วันนี้ (27 กันยายน) ประเสริฐ จันทรรวงทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน ประกอบด้วย ณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล, นิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย, วัชรา ณ วังขนาย เลขาธิการพรรคเสรีรวมไทย, สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส. และประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ และ พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อเอาผิด พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพวก โดยกล่าวหา 2 กรณี ดังนี้
- กรณีอนุมัติงบกลางและเงินสำรองจ่ายฉุกเฉินผิดวัตถุประสงค์และหลักเกณฑ์ โดยกล่าวหา พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกับพวกรวม 7 คน ประกอบด้วย เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม, ผู้บริหารมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน 3 คน และนักการเมืองอีก 2 คน ในข้อกล่าวหาว่าอาจมีการทุจริตไม่ชอบมาพากลในการอนุมัติงบกลาง 2,054 ล้านบาท ผิดวัตถุประสงค์และไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดไว้ ใช้งบประมาณซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่นและมิใช่เรื่องเร่งด่วน
การใช้งบประมาณดังกล่าวมิได้เป็นไปตามรายละเอียดที่กำหนดไว้ใน TOR เช่น เรื่องระยะเวลาการอบรม 2 วัน มีค่าใช้จ่ายพักค้างคืนและค่าอาหาร 4 มื้อ แต่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าอบรมเพียงครึ่งวันและได้อาหารแค่ 1 มื้อ เป็นต้น
- กรณีจัดซื้อถุงมือยางขององค์การคลังสินค้า (อคส.) โดยกล่าวหา พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ อคส. ในข้อกล่าวหาปล่อยปละละเลยไม่ติดตามดำเนินการอายัดเงินจำนวน 2,000 ล้านบาท กรณีการจัดซื้อถุงมือยางของ อคส. แต่เพิกเฉย ไม่ได้สั่งการใดๆ
ประเสริฐกล่าวเพิ่มเติมว่า ภายหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจเสร็จสิ้น พรรคฝ่ายค้านได้ทำงานต่อเนื่อง ติดตามค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมจนมีหลักฐานมากเพียงพอและมีความมั่นใจ ประกอบกับตลอดเวลาที่ผ่านมาเห็นชัดเจนแล้วว่า พล.อ. ประยุทธ์และพวก ไม่เคยติดตามแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
โดยเฉพาะเรื่องถุงมือยาง 2,000 ล้านบาท ที่ทอดเวลาปล่อยให้คู่สัญญาไปดำเนินการฟอกเงินจนทำให้รัฐเสียหาย ทั้งที่ พล.อ. ประยุทธ์และจุรินทร์สามารถติดตามเส้นทางการเงินได้ แต่กลับมิได้สั่งการใดๆ เพื่อระงับยับยั้งจนเกิดความเสียหายดังปรากฏชัดเจน ดังนั้นพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านจึงรวบรวมหลักฐานอย่างพร้อมมูลมาเพื่อเสนอต่อ ป.ป.ช. ให้มีการไต่สวน พล.อ. ประยุทธ์และพวก