นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาคำร้องของนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ แกนนำ นปช. ที่ขอให้ ป.ป.ช. นำมติเรื่องสลายการชุมนุมของกลุ่ม นปช. เมื่อปี 2553 ที่ ป.ป.ช. มีมติไปแล้วกลับมาพิจารณาทบทวนใหม่อีกครั้งว่า เรื่องนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาบรรจุวาระไว้แล้ว โดยจะนำเข้าที่ประชุมในวันพฤหัสบดีนี้ และจะแถลงผลการลงมติให้ทราบในวันพฤหัสบดีเช่นกัน
นายวรวิทย์เปิดเผยอีกว่าในการทำงานของ ป.ป.ช. เมื่อมีผู้ร้องเรียน เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบสำนวนที่ทำเสร็จแล้วจะนำมาทบทวนเปรียบเทียบกับข้อเท็จจริงของผู้ร้องว่ามีข้อมูลแตกต่างหรือข้อมูลเพิ่มเติมหรือไม่ ทั้งนี้ก็จะนำเอามาเปรียบเทียบกับคดีการสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยด้วย
นายวรวิทย์ยังกล่าวถึงกรณีการตรวจสอบทุจริตอาหารกลางวันเด็กว่า ป.ป.ช. มีคณะกรรมการ ป.ป.ช. ประจำจังหวัด ซึ่งการทุจริตที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและพิจิตร ป.ป.ช. จังหวัดจะเป็นผู้ไปรวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐาน หากพบว่ามีผู้กระทำผิดและมีส่วนเกี่ยวข้องก็อยู่ในอำนาจของ ป.ป.ช. ที่จะดำเนินการได้ ก็จะส่งเรื่องมาให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวนดำเนินการในขั้นตอนต่อไป ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างกรรมการ ป.ป.ช. จังหวัดเสนอเรื่องเข้ามา
ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบนาฬิกาหรูของพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายวรวิทย์ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยระบุเพียงสั้นๆ ว่าจะแถลงข่าวเมื่อการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว
สำหรับปมประเด็นนาฬิกาหรูของพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา ระหว่างร่วมถ่ายรูปกับคณะรัฐมนตรี ‘ประยุทธ์ 5’ บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล จนถึงเวลานี้ผ่านมาแล้ว 6 เดือน ยังไม่มีบทสรุปของการตรวจสอบจาก ป.ป.ช. แต่อย่างใด
