กรุงปักกิ่งของจีนพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่รายแรกในรอบเกือบ 6 เดือนเมื่อวานนี้ (28 กรกฎาคม) ขณะที่ทางการจีนกำลังเร่งควบคุมการระบาดของไวรัสสายพันธ์ุเดลตา หลังเกิดคลัสเตอร์ที่เชื่อมโยงกับสนามบินในเมืองหนานจิง ทางภาคตะวันออกของประเทศ
คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 49 รายเมื่อวันพุธ ซึ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 24 รายจาก 3 มณฑลอื่น นอกเหนือจากเจียงซู ทำให้ตัวเลขรวมผู้ติดเชื้อที่เชื่อมโยงกับคลัสเตอร์แห่งใหม่เพิ่มเป็นอย่างน้อย 175 รายแล้ว
การระบาดระลอกใหม่สร้างความวิตกกังวลอย่างมาก เนื่องจากเดลตาเป็นสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดได้เร็วและง่ายกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม ขณะที่หนานจิง เมืองเอกของมณฑลเจียงซูเป็นฮับอุตสาหกรรมและการขนส่งที่สำคัญของจีน และมีประชากรอาศัยมากกว่า 9.3 ล้านคน
ทั้งนี้การระบาดครั้งใหม่ของจีนเริ่มต้นขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังพบผู้ติดเชื้อมากกว่า 10 รายในหมู่พนักงานทำความสะอาดที่ท่าอากาศยานนานาชาติลู่โข่ว ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการตรวจปูพรมเชิงรุกให้กับประชาชน 9 ล้านคน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งการตรวจเชื้อแบบหมู่รอบสองเสร็จสิ้นไปเมื่อสุดสัปดาห์ ส่วนการตรวจรอบที่ 3 เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
นอกจากคลัสเตอร์ที่หนานจิงแล้ว จีนยังกังวลคลัสเตอร์แห่งที่ 2 ที่เชื่อมโยงกับกิจกรรมไลฟ์โชว์ที่อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ยในมณฑลหูหนาน ซึ่งพบ 3 เคสยืนยันในเมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง โดยทั้ง 3 รายเคยไปสนามบินหนานจิงก่อนเดินทางไปชมไลฟ์โชว์ที่จางเจียเจี้ยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
สื่อรายงานว่า การแสดงที่จางเจียเจี้ยเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม มีผู้ชมมากกว่า 3,000 คน ซึ่งเคสผู้ติดเชื้อในปักกิ่งมีความเชื่อมโยงกับโชว์ดังกล่าว ซึ่งถือเป็นผู้ติดเชื้อรายแรกของปักกิ่งในรอบเกือบ 6 เดือนหลังไม่พบการติดเชื้อนาน 179 วัน
ภาพ: Kevin Frayer / Getty Images
อ้างอิง: