นับเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ของวงการเทนนิสอีกครั้ง เมื่อ นาโอมิ โอซากะ ดาวรุ่งมือ 19 ของโลก จากญี่ปุ่น พลิกล็อกคว้าแชมป์ ยูเอสโอเพ่น 2018 แกรนด์สแลมสุดท้ายของปี ที่สนามเทนนิสแห่งชาติ บิลลี จีน คิงส์ ในมหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยการเอาชนะแชมป์เก่า 6 สมัย เซเรนา วิลเลียมส์ ไป 2 เซตรวด 6-2 และ 6-4 ทำให้เธอกลายเป็นนักเทนนิสชาวญี่ปุ่นคนแรกที่สามารถคว้าแชมป์ระดับแกรนด์สแลมได้สำเร็จ
แต่สิ่งที่ทุกคนพูดถึงในเกมนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างการแข่งขันเซตที่ 2 เมื่อนาโอมิเบรกเกมเสิร์ฟเซเรนา และขึ้นนำ 4-3 ทันใดนั้นเอง เซเรนาได้ออกอาการอารมณ์เสีย หลังโดน แชร์ อัมไพน์ ตัดแต้มจากการละเมิดกฎ 2 ครั้ง ครั้งแรกคือ โค้ชชิง ไวโอเลชัน หรือรับคำแนะนำจากโค้ชที่ชมเกมอยู่ข้างสนาม ซึ่งเซเรนาได้ปฏิเสธอย่างหนักหน่วงว่า โค้ชของเธอเพียงแค่ยกนิ้วโป้งให้เท่านั้นเอง
โดยเซเรนาได้กล่าวต่อกรรมการว่า “ฉันไม่เคยโกงมาก่อนในชีวิต”
“คุณมันคนโกหก และจะไม่ได้ทำหน้าที่ในคอร์ตที่ฉันเล่นอีกต่อไป ตราบใดที่คุณยังมีชีวิต” รวมถึงได้เรียกร้องให้กรรมการขอโทษที่กล่าวหาว่าเซเรนาโกง
“พูดสิว่าคุณเสียใจ กล้าดียังไงที่มาตัดสินว่าฉันโกง คุณขโมยคะแนนไปจากฉัน คุณมันก็โจรเหมือนกันนั่นแหละ”
หลังคำพูดดังกล่าว กรรมการได้ตัดสินใจหักเซเรนา 1 เกมเต็ม จนตามนาโอมิห่างเป็น 3-5 ก่อนที่ นาโอมิ โอซากะ จะหวดชนะไป 6-4 คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จเป็นสมัยแรก
หลังจบการแข่งขัน แพทริก โมตาโลกลู โค้ชของเธอได้ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า เขากำลังให้คำแนะนำเธออยู่จริง แต่ไม่ได้คิดว่าเซเรนากำลังมองเขาอยู่ เช่นเดียวกับที่เขาเชื่อว่า โค้ชของนาโอมิก็กำลังให้คำแนะนำเหมือนกับที่โค้ชทุกๆ คนทำ
ขณะที่บทสัมภาษณ์หลังเกมของเซเรนายืนยันชัดเจนว่า เธอไม่ได้ถูกโค้ชอยู่ และเธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงให้สัมภาษณ์แบบนั้น
“ฉันเพิ่งส่งข้อความหาแพทริก ว่าเขากำลังพูดถึงอะไร เพราะเราไม่มีสัญลักษณ์การสื่อสารผ่านมือ
“เราไม่เคยพูดคุยกันเรื่องการใช้สัญญาณมือมาก่อน และไม่เคยขอให้มีการโค้ชในระหว่างการแข่งขันระดับ WTA
“ฉันจะพยายามหาคำตอบให้ได้ว่าทำไมเขาถึงพูดแบบนั้น”
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: