สำรวจ ‘เมียวดี’ ดาวน์ทาวน์ที่เคยเหงาในอดีต มีขุมทรัพย์อะไรซ่อนอยู่บ้าง

‘แม่สอด’ เป็นเมืองเล็กๆ กลางหุบเขาในจังหวัดตาก วันนี้กำลังเป็นที่สนใจของนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากแม่สอดเป็นเมืองการค้าชายแดนเชื่อมกับเมียวดี ประเทศเมียนมา

โดยรัฐบาลไทยได้จัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตากตั้งแต่ปี 2558 แม่สอดจึงเป็นหนึ่งในด่านค้าชายแดนเศรษฐกิจสำคัญของไทย

ในเชิงพื้นที่ เมียวดี-แม่สอดห่างกับไทยเพียงแม่น้ำเมยกั้นไม่ถึง 1 กิโลเมตรเท่านั้น ซึ่งไทยทำการค้าผ่านชายแดนนี้ถึง 80% ส่วนที่เหลือคือ ด่านแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก และระนอง-เกาะสอง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

3 ปี การเดิมพันอิสรภาพกับความบอบช้ำของ ‘เศรษฐกิจ (ชาว) เมียนมา’

ชมคลิป: เปิดขุมทรัพย์ ‘จีนเทา’ 5.55 แสนล้านในเมียวดี | Morning Wealth 24 เม.ย. 2567

จับตาเมียนมาวิกฤต ส่อฉุดการค้าชายแดนไทยสูญเหลือต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท ด้านธุรกิจไทยช่วง 3 ปีที่ผ่านมาถอนลงทุนเหลือไม่ถึง 100 ราย

ถามว่าเมียวดีสำคัญอย่างไร เมียวดีถือว่าเป็นประตูเศรษฐกิจบานใหญ่ทางการค้าสู่อาเซียน โดยมีพื้นที่ตั้งอยู่ในรัฐกะเหรี่ยง มีเมืองหลวงคือ เมืองพะอัน

“ทางการเมียนมาเองก็จัดให้เมียวดีเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 จากด่านการค้า 15 แห่งในประเทศ เป็นเมืองสำคัญในการกระจายสินค้าจากไทยและภูมิภาคอินโดจีนไปยังเมืองต่างๆ”

เมียวดีถูกพูดถึงอีกหลังสถานการณ์ชายแดนร้อนระอุขึ้น เมื่อฐานทหารเมียนมาเขตเมียวดีถูกยึด โดยล่าสุดกองทัพเมียนมาส่งตัวแทนเจรจา ‘หม่อง ชิต ตู่’ ผู้นำ KNA – อดีต BGF ให้คืนอาวุธ และขู่ว่าหากขัดขืนจะโจมตี ‘ชเวโก๊กโก่’ เมืองเล็กๆ ที่อยู่ในเมียวดี

พื้นที่แห่งนี้มีข้อพิพาทกันมานาน ซึ่งรัฐบาลไทยและเมียนมาทราบดีว่าเป็น ‘เมืองแห่งทุนจีนสีเทา’

รู้จัก ‘ชเวโก๊กโก่’

ว่ากันว่าพื้นที่แห่งนี้มีการลักลอบค้าอาวุธ อาชญากรรมทางออนไลน์ สแกมเมอร์ แหล่งคาสิโนผิดกฎหมาย และเป็นแหล่งฟอกเงิน ซึ่ง ณ วันนี้ก็ยังมีนักลงทุนชาวจีนที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยพัฒนาเป็นเมืองใหม่ ‘ไชน่าทาวน์’

โครงการ Shwe Kokko (ชเวโก๊กโก่) เริ่มพัฒนาเมื่อปี 2560 โดยนักลงทุนชาวจีน ซึ่งนักลงทุนรายนี้มีหมายเรียกและหมายจับทั้งในจีนเองและตำรวจสากล เป็นโครงการที่มีการลงทุนโดยบริษัท Yatai International Holding Group (IHG) ที่จดทะเบียนในฮ่องกง มูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์ (19.45 ล้านล้านจ๊าด) ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) ซึ่งเป็นกองทัพเมียนมา กลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจาก พ.อ. ซอว์ ชิต ตู่ (Saw Chit Thu) เดิมชื่อกองทัพกะเหรี่ยงประชาธิปไตย (DKBA)

เรียกได้ว่าเป็นการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในอินโดจีน ซึ่งหากสร้างอาณาจักรเมืองใหม่ไชน่าทาวน์ชเวโก๊กโก่เสร็จสมบูรณ์ จะสามารถยึดเป็นหัวมังกรใหญ่ริมชายแดนเมียนมา-ไทย ตรงข้ามแม่สอด

เนื่องจากโครงการนี้สร้างบ้านเรือนที่อยู่อาศัย 70-80 ล้านบาทต่อหลังคาเรือน สถานบันเทิง ซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้าครบวงจร สถานีตำรวจเป็นของตัวเอง สนามบิน โกดังสินค้า ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ อัครสถานครบวงจร โรงแรมที่พักขนาด 1,200 ห้อง และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย รวมทั้งคาสิโนขนาดใหญ่

นอกจากนี้ ยังมีการแบ่งพื้นที่บางส่วนตั้งเขตอุตสาหกรรมขึ้นมา ชเวโก๊กโก่จึงเปรียบเสมือนเขตปกครองพิเศษ เป็นน้องๆ เขตปกครองพิเศษฮ่องกง เป็นการลงทุนมากกว่าแห่งอื่นๆ ที่กลุ่มทุนมังกรจีนเคยไปลงทุนในต่างแดน ซึ่งอาณาจักรเมืองใหม่ชเวโก๊กโก่จะยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่ทุนจีนเคยสร้างมา

นานาประเทศจึงจับตาว่า ประเทศมหาอำนาจใดที่จะเข้ามามีบทบาทกับเมียวดี ท่ามกลางรายงานข่าวระบุว่า มิน อ่อง หล่าย ที่อาจสนับสนุนจีนมาปราบทุนจีนสีเทา ขณะที่ฝ่ายต่อต้านก็เปิดการเจรจากับตัวแทนสหรัฐฯ

15 ปี เมียวดีขุมทรัพย์ทุนจีน

พล.อ. นิพัทธ์ ทองเล็ก ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และอดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ THE STANDARD NOW ว่า ช่วงที่ผ่านมาพื้นที่เมืองเมียวดีของเมียนมาอยู่ในการดูแลควบคุมของกลุ่มกะเหรี่ยง KNU และกลุ่มอื่นๆ โดยมีการทำข้อตกลงร่วมกับกองทัพเมียนมาให้เข้ามาตั้งหน่วยทหารอยู่ร่วมกันในพื้นที่เมียวดี

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันมีตัวแสดงใหม่ที่เข้ามามีบทบาทในพื้นที่คือ กลุ่มทุนจีน ซึ่งเป็นกลุ่มอำนาจหนึ่งที่เข้ามามีบทบาทในการบริหารเมืองเมียวดี ซึ่งเชื่อว่าทุนจีนที่มีเงินทุนเข้ามามีอำนาจในการต่อรอง และมีความเกี่ยวข้องกับการสู้รบที่เกิดขึ้นด้วย โดยยังคาดเดาไม่ได้ว่า ผลการเจรจาจะออกมาอย่างไร

เบื้องต้นประเมินว่า กลุ่มทุนจีนที่เป็นเจ้าของกิจการที่ลงทุนในเมียวดีมีความต้องการจะรักษาเมืองเมียวดีให้ยังอยู่ต่อไป ซึ่งขึ้นกับเงื่อนไขการเจรจาแบ่งผลประโยชน์

“เดิมเมียวดีถือเป็นเมืองดาวน์ทาวน์ที่เคยเหงาๆ แต่ช่วง 15 ปีหลังที่ผ่านมาที่ผมเฝ้าดูอยู่ในช่วงรับราชการ ไม่ใช่แล้ว วันนี้กลับมีชีวิตชีวา มีเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มีโรงแรมขนาดใหญ่ สถานบันเทิงที่คนไทยเข้าไปทำงานกัน”

อ้างอิง: