วันนี้ (21 กุมภาพันธ์) พล.อ. ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานในพิธีงานวันรำลึกวีรกรรมผู้เสียสละเขาค้อ ประจำปี 2566 ณ อนุสรณ์ผู้เสียสละเขาค้อ อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของวีรชนผู้กล้าหาญและเสียสละ ตลอดจนญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตได้มาพบปะกัน และมีการวางพวงมาลาของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จากนั้น พล.อ. ณรงค์พันธ์กล่าวสดุดีวีรชนผู้กล้าหาญ วางพวงมาลาสักการะ และร่วมพิธีสงฆ์ทำบุญอุทิศไปให้ผู้เสียสละเขาค้อ
พล.อ. ณรงค์พันธ์กล่าวภายหลังร่วมงานรำลึกวีรกรรมผู้เสียสละเขาค้อว่า เรื่องนี้กองทัพบกให้ความสำคัญ และไม่ใช่แค่กองทัพบก แต่รวมถึงประชาชนคนทั้งประเทศ โดยเฉพาะเด็กรุ่นหลัง ขอเน้นย้ำว่าควรจะต้องสำนึกในบุญคุณของบุคคลเหล่านี้ ไม่ว่าทหาร ตำรวจ หรือพลเรือน ที่ได้รับบทเรียนจากเหตุการณ์ในอดีตร่วมกัน ซึ่งเป็นเรื่องของความขัดแย้ง และสุดท้ายสามารถจบลงด้วยดี ประชาชนก็มาเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ส่งต่อมาถึงคนรุ่นหลัง ซึ่งความอยู่ดีกินดีในปัจจุบันก็มาจากบุคคลในอดีตช่วยกันแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง โดยเฉพาะในพื้นที่นี้ที่มีเหตุการณ์ ซึ่งการถ่ายทอดบทเรียนในอดีตเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องช่วยกันถ่ายทอดให้คนรุ่นหลังได้รับทราบถึงความเสียสละ
ทั้งนี้ในโลกประชาธิปไตยปัจจุบัน เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีความคิดเห็นแตกต่าง แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานเหตุผลและข้อเท็จจริง ความเห็นต่างจะต้องไม่นำไปสู่ความขัดแย้งและใช้ความรุนแรง
“แต่สิ่งที่อยากจะฝากไว้ก็คือ บรรพชนที่เสียสละ ที่สูญเสียอวัยวะสำคัญ แต่มีจิตใจรักชาติ ไม่เคยเสียใจกับสิ่งที่ทำ และอุทิศตนเพื่อประเทศชาติ และประชาชนส่วนรวม ณ เวลานี้ทุกคนควรจะคิดและทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ” พล.อ. ณรงค์พันธ์กล่าว
ส่วนที่หลายพรรคการเมืองหาเสียงเลือกตั้งในขณะนี้ โดยต่างประกาศเป็นประชาธิปไตย อยากฝากอะไรในเรื่องความสามัคคี พล.อ. ณรงค์พันธ์กล่าวว่า เรื่องการเมืองประเทศไทยก็เป็นประชาธิปไตย แต่ความเห็นต่างต้องเคารพในสิทธิกันและกัน เคารพความคิดเห็นซึ่งกันและกัน คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม ควรนำความคิดเห็นที่ดีมาร่วมกันใช้ให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติ ไม่ว่าใครจะได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนก็ควรรับฟังความคิดเห็นในหลายด้าน เพื่อนำไปสู่ประโยชน์ส่วนรวม นี่คือประชาธิปไตยที่ดีที่สุด
ส่วนจะมีข้อแนะนำอะไรกับประชาชนหรือไม่ ขอตอบว่า ไม่มี พร้อมย้ำว่าประชาชนควรใช้วิจารณญาณในการรับฟังข้อมูล ส่วนตัดสินใจอย่างไรขึ้นอยู่กับความเห็นแต่ละบุคคล เพราะถือเป็นสิทธิ แต่อยากให้พิจารณาด้วยความรอบคอบ วิเคราะห์ด้วยข้อมูลอย่างทั่วถึง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ทหารในปัจจุบันสั่งไม่ได้ใช่หรือไม่ พล.อ. ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ทหารเมื่อถอดเครื่องแบบก็คือประชาชน ถือบัตรประชาชนเหมือนกันหมด และเมื่อถึงเวลาที่ต้องใช้สิทธิเลือกตั้งก็เป็นเรื่องของแต่ละบุคคลว่าชื่นชอบใคร แต่ย้ำว่าทางหน่วยทหารจะให้คำแนะนำในการพิจารณาอย่างรอบและถี่ถ้วน พร้อมถามกลับว่า ประชาชนทุกคนใครจะสั่งได้ เข้าไปในคูหาเลือกตั้งก็ไม่มีใครสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ว่าเลือกใคร ทุกคนมีสิทธิเลือก
“ส่วนการเปิดหน่วยทหารให้พรรคการเมืองเข้ามาหาเสียงนั้น ก็ต้องไปดูความพร้อมและปัจจัยที่จะดำเนินการว่าได้หรือไม่ เพราะหน่วยทหารมีหลายรูปแบบ ต้องดูถึงความเหมาะสม โดยหาก กกต. ร้องขอมาก็ต้องพิจารณาว่าจะให้หรือไม่ให้” พล.อ. ณรงค์พันธ์กล่าว