×

นฤมลแถลงไม่ลงสมัคร ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์ พลังประชารัฐ เผยไม่น้อยใจ แต่ถึงเวลาผลัดใบ เสนอ 3 ชื่อคนรุ่นใหม่เข้าทำงานการเมือง

โดย THE STANDARD TEAM
24.03.2023
  • LOADING...
นฤมล ภิญโญสินวัฒน์

วันนี้ (24 มีนาคม) ที่พรรคพลังประชารัฐ​ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิก พรรคพลังประชารัฐ แถลงถึงอนาคตทางการเมืองของตนเองว่า ไม่ขอสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อของพรรค โดยกล่าวเริ่มต้นขอบคุณสื่อมวลชน พร้อมกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาไม่เคยแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ เพราะอยากรักษาชั้นความลับของเนื้อหาในการทำงาน และการแถลงข่าวครั้งนี้จะเป็นการแถลงข่าวเรื่องส่วนตัวเป็นครั้งแรก

 

ศ.ดร.นฤมลกล่าวต่อไปว่า พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคที่มีบุคลากรมีคุณภาพจำนวนมาก มีผู้ที่ร่วมก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐมาตั้งแต่ปี 2561 มีทั้งผู้ที่มาร่วมกันพัฒนาพรรคตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา และมีผู้ที่เพิ่งจะมาร่วมงานกับพรรค แต่ละท่านมีความสามารถที่หลากหลายและมีประโยชน์ ทุกคนมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำสิ่งที่ดีให้กับประชาชนผ่านนโยบายต่างๆ ของพรรค 

 

“5 ปีที่แล้ว แหม่มได้รับโอกาสจากพรรคพลังประชารัฐให้มาทำงานการเมืองและตัดสินใจลาออกจากราชการ ด้วยความหวังที่อยากจะเอาความรู้จากท่านที่ปรึกษาต่างๆ มาสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้ที่เสียภาษีคือประชาชนคนไทย” ศ.ดร.นฤมลกล่าว

 

ศ.ดร.นฤมลกล่าวต่ออีกว่า การเลือกตั้งในปี 2562 ตนเองไม่ใช่เด็กบ้านใหญ่ แต่ได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ ได้รับโอกาสจากผู้บริหารพรรค ให้มีชื่อ ส.ส. บัญชีรายชื่อในลำดับที่ 5 และเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวใน 10 อันดับแรกของพรรคพลังประชารัฐ โดยไม่ได้มีการร้องขอใดๆ กับใคร แต่ได้รับความเมตตาจากผู้บริหารพรรคที่เห็นถึงการทุ่มเทในการทำงาน และยังสำนึกในพระคุณของพรรคและผู้บริหารพรรค 

 

“การเลือกตั้งในครั้งนี้ 2566 แหม่มเป็นผู้บริหารพรรค จึงอยากเปิดโอกาสให้กับนักการเมืองรุ่นใหม่เข้ามาทำงาน และอยากให้คนรุ่นใหม่ได้รับโอกาสเหมือนที่เราเคยได้รับ อยากเห็นบัญชีรายชื่อลำดับต้นๆ เป็นคนรุ่นใหม่เหมือนที่เราเคยได้รับโอกาส ถ้าเราไม่เสียสละ คนใหม่แทบไม่มีโอกาสที่จะได้รับโอกาสให้อยู่ในลำดับต้นๆ เลย จึงตัดสินใจขอแสดงเจตนารมณ์ขอสละสิทธิ์ในการรับพิจารณา ส.ส. บัญชีรายชื่อของพรรคพลังประชารัฐ และให้กรรมการสรรหาให้มีการจัดลำดับบัญชีรายชื่ออีกครั้ง

 

“แหม่มพูดเสมอ ถึงเวลาที่พรรคพลังประชารัฐต้องผลัดใบ ให้พลังใหม่ได้เข้ามาทำงาน ครั้งนี้ถือว่าเป็นการผลัดอีก 1 ใบ ให้ใบใหม่ พลังใหม่ ได้ผลิดอกออกผลในพรรคพลังประชารัฐ​ ครั้งหน้าก็อาจมีอีกหลายใบผลัดใบ เราจะได้มีหลายใบใหม่ๆ ได้ผลิดอกออกผลขึ้นมา พรรคพลังประชารัฐเหมือนต้นไม้ผลัดใบไปเรื่อยๆ ต้นไม้ต้นนี้จะเติบโตอย่างเข้มแข็ง” ศ.ดร.นฤมลกล่าว

 

ศ.ดร.นฤมลกล่าวต่อไปว่า การทำงานการเมืองไม่ได้อยู่ในรูปแบบที่จะต้องอยู่ในสถานะเป็น ส.ส. เท่านั้น ยังมีอีกหลายรูปแบบที่เราสามารถทำงานการเมืองเพื่อช่วยพรรค สนับสนุนผู้สมัคร และรับใช้ประชาชนได้ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคืออุดมการณ์ทางการเมือง คือการเสียสละ ไม่ใช่การเอาชนะ ไม่ใช่การยึดติดในตำแหน่ง พร้อมทั้งเชื่อเสมอว่าหากเราไม่ยึดติด เราจะมีอิสระทางความคิด ซึ่งจะนำไปสู่อิสระในการตัดสินใจในทุกๆ เรื่องเพื่อส่วนรวม

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า อนาคตหลังจากนี้จะยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ ศ.ดร.นฤมลกล่าวว่า ยังช่วยงานในรูปแบบอื่นของพรรค ตนเองยังต้องรับผิดชอบกับผู้สมัคร พร้อมทั้งยอมรับว่า เสียใจที่ไม่สามารถทำให้ทุกคนสมหวังในการลงรับสมัครเลือกตั้งได้ ซึ่งเป็นผลมาจากการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ และเกิดพื้นที่ทับซ้อนที่ทำให้เกิดผลกระทบ เพราะเป็นความรับผิดชอบของเราที่ต้องนำพาเขาไปสู่การเลือกตั้ง แต่ทั้งนี้ตนยังช่วยงานสนับสนุนคนรุ่นใหม่ให้สมหวัง แล้ววันนี้ยังเป็นแม่ทัพในกรุงเทพมหานคร (กทม.) และขึ้นเวทีปราศรัยได้ ไม่มีใครห้าม

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า น้อยใจเรื่องลำดับบัญชีรายชื่ออยู่ในลำดับที่ 20 หรือไม่ ศ.ดร.นฤมลกล่าวว่า ไม่ใช่ การประชุมครั้งที่ผ่านมา ลำดับบัญชีรายชื่อเป็นไปตามที่ข่าวปรากฏจริงๆ เมื่อตนเองดูในบัญชีรายชื่อ 20 ลำดับแรกนั้น ได้เห็นถึงความตั้งใจของคนรุ่นใหม่ที่ทุ่มเท แต่ไม่ได้ขึ้นไปอยู่ในลำดับต้นๆ ถ้าคิดว่าเป็นผู้บริหารต้องได้ลำดับต้นๆ คนรุ่นใหม่จะไม่มีทางเข้ามาได้ และหลายพรรคการเมืองก็เป็นลักษณะที่คล้ายกัน จึงอยากให้เขามีโอกาสเข้ามาทำงานการเมือง แต่โอกาสจะเป็นไปได้น้อยถ้าไม่เสียสละ ส่วนคนรุ่นใหม่ที่ต้องการให้อยู่ในบัญชีรายชื่อ ต้องหารือกับกรรมการสรรหาก่อนว่าจะเป็นใคร และตนได้เสนอชื่อไปแล้ว 3 รายชื่อ เป็นคนที่ทำงานมาร่วมกัน 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การตัดสินใจครั้งนี้จะทำให้คนรุ่นใหม่ได้เลื่อนลำดับบัญชีรายชื่อขึ้นมาหรือไม่ ไม่ใช่เป็นการเปิดโอกาสให้กลุ่มบุคคลบางกลุ่ม ศ.ดร.นฤมลกล่าวว่า ฝากไปยังคณะกรรมการสรรหาได้พิจารณาขอโอกาสให้คนรุ่นใหม่เหมือนที่ตนเองได้รับโอกาส แต่ท้ายที่สุดเราเคารพการตัดสินใจมติของกรรมการ 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะลาออกจากตำแหน่งเหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ ศ.ดร.นฤมลกล่าวว่า ตอนนี้ยัง ส่วนอนาคตนั้นยังไม่ได้มีการหารือเรื่องนี้ 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคพลังประชารัฐเปลี่ยนให้เข้ามาเป็นบัญชีรายชื่อใน 3 อันดับแรก จะเปลี่ยนใจหรือไม่ ศ.ดร.นฤมลยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว หากดูจากการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว พรรคพลังประชารัฐ​ได้ ส.ส. บัญชีรายชื่อ 19 คน ครั้งนี้คาดว่าจะได้ใกล้ๆ เดิม หากอยู่ในลำดับ 10-20 ก็มีโอกาสเข้าสภาทั้งสิ้น และ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ได้คัดค้าน พร้อมกล่าวเพียงว่าตามใจ 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คนหน้าใหม่กับคนรุ่นใหม่เหมือนกันหรือไม่ ศ.ดร.นฤมลกล่าวว่า หากเป็นประโยชน์กับพรรค มีคะแนนเสียงและมีความนิยม และทำงานให้กับพรรค บุคลากรจำนวนมากมีความตั้งใจที่จะทำสิ่งดีๆ ให้กับพรรค 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากผลเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐ​ได้กลับมา 12 ที่นั่งใน กทม. จะส่งผลต่ออนาคตของ ศ.ดร.นฤมลหรือไม่ ศ.ดร.นฤมลกล่าวว่า ยังไม่ได้คุยอะไรในเรื่องนี้ เพราะแค่จัดผู้สมัครลง 33 เขตก็ลำบากใจแล้ว 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ระบุว่าหากมีการจัดบัญชีรายชื่อเป็นบ้านใหญ่นั้นหมายถึงใคร ศ.ดร.นฤมลกล่าวว่า ที่พูดหมายถึงตัวเอง เพราะการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ที่ตนชี้แจงว่าที่มาทางการเมืองมาได้อย่างไร และไม่ได้มาจากตระกูลบ้านใหญ่ แต่ได้รับความเมตตาจากผู้บริหารพรรคขนาดนั้น ยังสำนึกในพระคุณมาตลอด

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีเหตุผลอื่นที่ขอสละลงบัญชีรายชื่อนอกจากที่มีความคับข้องใจหรือไม่ ศ.ดร.นฤมลกล่าวว่า ไม่ได้คับข้องใจอะไร ขอย้ำว่าเหตุผลเพราะอยากให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานการเมืองจริงๆ ตนคุยกับคนรุ่นใหม่มาตลอดว่าต้องการเปิดให้ได้เข้ามาทำงานทางการเมือง ถ้าไม่มีช่องทางจะไม่เห็นภาพคนรุ่นใหม่มาทำงานกับพรรค พรรคพลังประชารัฐหลายคนเสียสละลาออกจากงานมาทำงานให้โดยไม่ได้อะไรเลย แต่มาทำงานด้วยความหวังดีกับพรรคและประชาชน และถ้าคนรุ่นใหม่ได้มาเป็นตัวแทนก็จะเป็นประโยชน์กับพรรค หากมีคะแนนเสียงและมีความนิยมก็จะทำให้คนเลือกพรรคมากขึ้น

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การประกาศสละลำดับบัญชีรายชื่อจะส่งผลกระทบในช่วงเวลานี้ที่ใกล้เลือกตั้งหรือไม่ ศ.ดร.นฤมลกล่าวว่า เป็นเรื่องดี เพราะจะสร้างบรรทัดฐานของนักการเมืองพรรคพลังประชารัฐ​ว่าเราไม่ได้ยึดติด และพร้อมเสียสละให้คนอื่นได้มีโอกาส และคิดว่าการแถลงข่าววันนี้เชื่อว่าไม่สูญเปล่า และจะทำให้ผู้สมัครมีกำลังใจ นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีให้กับผู้สมัคร

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีใครทาบทามให้ย้ายพรรคไปร่วมงานด้วยหรือไม่ ศ.ดร.นฤมลกล่าวว่า ยังไม่มี ตนเกิดมาจากพรรคพลังประชารัฐ ถ้าไม่ได้โอกาสจากผู้บริหารคงไม่ได้ทำงานมาถึงวันนี้ ถ้าจะทิ้งต้องมีสำนึกในสิ่งที่เราเคยได้รับมา และไม่มีใครกดดัน 

 

ทั้งนี้ ระหว่างที่ ศ.ดร.นฤมลแถลงข่าวได้มีน้ำตาคลอ เมื่อเล่าถึงอดีตที่ได้รับโอกาสทำงานทางการเมืองจากผู้บริหาร โดยมีแกนนำพรรค เช่น วิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค และ พล.อ. กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ กรรมการบริหารพรรค ยืนฟังตลอดการแถลงโดยไม่ได้แสดงความเห็นใดๆ

 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X