วันนี้ (22 มีนาคม) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) ได้นำตัว อนิวัต ประทุมถิ่น หรือ นารา เครปกะเทย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 751/2566 ลงวันที่ 20 มีนาคม 2566 คดีฉ้อโกงขายกล่องสุ่ม มายื่นขออำนาจศาลฝากขังครั้งแรกในข้อหาฉ้อโกงประชาชนโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนฯ ซึ่งผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ
คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์ว่า สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายกับพวกได้เข้าร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับอนิวัต กรณีผู้ต้องหาได้โฆษณาผ่านสื่อโซเชียลต่างๆ ชักชวนให้ผู้เสียหายและประชาชนทั่วไปร่วมลงทุนซื้อกล่องสุ่มทองนารา โดยเริ่มต้นที่ราคากล่องละ 10,000 บาท, 50,000 บาท, 1 แสนบาท และ 2.5 แสนบาท อ้างว่าจะให้ผลตอบแทนแก่ผู้ที่ลงทุน
หลังจากนั้นผู้ต้องหาได้ยุติการขายกล่องสุ่ม ต่อมาได้ชักชวนผู้เสียหายให้ลงทุน โดยใช้คำบิดเบือน เช่น เปิดบิล 50,000 บาท จะได้รับผลตอบแทนเป็นเงินสด 75,000 บาท ภายใน 1 เดือน, เปิดบิล 4,000 บาท จะได้รับผลตอบแทนเป็นเงินสด 8,000 บาท ภายใน 34 วัน แต่ปรากฏว่าเมื่อลงทุนไปแล้วผู้เสียหายไม่ได้รับทองคำและเงินตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง เป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเสียหาย จำนวน 5 ราย มูลค่าทั้งสิ้น 8.85 แสนบาท
จากการสอบสวน ร.ต. ทรงพล เบี้ยวทุ่งน้อย นิติกรประจำส่วนป้องปรามการเงินนอกระบบ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง กล่าวเกี่ยวกับการลงทุนดังกล่าว มีใจความว่าการลงทุนดังกล่าวมีการเสนอจ่ายผลประโยชน์ตอบแทน ซึ่งถือว่าเป็นการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนในอัตราที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงินจะพึงจ่ายได้ ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงิน พ.ศ. 2523
ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินจะพึงจ่ายได้ในช่วงเวลาเกิดเหตุ อัตราร้อยละ 3.80 ต่อปี การกระทำของผู้ต้องหาจึงเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดฐานกู้ยืมเงิน ที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และปรากฏจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ผู้ต้องหาได้ชักชวนผู้เสียหายในคดีนี้ รวมทั้งบุคคลทั่วไปผ่านสื่อโซเชียล เช่น Facebook และ TikTok ของผู้ต้องหา ให้ร่วมลงทุนซื้อกล่องสุ่มทองนารา เมื่อผู้เสียหายและประชาชนทั่วไปหลงเชื่อ ได้โอนเงินเข้าบัญชีของผู้ต้องหา หลังจากนั้นได้ประกาศยุติการขายกล่องสุ่ม เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย
ซึ่งความจริงแล้วผู้ต้องหาไม่มีเจตนาจะลงทุนขายกล่องสุ่ม หรือวางบิล เพื่อค้าขายให้ได้กำไรมาแบ่งให้ผู้เสียหายมาตั้งแต่ต้น แต่เป็นการหลอกลวง ชักจูงให้คนมาลงทุน เพื่อนำเงินของคนใหม่มาจ่ายคนเก่า จากพยานหลักฐานดังกล่าวจึงมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าผู้ต้องหาได้กระทำความผิดตามพฤติการณ์ดังกล่าว พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับ
ต่อมาเมื่อวันที่ 21 มีนาคม ตำรวจสามารถติดตามจับกุมอนิวัต ผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้ที่ตำบลบ้านกรด อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงแจ้งข้อหาฉ้อโกงประชาชนโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และโฆษณาเป็นการสนับสนุนโดยตรงหรือโดยอ้อมให้มีการกระทำผิดกฎหมายหรือศีลธรรม หรือนำไปสู่ความเสื่อมเสียในวัฒนธรรมของชาติ ซึ่งถือว่าเป็นข้อความที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค หรือเป็นข้อความที่อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อสังคมเป็นส่วนรวม อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 343 วรรคแรก ประกอบ มาตรา 83 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 14 (1), พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มาตรา 4 และ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 22, 48 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
จากนั้นจึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนยังระบุว่าขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา นอกจากนี้ได้ดำเนินการสอบสวนผู้ต้องหามาจะครบ 48 ชั่วโมงแล้ว แต่ยังไม่แล้วเสร็จ ยังต้องสอบสวนพยานอีก 5 ปาก รอผลการตรวจพิสูจน์ของกลาง และรอผลการตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา จึงขออำนาจศาลฝากขังครั้งแรก มีกำหนด 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม – 2 เมษายน ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้
ภายหลังศาลอนุญาตฝากขังแล้ว ทีมทนายความนำโดย เดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ทนายความของอนิวัตได้เปิดเผยว่า วันนี้ศาลอนุญาตฝากขัง ตนในฐานะทนายความก็ได้ให้คำแนะนำกับลูกความว่าจะยังไม่ขอยื่นประกันตัวในวันนี้ โดยรอให้เวลาผ่านไปสักระยะหนึ่งแล้วค่อยยื่นประกันตัวจะดีกว่า โดยไม่เกี่ยวกับจำนวนหลักทรัพย์แต่อย่างใด เป็นเรื่องของเหตุผลประกอบคำขอยื่นประกันตัว
มีรายงานว่าหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะนำตัวอนิวัตไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครระหว่างฝากขังต่อไป