแนนรวม 69.8 คะแนน คว้าเหรียญทองไปครอง โดยเหรียญเงินเป็นของ วาเนสซ่า หยิน จากสิงคโปร์ และเหรียญทองแดงเป็นของ โซฟีเอล เดลา ครูซ จากฟิลิปปินส์
หลังการแข่งขัน อัศวินเผยว่ารู้สึกดีใจและภูมิใจที่สามารถคว้าเหรียญทองซีเกมส์ต่อหน้าแฟนกีฬาชาวไทย พร้อมยอมรับว่าเส้นทางแข่งขันรอบชิงชนะเลิศมีความยากและท้าทายสูง โดยเป้าหมายต่อจากนี้คือการพัฒนาฝีมือเพื่อควอลิฟายเข้าสู่เอเชียนเกมส์ 2026 ให้ได้
ด้าน ณัชชา ระบุว่าการคว้าเหรียญทั้งสองประเภทในซีเกมส์ครั้งนี้ถือว่าเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ พร้อมขอบคุณครอบครัวและสมาคมกีฬาปีนหน้าผาฯ ที่ให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง และยืนยันว่าจะกลับไปฝึกซ้อมอย่างหนัก โดยเฉพาะการเสริมความแข็งแรงของร่างกาย เพื่อเดินหน้าสู่เอเชียนเกมส์ 2026
ขณะที่ พล.ต.อ. อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ นายกสมาคมกีฬาปีนหน้าผาแห่งประเทศไทย แสดงความพอใจในผลงานของนักกีฬาไทย พร้อมเผยแผนผลักดันนักกีฬาชุดนี้สู่การแข่งขันระดับนานาชาติ ทั้งเอเชียนเกมส์และโอลิมปิกเกมส์ รวมถึงมีแนวคิดเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ปีนหน้าผาชิงแชมป์โลกรุ่นเยาวชน ในประเทศไทย เพื่อพัฒนากีฬาชนิดนี้อย่างยั่งยืน
ด้าน ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย กล่าวชื่นชมผลงานของนักกีฬาปีนหน้าผาไทย และเชื่อมั่นว่าวิสัยทัศน์ของสมาคมฯ จะสามารถผลักดันกีฬาปีนหน้าผาไทยสู่ระดับโอลิมปิกเกมส์ได้ในอนาคต
ทั้งนี้ ผลงานรวมของทัพนักกีฬาปีนหน้าผาไทยในซีเกมส์ ครั้งที่ 33 คว้ามาได้ทั้งหมด 2 เหรียญทอง, 2 เหรียญเงิน และ 3 เหรียญทองแดง
