สื่อทางการของเมียนมารายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมใหญ่ในเมียนมาพุ่งขึ้นเป็น 74 รายแล้ว หลังจากได้รับผลกระทบจากอิทธิพลไต้ฝุ่นยางิ ทำให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมทั่วประเทศ มีรายงานผู้สูญหายอย่างน้อย 89 คน ขณะที่การค้นหาและกู้ภัยยังคงดำเนินต่อไป
นอกจากเมียนมาแล้ว ไต้ฝุ่นยางิซึ่งเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดที่พัดถล่มเอเชียในปีนี้ ยังคร่าชีวิตผู้คนไปหลายร้อยคนทั้งในเวียดนามและไทย ขณะที่น้ำจากแม่น้ำเอ่อล้นไหลเข้าท่วมหลายเมืองใน 2 ประเทศ
ทั้งนี้ อุทกภัยในเมียนมาเริ่มต้นเมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา ขณะที่สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (OCHA) รายงานว่า ไต้ฝุ่นยางิส่งผลกระทบต่อเมืองหลวงของเมียนมาอย่างกรุงเนปิดอว์ รวมถึงภูมิภาคมัณฑะเลย์, มาเกว, พะโค ตลอดจนพื้นที่รัฐฉานตะวันออกและใต้, รัฐมอญ, กะเหรี่ยง และกะยา ซึ่งซ้ำเติมสถานการณ์ในประเทศที่กำลังเผชิญกับความขัดแย้งที่ตึงเครียดระหว่างรัฐบาลทหารเมียนมาและกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ
ขณะที่ภาคกลางของเมียนมาได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากแม่น้ำและลำธารที่ไหลลงมาจากเนินเขารัฐฉาน การรายงานเหตุการณ์และการเข้าถึงข้อมูลเพิ่มเติมยังเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานเสียหาย รวมไปถึงระบบโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตถูกตัดขาด
นอกจากนี้สื่อของเมียนมายังรายงานว่า มีเขื่อน 5 แห่ง เจดีย์ 4 แห่ง และบ้านเรือนกว่า 65,000 หลังถูกทำลายจากอุทกภัยครั้งนี้ มีประชาชนกว่า 230,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนเพื่อความปลอดภัย ขณะที่ประชากรราว 1 ใน 3 ของเมียนมาจากจำนวนประชากรทั้งหมด 55 ล้านคน จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม แต่หลายองค์กรยังไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ที่ประสบภัยได้ เนื่องจากข้อจำกัดด้านความปลอดภัยและการสัญจรทางน้ำเป็นไปอย่างยากลำบาก
ด้าน พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูง ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบการกู้ภัยและการบรรเทาทุกข์ โดยรัฐบาลร้องขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ พร้อมจัดตั้งศูนย์บรรเทาทุกข์เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ไร้ที่อยู่อาศัยจากน้ำท่วมครั้งนี้
ภาพ: Sai Aung MAIN / AFP
อ้างอิง: